มมส.เจ๋งคว้ารางวัล | คมชัดลึก

        สถาบันอิสรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัล “ข่าวและสารคดีเชิงข่าวส่งเสริมสิทธิเด็ก” ประจำปี 2554 ซึ่งจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ และนิสิตนักศึกษาให้ความสนใจส่งผลงานข่าวและสารคดีเชิงข่าวด้านส่งเสริมสิทธิเด็กเข้าประกวดมากขึ้นทุกปี
      
       สำหรับรางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติและหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติออนไลน์ในสถาบันอุดมศึกษา ประกอบด้วย รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “ขอสันติคืนกลับมา ที่บ้านหนู” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “สื่อมวลชน” มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
“อ๊อก” กมลรัตน์ อู่อรุณ และ “เชอรี่” สวิชญา ชินพงศธร นิสิตชั้นปี 4 เอกวารสารศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชย คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เผยถึงที่มาของผลงานชิ้นดังกล่าวว่า ได้นำเสนอสารคดีเชิงข่าว ณ หมู่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ติดชายแดนไทย - กัมพูชา และในขณะนั้นเกิดสถานการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรง มีการทิ้งระเบิดมายังฝั่งไทย ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นและหวาดกลัว จนต้องอพยพหนีตายไปอยู่ที่อื่น
      
       “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราได้ศึกษาหาข้อมูลก่อนที่จะลงพื้นที่ไปทำข่าว โดยเรามุ่งนำเสนอประเด็นเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ สภาวะจิตใจ เพราะเราคิดว่าเด็กต้องได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะดูสงบลงจากภายนอก แต่ภายในจิตใจชาวบ้านที่อยู่คิดชายแดนยังคงหวั่นวิตก โดยเฉพาะเด็กๆ ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการรับการดูแลอย่างใกล้ชิด สารคดีเชิงข่าวเรื่องนี้ จึงได้สะท้อนถึงปัญหา แง่มุมความเป็นอยู่ ประสบการณ์ที่เด็กๆ ต้องเผชิญหน้า และมุมมองความรู้สึกของเด็กๆ”
      
       ส่วน รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานเรื่อง “สิทธิ-เสียง แห่งความเงียบ โลกที่ด้อยกว่าของเด็กพิเศษ” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ลานมะพร้าว มหาวิทยาลัยบูรพา รับรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ
      
       “แอม”เปรมใจ ลำเหลือ และ “นัด”ณัฐชับ โต๊ะเฮ” นิสิตชั้นปี 4 สาขาวารสารศาสตร์ ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.บูรพา ตัวแทนหนังสือพิมพ์ลานมะพร้าว เปิดเผยว่า สารคดีเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนในสังคม สะท้อนให้เห็นถึงการถูกปิดกั้นและการยอมรับจากสังคมของเด็กที่มีความพิการทางการได้ยิน หรือสื่อความหมาย เพื่อให้คนในสังคมยอมรับและช่วยเหลือเด็กพิการเหล่านี้ให้มีสิทธิมีเสียงอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะมี
      
       “เราพบว่าในระดับท้องถิ่นซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออก มีเด็กที่มีปัญหาด้านการสื่อสารหรือพิการทางการได้ยินกว่า 2 หมื่นคน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อย เราจึงนำเสนอเรื่องราวปัญหาสองประการของเยาวชนเหล่านี้ ที่ไม่ค่อยปรากฏบนสื่อกระแสหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาที่จำเป็นต้องจัดให้พิเศษและเหมาะสมสอดคล้องกับความไม่สมบูรณ์ทางร่างกาย ซึ่งปัญหานี้จะโยงไปถึงโอกาสการจ้างงานที่ไม่เที่ยบเท่ากับคนปกติ และอีกหนึ่งเรื่องคือการสื่อสารระหว่างโลกของเด็กพิเศษทางการได้ยินและโลกของคนปกติ ซึ่งการสื่อสารอาจจะเป็นอุปสรรคจนทำให้สังคมละเลยพวกเขาได้”
      
       อีกหนึ่งผลงาน ชมเชย ตกเป็นของกองบรรณาธิการข่าว “หอข่าว” จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กับผลงานข่าวเรื่อง “เกมลามก เสพเซ็กส์ออนไลน์” “กันต์” กันต์ธนันท์ นาถวราพิพัฒน์ และ “เปิ้ล” อนันต์ธนา สังข์บุญนาค นักศึกษาชั้นปี 4 สาขาวารสารศาสตร์ ตัวแทนหนังสือพิมพ์หอข่าว
      
