
รักโลดโผนของ 'เอ-บี' ก่อเหตุ 'วิวาห์ผจญภัย'
ขอเวลานอก : รักโลดโผนของ 'เอ-บี' ก่อเหตุ 'วิวาห์ผจญภัย'
"ผมชอบนึกถึงเรื่องที่เราจะปลดปล่อย ปล่อยวาง หรือต้องการเริ่มใหม่กับอะไรสักอย่างก่อนขึ้นเครื่องเล่น พอจังหวะที่เราปลดตัวเองลงมาให้ตะโกนปล่อยมันออกมาให้สุดเสียง แล้วลงมาเราจะลืมทุกอย่างจริงๆ เหมือนได้เป็นคนใหม่พร้อมเริ่มต้นใหม่ได้สบาย"
ผ่านพ้นความประทับใจกับภาพความหวานและงานวิวาห์หลากหลายรูปแบบในช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะสุขสวยงาม โหด มัน ฮาแค่ไหน ย่อมสร้างความสุขใจและประสบการณ์ดีๆ ให้แก่คู่บ่าวสาวทุกคู่ และอีกหนึ่งงานซึ่งสร้างเสียงกรี๊ดแบบสุดเสียงได้ทุกปีก็คงหนีไม่พ้น "วิวาห์ผจญภัย" ที่บรรดาคู่รักจะได้มาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในเครื่องเล่นสุดโลดโผนท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาของ "บ้านผางานรีสอร์ท" อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โปรเจกท์สุดเหวี่ยงแบบนี้มีต้นกำเนิดมาจาก 2 หนุ่มคู่แฝดแกนนำใหญ่ในการจัดพิธี "เอ" ณัฐภณ และ "บี" ณกรณ์ วุฒิกานากรที่นำพลังอันเหลือล้น เชื้อเชิญบ่าวสาวมาร่วมงานและหาโปรแกรมใหม่ๆ มาท้าทายกันได้ไม่มีเบื่อจนถึงปีที่ 9 โดยในปีนี้สองพี่น้องขอพามาดูการเตรียมงานแต่งสุดหวาดเสียวบนเครื่องเล่นแบบเต็มที่
ภายในรีสอร์ท เจ้าบ้านทั้งสองช่วยกันชี้ชวนคณะสื่อดูการเตรียมงานที่จะเกิดขึ้นในวันถัดไปทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่การเก็บดอกเฟื่องฟ้า ที่พูดไปคงคิดว่าเป็นเรื่องง่ายแต่อันที่จริงต้องเกณฑ์พนักงานหลายชีวิตไปกันจนหมดไร่กว่าจะได้ดอกไม้มาหลายกระสอบเพื่อมาโปรยสร้างบรรยากาศให้แก่บ่าวสาวทุกย่างก้าว ว่าจบสองพี่น้องก็รีบตรวจสอบความพร้อมของเครื่องเล่นผาดโผนนานาชนิด ซึ่งหลายชิ้นเกิดจากจินตนาการเล็กๆ และต่อยอดจนมาเป็นความสนุกเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร การซักซ้อมกับเหล่ากิจกรรมพิสูจน์รักเริ่มต้นขึ้น กับเครื่องเล่นฟลาย์อิ้ง สตั๊นต์ ที่จะพาบ่าวสาวเหินเวหาบนความสูง 25 เมตร โดย "หนุ่มบี" ไม่รอช้าหยิบเสื้อสตั๊นต์แมนมาสวมใส่ ให้แก่ตัวเองและเจ้าสาวจำเป็นอีกหนึ่งคน ก่อนจัดการเทรนด์ทั้งการจัดท่าทาง การพูดจาบิวท์อารมณ์ให้บ่าวสาวที่รอดูอยู่ข้างล่างได้เรียนรู้และแสดงความรักในท่าแอ็กชั่นแบบสุดเหวี่ยง พอสลิงดึงขึ้นไปถึงความสูง 25 เมตรปุ๊บ ฝ่าย "หนุ่มเอ" แฝดพี่อยู่ในชุดสตั๊นต์บนกระเช้าก็จัดแจงรัวชัตเตอร์กล้องโปรคู่ใจเพื่อเก็บบรรยากาศคู่รักทุกอิริยาบถ
