ไลฟ์สไตล์

พ่อติดคุก ลูกถูกไล่ที่

พ่อติดคุก ลูกถูกไล่ที่

08 ก.พ. 2555

ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในที่ดินของนิคมทหารผ่านศึกขององค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) จ.มุกดาหาร เพราะพ่อของหนูเป็นทหารผ่านศึก มีบ้านพักอาศัย 1 หลัง บนที่ดิน 2 ไร่ และที่ดินทำกินอีก 13 ไร่ อาศัยอยู่และทำกินกันมาร่วม 27 ปีแล้ว พ่อทำความผิด ถูกจับติดคุกเมื่อปีที่แ

 ปัญหาคือ หนูได้รับหนังสือจาก อผศ. หน่วยงานกลางจากกรุงเทพฯ แจ้งให้บริวารและครอบครัวของพ่อ ออกจากพื้นที่ทำกินให้เร็วที่สุด เนื่องจากพ่อทำความผิดกฎหมาย ต้องถูกเพิกถอนออกจากสิทธิ์ของการเป็นทหารผ่านศึก  
  อผศ.คิดบ้างหรือไม่ว่า แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหน จะทำมาหากินอะไร เพราะปัจจุบันที่ดินจำนวน 13 ไร่ ไม่ใช่ที่ดินเปล่า เป็นที่ดินมีมูลค่า ครอบครัวเราปลูกยางไว้ได้ 8 ปีแล้ว เพิ่งกรีดยางได้ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว กรีดยาง 9 เดือน มีรายได้เดือนละประมาณ 4-5 หมื่นบาท แต่ทุกอย่างที่ทำไว้จะต้องตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ต้องลงทุนเลย ครอบครัวหนูไม่ได้รับแม้กระทั่งเงินชดเชย
 พ่อหนูทำผิดก็ได้รับโทษไปแล้ว แต่คนข้างหลังทำไมต้องลำบากและถูกขับไล่แบบไม่ไยดี
 หนูไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้เดินทางไปขอพบผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกที่กรุงเทพฯ แต่คนที่รับเรื่องแจ้งว่า เข้าพบไม่ได้ ได้รับคำสั่งอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น
วิไลลักษณ์ / มุกดาหาร
ตอบ
 นายปรีดา ปราบประชา ผู้อำนวยการกองนิคมเกษตรกรรม องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ชี้แจงว่า ครอบครัวนี้มาอยู่ได้เพราะใช้สิทธิ์พ่อซึ่งเป็นทหารผ่านศึก ต่อเมื่อพ่อถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นสมาชิกของนิคม ครอบครัวและบริวารก็ต้องย้ายออกจากพื้นที่ ปัจจุบันมีทหารผ่านศึกรอเข้าคิวรับสิทธิ์นี้ประมาณ 3 พันกว่าคน
 ผู้ที่เป็นสมาชิกของนิคมทหารผ่านศึก ต้องปฏิบัติตามระเบียบ และข้อบังคับอย่างเคร่งครัด เพราะเป็นชายชาติทหาร เมื่อกระทำความผิดและได้รับโทษจำคุก ตามข้อบังคับจะต้องออกจากการเป็นสมาชิก และต้องย้ายครอบครัวออกจากพื้นที่ ซึ่งกฎระเบียบนี้สมาชิกนิคมทั่วประเทศ จำนวน 6 นิคม กับอีก 3 โครงการ ก็ต้องปฏิบัติในแนวทางเดียวกันนี้
 นิคมทหารผ่านศึกในจังหวัดมุกดาหาร เรียกว่า "นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกนครพนม" ปัจจุบันมีครอบครัวทหารอาศัยอยู่จำนวน 555 ครอบครัว มีการส่งเสริมอาชีพ เช่น ปลูกยางพารา ปลูกไม้ผล โดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรคอยดูแล สมาชิกที่ได้สิทธิ์อาศัยอยู่ในนิคม จะได้รับบ้าน 1 หลัง และที่ดินทำกิน โดยสมาชิกจะต้องผ่อนชำระค่าเช่าซื้อบ้านพักที่หลวงสร้างให้ เป็นรายงวด ผ่อนชำระ 15 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย
 กรณีนี้ทหารอาสาบรรจุเข้านิคม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2531 เช่าซื้อบ้านพักหลังละ 73,465 บาท ต้องชำระค่าเช่าซื้อปีละ 4 พันกว่า แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ครอบครัวนี้ไม่เคยผ่อนชำระค่าเช่าซื้อบ้านเลยแม้แต่บาทเดียว ทั้งๆ ที่มีรายได้ ส่วนเงินชดเชยที่ไม่ได้รับ เพราะก่อนหน้านี้ได้รับประโยชน์ไปแล้ว
 ผู้อำนวยการกองนิคมเกษตรกรรม บอกว่า ที่ผ่านมาถ้ามีการชำระค่าเช่าซื้อบ้านจนครบ ทหารก็จะได้รับสิทธิในที่ดินทำกิน หรือได้รับหนังสือรับรอง สทก. จากกรมป่าไม้ สามารถทำมาหากินได้จนชั่วลูกชั่วหลาน แต่กรณีนี้ไม่ได้ เพราะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นสมาชิก อผศ.แล้ว
ลุงแจ่ม