       “เราพบว่าปัจจุบันมีเกม “อิมวู”เป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเกมได้รวบรวมจุดเด่นไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องแชท ตัวละคร 3 มิติ การเคลื่อนไหวที่สมจริง และฉากการมีเพศสัมพันธ์กันของตัวละคร และมีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี เข้ามาร่วมเล่นเกมด้วยวิธีการโกงอายุ เราจึงได้ติดตามสืบค้นข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยการสัมภาษณ์ทั้งผู้เล่น ทำให้เราทราบว่ามีผู้เล่นบางกลุ่มยอมรับว่าเป็นคู่รักในเกมที่ทำความรู้จักกันจากเกมอิมวูจนความสัมพันธ์พัฒนาถึงขั้นนัดพบกันนอกโลกออนไลน์ ดังนั้นการนำเสนอข่าวประเด็นนี้ เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความเป็นไปของสังคมไทยที่ปัจจุบันโซเซียลมีเดียได้เข้ามามีอิทธิพลเป็นอย่างมาก และยังเข้าใกล้เยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมากขึ้นด้วย และกฏหมายที่บัญญัติใช้ก็ยังไม่มีความพร้อม”
      
       นอกจากนี้ยังมีผลการตัดสินรางวัลประเภทต่างๆ มีดังนี้ รางวัลข่าวและสารดคีเชิงข่าวประเภทสื่อหนังสือพิมพ์ ประกอบด้วย รางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ 1.ผลงานข่าวเรื่อง “โลกมืดหลังเลนส์ อะไรก็เป็นไปได้” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ รางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานเรื่องสิทธิเยาวชน คน(สกุล) ไม่ดัง” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และผลงานสารคดีเชิงข่าวเรื่อง “ไม้เรียว รีเทิร์น” โดยกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
      
       ส่วนรางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อวิทยุกระจายเสียง รางวัลเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “ความรักความเข้าใจ ภูมิต้านทานของเด็กพิการ” โดยนางสาวเพาไพลำ สาตรรอด สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับรางวัล5,000 บาทพร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
      
       รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อโทรทัศน์ รางวัลยอดเยี่ยม ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “คนไทยพลัดถิ่น เรมะปาทาน” โดยรายการชีวิตจริง ยิ่งกว่าละคน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รางวัลชมเชยได้แก่ ผหลงานข่าวเรื่อง “เปิดปมเด็กชายขอบ สิทธิ์ที่ไม่ได้เลือก” โดยรายการเปิดปม สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และผลงานข่าวเรื่อง โรงเรียน(เล็กๆ)ของหนู โดยบริษัทมหาชัยเคเบิล จำกัด รางวัลชมเชย(พิเศษ) ได้แก่ ผลงานข่าวเรื่อง “ชีวิตที่ถูกล๊อคของลูกหลานแรงงานพม่า” โดย ธนาวุธ สงวนศักดิ์ สถานีไทยเนชั่นแชนแนล , ผลงานข่าวเรื่อง “เปิดใจ... แรงงานข้ามชาติเสียน้ำตาทีเมืองไทย” โดยอรัญญา ทองอร่าม สถานีข่าวเพื่อชาวปากน้ำโพ และผลงานข่าว เรื่อง”เปิดผม เด็กไร้รัฐ” โดยรายการเปิดปม สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
      
       รางวัลข่าวฝึกปฏิบัตออนไลน์ส่งเสริมสิทธิเด็ก ประจำปี 2554 รางวัลชมเชยได้แก่ นางสาวพิชชาอร สุขจิตเกษม มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ขณะที่รางวัลยอดเยี่ยมไม่มีผู้ผ่านการพิจารณา
      
       ปิดท้ายด้วยรางวัล “สารคดีเชิงข่าวส่งเสริมสิทธิเด็กในภาวะวิกฤตน้ำท่วม ปี 2554 ประเภทสื่อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นปีแรกที่คณะกรรมการพิจารณารางวัลนี้ขึ้นมาจากสถานการณ์ปัญหาอุทกภัยใหญ่ที่เกิดขึ้น สำหรับผลงานข่าวที่ได้รับรางวัลชมเชนได้แก่ เรื่อง “ยุบโรงเรียนยุวบัณฑิตวิทยาลัยหลังภัยน้ำท่วมนักเรียนผู้เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบถ้วนหน้า” โดยนายอนนท์ธวัช บุตรอินทร์ บริษัทเคซีทีวี (นครสวรรค์)