'ปอมเปอี'นครใต้ลาวาภูเขาไฟ

             ...พิซซ่า, พาสต้า, มะกะโรนี, ไวน์, คาปูชิโน, มาเฟีย, กรุงโรม และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่ทำให้ภาพของ “อิตาลี” ผุดขึ้นมาแบบรวดเร็วดุจจินตนาการในยุค 3จี หลายคนเคยมีโอกาสไปเยือนประเทศที่เคยเป็นอาณาจักรสำคัญแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้มาแล้ว หลายคนตั้งใจและใฝ่ฝันไว้ว่า สักครั้งหากมีโอกาสในการเดินทาง ที่ใดที่หนึ่งในอิตาลีนี่แหละจะต้องเป็นหมุดหมายปลายทางหนึ่งที่ต้องไปเยือนให้ได้...    

             อาณาจักรโรมัน ได้ก่อร่างสร้างตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่ก่อนสมัยคริสตกาล อย่างมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ นั่นหมายความว่า ดินแดนแห่งนี้ก้าวผ่านช่วงเวลาหลายศตวรรษอย่างเป็นระบบ และมีการพัฒนามาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน แต่มนุษย์นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ล้วนปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้องอาศัยพึ่งพาธรรมชาติเพื่อการดำรงชีพ และธรรมชาตินี่เองที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของมนุษย์ควบคู่ไปกับปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด

             การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ มีทั้งค่อยเป็นค่อยไป และปรับเปลี่ยนแบบหักมุมแบบสุดขั้วโดยที่มุนษย์ตั้งตัวไม่ทัน จนทำให้เกิดความสูญเสียอย่างรุนแรงและใหญ่หลวง ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็คือสถานที่หนึ่งที่กล่าวได้ว่า ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรง เฉียบพลัน จนทำเมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางของศิลปวัฒนธรรมในหลายๆ ด้านมลายหายวับไปในชั่วพริบตา เมืองที่ผมกล่าวถึงนี้อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี นั่นคือ “ปอมเปอี”

             เมืองปอมเปอี ก่อร่างสร้างเมืองกันมาก่อนสมัยคริสตกาล มี ภูเขาไฟวิสุเวียส อยู่ใกล้ๆ ซึ่งชาวเมืองจะมองเห็นภูเขาไฟลูกนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ไม่มีใครคิดว่า วันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์ที่เกินกว่ากำลังการต่อต้านของมนุษย์จะทำได้ เมื่อภูเขาไฟวิสุเสียสเกิดปะทุขึ้นอย่างรุนแรงจนเกิดแรงระเบิด พ่นลาวาที่ร้อนแรงหลั่งไหลไปทั่วเมืองปอมเปอี และเมืองใกล้เคียง อย่าง เฮอร์คูลานิอุม

              หลายคนเสียชีวิตในขณะที่กำลังสวดมนต์ บางคนเสียชีวิตในขณะที่กำลังมีความสุขอยู่กับคนรัก แต่ทั้งหมดก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดไว้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.79 ได้เลย เมืองทั้งเมืองถูกทอดทิ้งไว้ใต้ซากของลาวา ที่ปกคลุมเมืองปอมเปอีจนเกือบจะถูกลบเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนถึง 1,700 ปี

              แต่แล้วอดีตที่มีตัวตนของปอมเปอีกลับค่อยๆ ถูกเปิดเผยขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นเมืองนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยการขุดค้นของนักโบราณคดีชาวอิตาเลียนนามว่า จุปเซปเป ฟีโอเรลี ที่ค่อยๆ บรรจงเปิดเมืองปอมเปอีจากซากลาวาทีละเล็กทีละน้อย “ปอมเปอี” ได้รับการชุบชีวิตและเปิดเผยให้ชาวโลกได้รับรู้ถึงอดีตเมื่อกว่า 2,000 ปีล่วงมาแล้วอีกครั้งหนึ่ง

