ไลฟ์สไตล์

เหตุไฉน!!'ซูโดอีเฟดรีน' ถึงเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด

เหตุไฉน!!'ซูโดอีเฟดรีน' ถึงเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด

02 มี.ค. 2555

เหตุไฉน!!'ซูโดอีเฟดรีน' ถึงเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด โดย...พวงชมพู ประเสริฐ

                     นับเป็นเรื่องช็อก!!! วงการสาธารณสุขพอสมควร เมื่อกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตรวจสอบพบว่า เภสัชกรในโรงพยาบาลอุดรธานีและอุตรดิตถ์ มีการเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบในปริมาณมากผิดปกติ โดยรายแรกลักลอบส่งยากว่า 6 หมื่นเม็ดและรายที่ 2 สั่งซื้อมากกว่า 9 แสนเม็ด ที่น่าสงสัยเพราะซูโดอีเฟดรีนเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด

                     ซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) เป็น 1 ใน 14 ของสารตั้งต้นที่ใช้ในการลักลอบผลิตยาเสพติดที่กำหนดตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดให้โทษและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ.1988 สามารถนำไปผลิตเป็นเมทแอมเฟตามีน หรือที่รู้จักในชื่อยาบ้า ยาไอซ์

                     ทำไมซูโดอีเฟดรีนถึงเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ภญ.ดร.วิยะดา อัครวุฒิ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า เนื่องจากสูตรโครงสร้างทางเคมีของซูโดอีเฟดรีนมีความคล้ายคลึงอย่างมากกับเมทแอมเฟตามีน เมื่อผู้ร้ายนำไปเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็ทำให้กลายเป็นเมทแอมเฟตามีน โดยซูโดอีเฟดรีนจะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท

                     ทางการแพทย์ซูโดอีเฟดรีนเป็นยาลดอาการคัดจมูก แก้หวัด โดยตำรับยาที่มีซูโดอีเฟดรีนแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ตำรับยาสูตรเดี่ยว ปัจจุบันจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2  ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 97 พ.ศ.2539 ที่ออกตามความใน พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ซึ่งผู้ผลิตจะต้องได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท่านั้น และจำหน่ายได้เฉพาะสถานพยาบาล ขณะนี้มีผู้ผลิต 4 ราย เป็นตำรับยาเม็ดและยาน้ำรวม 9 ตำรับ และ 2.ตำรับยาสูตรผสม จะมีตัวยาอื่นผสมร่วมด้วย เช่น ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาขับเสมหะ มีทั้งรูปแบบยาเม็ด แคปซูลและยาน้ำ

                    ในส่วนของตำรับยาสูตรผสม ภญ.ดร.วิยะดา บอกว่า เดิมทีกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้เป็นยาอันตราย ที่สามารถซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไป แต่เมื่อตรวจพบว่ามีการกระทำผิดด้วยการนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด สธ.จึงออกประกาศ สธ. เรื่อง ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่ 40 ลงวันที่ 16 กันยายน 2554 กำหนดให้ยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบในรูปแบบยาเม็ด แคปซูล และน้ำ ยกเว้นสูตรผสมที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ เป็นยาควบคุมพิเศษ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2554

                   ส่งผลให้ยาสูตรดังกล่าวจำหน่ายได้เฉพาะสถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลของเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเท่านั้น และมีการควบคุมปริมาณการจำหน่ายให้สถานพยาบาลของเอกชนประเภทรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนไม่เกิน 5,000 เม็ดต่อแห่งต่อเดือน ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ผลิต 67 ราย เป็นยาสูตรผสม 29 สูตร เป็นตำรับยาน้ำ 98 ตำรับ ยาเม็ดและแคปซูล 142 ตำรับ

                  "สารตัวอื่นที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดตามอนุสัญญาสหประชาชาติฯได้มีการควบคุมหมดแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนใช้สารอีเฟดรีนมาเป็นยาที่ใช้ทางการแพทย์แต่มีคนนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จึงมีการควบคุมเข้มข้น จนขณะนี้ยาที่มีส่วนประกอบของอีเฟดรีนมีเฉพาะยาที่ใช้สำหรับหยอดจมูกเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถนำมาสกัดเป็นสารตั้งต้นได้ เพราะมีปริมาณสารชนิดนี้น้อย ทำให้ต้องเปลี่ยนมาใช้ซูโดอีเฟดรีนเป็นสารตั้งต้นแทน แต่ยังพบผู้กระทำผิดลักษณะเดียวกันจนต้องมีการคุมยาสูตรเดี่ยว ตามด้วยยาสูตรผสม" ภญ.ดร.วิยะดากล่าว

                  การตรวจพิสูจน์ซูโดอีเฟดรีน สามารถตรวจเบื้องต้นโดยใช้หลักการปฏิกิริยาการเกิดสี ด้วยน้ำยาเคมี ซึ่งซูโดอีเฟดรีนจะทำให้เกิดสีม่วง และทำการตรวจยืนยันผลทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ที่ผ่านมาสำนักยาและวัตถุเสพติดได้ดำเนินการตรวจพิสูจน์ตัวอย่างของกลางซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมที่ได้จากการจับกุมตั้งแต่ปี 2550-2554 ทั้งสิ้น 9 คดี จำนวน 107 ตัวอย่าง น้ำหนักรวมประมาณ 496 กิโลกรัม

                   สำหรับอนาคตของการควบคุมการใช้ซูโดอีเฟดรีน ภญ.ดร.วิยะดา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ สธ.จะกำหนดให้ยาแก้หวัดที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เช่นเดียวกับยาสูตรเดี่ยว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากผ่านความเห็นชอบจะนำกลับเข้าสู่คณะกรรมการวัตถุเสพติดและออกเป็นประกาศ สธ.ต่อไป

.................................
(เหตุไฉน!!'ซูโดอีเฟดรีน' ถึงเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด โดย...พวงชมพู  ประเสริฐ )