"งานนี้เริ่มจากงานแต่งของผมเองเป็นปีแรก แรกเริ่มเดิมทีแค่โรยตัวแล้วจดทะเบียนเท่านั้น ต่อมาก็หาโจทย์ใหม่มาเรื่อยๆ อย่างปีที่ 4-5 เริ่มมีชิงช้ายักษ์ ปัจจุบันก็มีเรือโจรสลัดให้บ่าวสาวมาลุยน้ำกัน กุศโลบายของงานนี้ก็คือ การใช้ชีวิตคู่เหมือนการเริ่มออกเดินทางครั้งใหญ่ สำหรับชีวิตเราไม่รู้ว่ามันมีอะไรรออยู่ข้างหน้า บางครั้งการที่มีเหตุการณ์มีโมเมนต์อะไรที่เราต้องตัดสินใจ ว่าเอาละเราจะกระโจนลงไปนะมันก็เป็นเรื่องสำคัญของชีวิตคู่ อีกอย่างคือเราไม่ได้จดกันในห้องสี่เหลี่ยม แต่อยู่บนป่าเขามีคนคอยลุ้นคอยเชียร์เราอยู่ ผมเชื่อว่าถ้าเราเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกำลังใจที่ให้กันเองและจากคนรอบข้างมันรู้สึกดีนะ ไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแต่เป็นการเริ่มต้นที่มีคนรอบข้างเกื้อหนุนเราด้วย เราชอบตรงจุดนี้เลยจัดพิธีวิวาห์ขึ้นทุกปีโดยที่บ่าวสาวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย" หนุ่มบีบอกเล่าวัตถุประสงค์ก่อนทะยานขึ้นฟ้า
จากนั้น หนุ่มเอ-บี ก็เคลื่อนทัพมาสู่เครื่องเล่นชิงช้ายักษ์สูง 15 เมตร คราวนี้ผู้จัดแบ่งหน้าที่กันเหมือนเดิม อีกคนตั้งกล้องอีกคนอาสาสาธิตท่าทาง โดยเครื่องเล่นนี้หนุ่มเอกระซิบเทคนิคง่ายๆ เพื่อให้ได้ภาพงามๆ และความรู้สึกเป็นอิสระถึงที่สุด อย่างเช่น การกางแขนกว้างๆ ระหว่างโดนเหวี่ยงไปมา
"เครื่องเล่นนี้ผู้เล่นมีโอกาสได้ปลดล็อกเชือกที่รั้งตัวเองอยู่ด้านข้าง ก่อนจะถูกแรงเหวี่ยงของชิงช้ายักษ์ ผมชอบนึกถึงเรื่องที่เราจะปลดปล่อย ปล่อยวาง หรือต้องการเริ่มใหม่กับอะไรสักอย่างก่อนขึ้นเครื่องเล่น พอจังหวะที่เราปลดตัวเองลงมาให้ตะโกนปล่อยมันออกมาให้สุดเสียง แล้วลงมาเราจะลืมทุกอย่างจริงๆ เหมือนได้เป็นคนใหม่พร้อมเริ่มต้นใหม่ได้สบายปลดเชือกที่ล็อกเราอยู่ด้วยตัวเอง ต้องทำใจให้สบายๆ" เอ แนะนำวิธีการเล่นในแบบฉบับตัวเอง
เมื่อมองการทำงานที่เข้าขากันของทั้งคู่ทำให้อดถามไม่ได้ว่า นอกจากหน้าตาเหมือนกันแล้ว ยังชอบอะไรเหมือนๆ กันทุกอย่างหรือไม่ ทว่าคำตอบที่ได้รับนั้นกลับทำให้แปลกใจ เพราะความชอบของแต่ละคนนั้นต่างกันสุดขั้ว ขณะที่ "หนุ่มเอ" ชอบกล้วยไม้ ขนมปัง กาแฟ เบเกอรี่ ส่วน "หนุ่มบี" กลับชอบของเก่า ปืน ฟังเพลงร็อก และการขี่มอเตอร์ไซค์
