ศิลปวัฒนธรรม:จิตรกรรมแห่งความภักดี | คมชัดลึก

            เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญพระบารมีที่ดังกึกก้องไปทั่วแผ่นดิน คือเสียงแห่งความจงรักภักดีของพสกนิกรทั่วหล้าที่น้อมใจภักดิ์ถวายเป็นพระราชสักการะ เนื่องในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 "วุฒิสภา" ถือโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ จัดโครงการประกวดผลงานภาพจิตรกรรมภายใต้หัวข้อ “84 พรรษา ธรรมราชาประชาธิปไตย” สะท้อนความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

            บุญชัย โชควัฒนา ประธานคณะกรรมการโครงการประกวดผลงานภาพจิตรกรรมฯ กล่าวว่า ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่วุฒิสภาจัดขึ้นเพื่อสดุดีและประกาศพระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นพระประมุขผู้ทรงส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการใช้หลักคุณธรรมในการพัฒนาประเทศ โดยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้ประชาชนอย่างเท่าเทียม จึงเปิดโอกาสให้ศิลปิน ประชาชน และเยาวชนร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยการสร้างสรรค์งานศิลป์ ซึ่งมีศิลปินส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมด 702 ภาพ แบ่งเป็น ประเภทประชาชนทั่วไป จำนวน 250 ภาพ ประเภทเยาวชนอายุต่ำกว่า 9 ปี จำนวน 134 ภาพ ประเภทเยาวชนอายุ 9-13ปี จำนวน 250 ภาพ และประเภทเยาวชนอายุ 14-17 ปี จำนวน 68 ภาพ

            “คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ร่วมกันตัดสินผลงานภาพจิตรกรรม โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ความสมบูรณ์ของภาพ ทั้งเรื่องความสวยงาม แนวคิดและเนื้อหาซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมราชาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหลัก จนกระทั่งได้ผลงานภาพจิตรกรรมที่ได้รับรางวัลประเภทประชาชนทั่วไป จำนวน 33 รางวัล และผลงานที่ได้รับรางวัลประเภทเยาวชนทั้ง 3 กลุ่ม อีกจำนวน 18 รางวัล” บุญชัย กล่าว

            โดยผลงานภาพจิตรกรรมที่ได้รับ รางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 ประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่ สิโรจน์ พวงบุปผา ศิลปินอิสระผู้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมลายทองชื่อ “พรหมวิหารธรรม” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราว พระราชกรณียกิจนานัปการขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรทั่วทุกภาคของประเทศอย่างเท่าเทียม และเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาบารมี
 “ผมโชคดีที่ได้เกิดในแผ่นดินไทยใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม พระองค์ทรงเป็นศูนย์กลางแห่งพรหมวิหารธรรมอย่างแท้จริง ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ ด้วยพระเมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่ผมภาคภูมิใจมาก ไม่ใช่เพียงเพราะได้รางวัล แต่สิ่งสำคัญมากกว่านั้นก็คือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ร่วมถ่ายทอดความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเราครับ” สิโรจน์กล่าวถึงแรงบันดาลใจ

            ส่วน รางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 ประเภทเยาวชนอายุ 14-17 ปี เป็นของ "น้องณัฐ" เด็กหญิงณัฐริกา แจ้งแสง จากโรงเรียนบ้านสีน้ำ ชื่อผลงาน “กาลเวลาแห่งความสุข” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกรักและเทิดทูนที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยดวงใจ กล่าวว่า พอเห็นหัวข้อการประกวดแล้วก็คิดถึงสิ่งดีๆ มากมายที่ในหลวงทรงทำเพื่อคนไทย พวกเรามีความสุขได้ทุกวันนี้ก็เพราะพระองค์ จึงวาดภาพตัวแทนของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีความรักและเทิดทูนในหลวง ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สิ่งดีๆ และความสุขที่ในหลวงมอบให้ก็ยังอยู่กับประชาชนคนไทยตลอดไป

            ขณะที่ "น้องมิน" เด็กชายกนกทัศน ขำหวี โรงเรียนวัดดอนไก่เตี้ย คว้ารางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1ประเภทเยาวชนอายุ 9-13 ปี จากผลงานชื่อ “84 พรรษา ธรรมราชา” เล่าถึงที่มาของผลงานตัวเองว่า ตั้งใจวาดภาพนี้เป็นของขวัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาครับ เป็นภาพเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระองค์ท่านตั้งแต่ประสูติ เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงพระผนวช จนถึงปัจจุบันที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อให้ประชาชนกินดีมีสุข รู้จักพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย ท่านทรงมีบุญคุณกับคนไทยทั้งประเทศ ทรงทำงานหนักเพื่อพวกเราทุกคน

            ส่วนเจ้าของ รางวัลยอดเยี่ยม อันดับ 1 ประเภทเยาวชนอายุต่ำกว่า 9 ปี อย่าง  "น้องไข่มุก" เด็กหญิงชาลิสา  พิบูลย์สวัสดิ์ จากโรงเรียนบ้านสีน้ำ ชื่อผลงาน “ร่มเย็นทั่วหล้าพระบารมี” ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนไทยหลากหลายอาชีพ แม้ต่างถิ่นที่มา แต่ทุกคนมีใจเดียวกัน คือใจที่รักและภักดีต่อในหลวงของปวงชน พูดเพียงสั้นๆ แต่ได้ใจคนฟังว่า..."หนูรักในหลวงค่ะ อยากให้ทุกคนรักในหลวงด้วย คนไทยร่มเย็นได้เพราะมีพระองค์ ท่านทรงเหนื่อยและทำงานหนักมานานเพื่อให้พวกเรามีความสุข หนูขอให้ท่านแข็งแรง และขอให้พระองค์ทรงพระเจริญค่ะ"

            สำหรับนิทรรศการผลงานภาพจิตรกรรมแห่งความจงรักภักดีจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 30 มกราคม 2555 ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และจะเปิดประมูลภาพจิตรกรรมได้ในวันที่ 28 มกราคม 2555 เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล โดยหลังจากนี้ จะมีการนำผลงานภาพจิตรกรรมที่ได้รับรางวัลไปประดับที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่เพื่อเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของผู้ที่เป็นเจ้าของผลงานสืบไป

----------------------

(ศิลปวัฒนธรรม : จิตรกรรมแห่งความภักดี)