'บัตเตอร์ฟลาย'นมอินทรีย์แท้

          หลังจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคนมในฟาร์มเข้าสู่ระบบอินทรีย์เมื่อ 4 ปีก่อน โดยมีความมุ่งหวังที่จะผลิตน้ำนมอินทรีย์ที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) วันนี้นมอินทรีย์คุณภาพที่นำวัตถุดิบนมสดจากฟาร์ม อ.ส.ค.ได้ออกสู่ท้องตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บัตเตอร์ฟลาย” (Butterfly) ผลิตโดยบริษัท บัตเตอร์ฟลาย จำกัด ถือเป็นนมอินทรีย์ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตน้ำนมอินทรีย์จากศูนย์ปศุสัตว์อินทรีย์ กรมปศุสัตว์เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

          นายเสาร์ ศิวิชัย ผู้ช่วยหัวหน้าฟาร์มโคนม อ.ส.ค.บอกว่า กระแสการบริโภคผลิตภัณฑ์สินค้าอินทรีย์นับวันขยายวงกว้างมากขึ้น และมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ทางฟาร์มโคนมของ อ.ส.ค.จึงใช้พื้นที่ของฟาร์มกว่า 134 ไร่ ที่ ต.มิตรภาพ อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบอินทรีย์มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 เบื่องต้นปล่อยแม่โคนมอินทรีย์ 40 ตัว เลี้ยงแบบธรรมชาติ ปล่อยให้โคแทะเล็มหญ้าในแปลงอย่างอิสระ ทำให้แม่โคนมไม่เกิดความเครียด ทั้งยังเน้นให้โคกินพืชอาหารสัตว์ที่เป็นอาหารหยาบมากขึ้น พร้อมกับจัดการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ที่สำคัญต้องปลอดการใช้สารเคมี ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนในระบบการเลี้ยงด้วย 

          ทั้งนี้มีความมุ่งหวังจะผลิตน้ำนมอินทรีย์ที่มีคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ซึ่งใช้ระยะเวลาปรับเปลี่ยนและพัฒนาถึง 4 ปี จึงได้รับใบรับรองมาตรฐานการผลิตนมอินทรีย์ตามมาตรฐานปศุสัตว์อินทรีย์ กรมปศุสัตว์ เป็นฟาร์มโคนมอินทรีย์ฟาร์มแรกและฟาร์มเดียวของไทย ปัจจุบันแม่โคนมอินทรีย์ทั้ง 40 ตัว ให้ผลผลิตน้ำนมดิบอินทรีย์วันละกว่า 200 กก. หรือประมาณ 70-80 ตันต่อปี โดยนมสดทั้งหมดทาง อ.ส.ค.ป้อนให้บริษัท บัตเตอร์ฟลาย จำกัด ราคา กก.ละ 23-25 บาท  ซึ่งสูงกว่าน้ำนมดิบปกติทั่วไปราว 30% ล่าสุดบริษัทบัตเตอร์ฟลายได้แปรรูปเป็นนมอินทรีย์พาสเจอไรซ์ แบรนด์ “บัตเตอร์ฟลาย” (Butterfly) สินค้ามีวางจำหน่ายในท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต, วิลล่า มาร์เก็ต และเลม่อน ฟาร์ม ขนาดบรรจุ 180 มิลลิลิตร ขวดละ 48 บาท และ 280 มิลลิลิตร ขวดละ 58 บาท  ปรากฏว่าตลาดตอบรับดี

          "ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการน้ำนมอินทรีย์อยู่ที่ประมาณ 300-400 ตันต่อปี แต่เราผลิตเพียง 70-80 ตันต่อปี ถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการ  เนื่องจากมีกิจการ อ.ส.ค.มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตน้ำนมอินทรีย์จากศูนย์ปศุสัตว์อินทรีย์ กรมปศุสัตว์ อนาคตฟาร์มโคนมอินทรีย์ (Organic Dairy Farm) ของ อ.ส.ค.น่าจะเป็นฟาร์มต้นแบบให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นแนวทางช่วยเพิ่มมูลค่าน้ำนมดิบได้" นายเสาร์ กล่าว

          อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 นี้ ทาง อ.ส.ค.มีแผนจะเร่งส่งเสริมและสร้างเครือข่ายเกษตรกรสมาชิกให้ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ระบบอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น เป้าหมาย 50 ฟาร์มภายในปี 2558 เพื่อผลิตน้ำนมอินทรีย์ป้อนตลาดที่มีความต้องการสูง โดย อ.ส.ค.จะเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำให้คำปรึกษาด้านการจัดการฟาร์มโคนมอินทรีย์ พร้อมรับซื้อผลผลิตน้ำนมดิบอินทรีย์ของเกษตรกรในราคาสูงกว่าน้ำนมดิบปกติทั่วไป นอกจานี้ อ.ส.ค.ตั้งเป้าไว้ว่า อนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคนมในฟาร์ม อ.ส.ค.ที่มีราว 400 ตัว เข้าสู่ระบบอินทรีย์ทั้งหมด และยังมีแผนเพิ่มพื้นที่ผลิตอาหารสัตว์อินทรีย์ทั้งหญ้า ข้าวโพด กระถิน มันสำปะหลัง และถั่วเหลืองอินทรีย์ เพื่อใช้เลี้ยงโคนมในฟาร์ม โดยตั้งเป้าผลิตน้ำนมดิบอินทรีย์ประมาณ 4-5 ตันต่อวัน อีกด้วย  .

          หากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต้องการปรับเปลี่ยนมาเลี้ยงโคนมอินทรีย์สอบถามข้อมูลที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โทร.0-3634-1069

 

 

----------

(หมายเหตุ : 'บัตเตอร์ฟลาย' นมอินทรีย์แท้ - หนึ่งเดียวที่ได้รับ 'มาตรฐาน')

----------