"ครอบครัวผมมีความหลากหลายมาก บีชอบดีไซน์ ถนัดวิศวะ ผมจะถนัดการบริหารจัดการ พี่สาว (ชุติมา กุศล) มีคอนเนกชั่นที่อเมริกาเยอะเวลามีอะไรแปลกใหม่ที่เอามาใช้กับรีสอร์ทได้เขาก็จะเสนอมาให้เรา ส่วนพี่ชายคนโต (ณรงค์วุฒิ วุฒิกานากร) จะชอบดนตรีชอบแต่งเพลง ส่วนคุณพ่อ (นิคม วุฒิกานากร) ท่านถนัดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ และคุณแม่ (ปรานี วุฒิกานากร) ก็หนีไม่พ้นเรื่องการเงิน การปกครอง บุคคล เชื่อไหมว่าบ้านพักและสวนคุณแม่เป็นคนจัดการสร้างหมดเป็นซูเปอร์วูแมนเลยนะ เวลาคนเก่งของบ้าน 6 คนมารวมตัวกัน กว่าบางเรื่องจะลงตัวนี้เหมือนอาหารใส่ไมโครเวฟ อัดกันจนเตาแทบระเบิด แต่จะจบลงด้วยการโหวตแบบประชาธิปไตย ผสมความอาวุโสเสมอ เรื่องนี้เป็นเหมือนศิลปะของบ้านที่มีความหลากหลาย ถ้ามีความคิดของเราแค่ 2 คน ก็คงไม่ประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้" แฝดผู้พี่บอกเล่าความสัมพันธ์ภายในบ้าน
การสร้างความสุขบนผืนป่าใหญ่ใครๆ ก็ต้องพูดถึง คงไม่พ้นประเด็นเรื่องการท่องเที่ยวสไตล์สงบสบาย และเรื่องกฎหมายกับการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยคู่ฝาแฝดและครอบครัวร่วมกันต่อสู้กันมากว่า 10 ปี บนพื้นฐานของการสร้างความสุขและกำลังใจดี
"เรื่องที่ดินเรามีโฉนดตัวใหม่ชัดเจนว่าเราอยู่นอกเขต และกำลังรอการพิจารณาคดีจากศาล ระหว่างรอถ้าเราทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ก็หันมาทำอะไรที่มีความสุขและเป็นประโยชน์ดีกว่า ผมคิดว่าชีวิตผมมีสีสันไม่จืดชืดเลยตั้งแต่เราต่อสู้กับเรื่องนี้ คนที่เต็มไปด้วยพลังของการเอาชีวิตรอด เต็มไปด้วยความท้าทาย มันทำให้หลายเรื่องไม่สามารถทำอะไรเราได้ มันเกิดจากข้างในเราเองทั้งนั้นแหละไม่มีใครทำให้เราท้อได้นอกจากเราอนุญาตให้ตัวเองท้อ" หนุ่มบีกล่าว
ไม่ต่างจาก "แฝดพี่" ปิดท้ายว่าถ้าเราเรียนรู้วิธีย้ายตัวเองจากภาวะไม่สบายใจ ไปอยู่ในภาวะมีความสุขเลยได้ แม้จะเจอปัญหาเหมือนเดิมแต่ก็แค่ดึงด้านดีของปัญหา ดึงเรื่องขำๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างที่เราเกิดปัญหามาคิด ทางออกจะมี ทางออกไปหาความสุขก็จะมีอยู่มากมายจนไม่สนใจว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร ช่างมันไปก่อนเลย
เครื่องเล่นหวาดเสียวนำพามาซึ่ง การผจญภัย การต่อสู้กับจิตใจ ใช่ว่าจะให้แต่ความตื่นเต้น แต่กลับเติมเชื้อไฟให้ชีวิตเคลื่อนไปด้วยความสดใสอย่างสองพี่น้องเแห่งบ้านผางาม ที่ยังหาช่วงเวลาของคำว่า "หมดไฟ" ได้ยากจริงๆ
..........................................
(ขอเวลานอก : รักโลดโผนของ 'เอ-บี' ก่อเหตุ 'วิวาห์ผจญภัย' )