              เมื่อเทียบอดีตของแต่ละเมือง แต่ละประเทศ จะเห็นได้ว่า เมืองปอมเปอี มีความทันสมัยล้ำหน้ากว่าหลายๆ เมืองอยู่มาก เพราะใครจะเชื่อว่า 2,000 พันปีก่อน มีการสร้างถนนโดยใช้ก้อนหินที่เรียงกันอย่างสวยงาม และริมบาทวิถียังมีการสลับลายด้วยหินสีขาวเพื่อการมองเห็นในยามค่ำคืน มีโรงอาบน้ำเพื่อสุขภาพ ที่บรรจงสร้างอย่างงดงามและเต็มไปด้วยเทคนิคที่ปัจจุบันไม่สามารถเลียนแบบได้ มีตลาดสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้า 

              มีโรงละครกลางแจ้ง ที่ถ่ายทอดทั้งเรื่องราวที่สวยงามของศิลปวัฒนธรรมและการต่อสู้ที่โหดร้าย ซึ่งเราท่านอาจคุ้นเคยจากภาพยนตร์เรื่อง กลาดิเอเตอร์, มีหอนางโลม อาชีพที่เก่าแก่อีกอาชีพหนึ่งของโลก แต่ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพผิดกฎหมายในหลายประเทศ และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ภาพวาด และภาพโมเสกบนกำแพง ในสถานที่สำคัญต่างๆ ที่สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวจากอดีตสู่ปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

              การเดินทางครั้งนี้ ผมไม่มีโอกาสเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ที่เมืองเนเปิล ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บสิ่งของที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญมากมายและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ได้จากการขุดค้นเมืองปอมเปอี

              เมืองปอมเปอี ที่ผมไปเยือนในปัจจุบันก็ตั้งมั่นอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนในอดีต แต่เหลือไว้เพียงซากสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ และข้าวของเครื่องใช้บางอย่างที่สามารถจัดเก็บไว้ให้นักท่องเที่ยวได้รู้ ได้เห็นเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น

              การเดินเที่ยวชมปอมเปอี เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจโบราณสถาน ที่เป็นรากเหง้าแห่งเสน่ห์ของอิตาลี เป็นการเรียนรู้อดีตเพื่อเข้าใจวิถีแห่งปัจจุบัน และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเข้าใจ นั่นจึงนับว่าเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างมีประโยชน์ ซึ่งเมืองไทยอันเป็นที่รักของเราก็มีไม่น้อยเลย สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำหากสนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็แล้วแต่ ควรหาหนังสือสถานที่นั้นมาอ่านทำความเข้าใจในเบื้องต้น แล้วค่อยเดินทางเพื่อทำให้การเดินทางค้นหาของคุณจะมีความสุขและสนุกแบบมีสาระมากขึ้น

              สำหรับปอมเปอี ควรเตรียมหมวก หรือร่มกันแดดมาด้วย เนื่องจากแดดค่อนข้างแรงและไม่ค่อยมีร่มไม้ใบบังให้เห็นสักเท่าไหร่ อีกทั้งในวันที่มีลมแรงอาจจะได้กินฝุ่นในบางครั้ง ผู้ที่แพ้ฝุ่นจึงควรเตรียมผ้าปิดปากไปด้วย และถ้าเกิดหิวขึ้นมาละก็ ไม่ต้องห่วง บริเวณโดยรอบเขตเมืองประวัติศาสตร์อย่างปอมเปอี มีร้านอาหารมากมายในราคาไม่แพง แต่ขอกระซิบดังๆ ว่า ส่วนใหญ่มีแต่ร้านอาหารพื้นเมืองทั้งนั้น ใครที่ชอบอาหารอิตาเลียนก็เหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ใครยังไม่คุ้นเคยกับอาหารอิตาเลียน ต้องฝึกกินก่อนไปให้คุ้นชินซะบ้าง ไม่ยังงั้นจะมาบ่นเลี่ยนไม่ได้นะครับ

..................................................
(ท่องต่างแดน : ปอมเปอี นครใต้ลาวาภูเขาไฟ โดย...http://www.oknation.net/blog/tengpong)