
สนามเรื่องสั้น-สั้น:ชายเส้นเสียผมยาวนักเล่าเรื่องข่าวลือ
สนามเรื่องสั้น-สั้น : ชายเส้นเสียผมยาวนักเล่าเรื่องข่าวลือ : โดย...สุมาตร ภูลายยาว
“ฉันมีข่าวจะเล่าให้ฟัง”
ทุกครั้งที่มาถึงร้านกาแฟของข้าพเจ้า เขามักจะพูดคำนี้ จากนั้นจึงสั่งกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
เขาที่กำลังกล่าวถึงเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบสอง ผมยาวหยิกงอเลยบ่า รูปร่างผอมสูง ผิวดำ นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนวงโต ที่คอแขวนพระสมเด็จ ใส่กางเกงเลสีดำ สวมรองเท้าเตะข้างละสี บางวันใส่เสื้อ บางวันไม่ใส่ วันใดอากาศร้อนจัด เขาจะเดินเปลือยอกเข้ามาในร้าน ชาวบ้านร้านตลาดเรียกชื่อเขาติดปากว่า ‘ไข่ เส้นเสีย’
ช่วงแรกข้าพเจ้าไม่ค่อยพอใจกับการมาถึงของเขานัก เพราะเมื่อเข้ามาในร้าน ลูกค้าหลายคนจะทยอยลุกออกไป ทั้งที่ความจริง พวกเขาจะนั่งอยู่จนสาย ลูกค้ากลุ่มแรกที่ลุกออกไปเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ ข้าพเจ้ารู้สึกโกรธมาก แต่ก็ระงับเอาไว้ เพราะยังไงเสียเขาก็ป็นลูกค้าคนหนึ่ง
บางวันที่ไม่มีเงินจ่ายค่ากาแฟ เขาจะไหว้วานคนที่นั่งคุยด้วยออกค่ากาแฟให้ก่อน แล้ววันหลังถึงเอามาจ่ายคืน ความไม่ค่อยพอใจในตอนแรกถูกผ่อนคลายลงเมื่อเข้าสู่เดือนที่สาม ตอนนี้ข้าพเจ้าจัดโต๊ะให้เขาเป็นพิเศษ บางวันเมื่อมาถึงร้าน เขาไม่นั่ง แต่จะยืนสั่งกาแฟอยู่หน้าร้าน พอจ่ายเงินเสร็จก็เดินจากไปอย่างไม่สนใจไยดีคนอื่น
ด้วยความสงสัยใคร่รู้ถึงที่มาที่ไปของเขา ข้าพเจ้าจึงสอบถามกับลูกค้าเก่าแก่ในร้าน แต่ไม่มีใครรู้ความเป็นมาเป็นไปแน่ชัด บ้างก็ว่าเขาอาศัยอยู่วัดท้ายตลาด บ้างก็ว่าเขาเดินทางมาจากชุมพรพร้อมกับรถบรรทุกข้าวสารตั้งแต่คราวพายุใหญ่พัดถล่มชายฝั่ง แล้วไม่ได้เดินทางกลับไปอีก
ทุกครั้งที่เห็นเขาเดินอยู่ตามถนน บางคนว่า ‘เขาเป็นคนเส้นเสีย’ เพราะคนเส้นเสียชอบไว้ผมยาวยุ่งเหยิง สวมเสื้อที่ไม่เคยผ่านการซักเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่สวมรองเท้าและเดินอยู่ตามถนนอย่างไร้จุดหมายปลายทาง หากพิเคราะห์ตามคำพูดที่ได้ยินมา พอเชื่อได้อยู่บ้าง เพราะตอนเช้าของทุกวัน เขาจะเดินก้มหน้าไปตามถนนโดยไม่สนใจใคร บางทีก็นั่งคุยกับต้นไม้ใบหญ้าข้างทาง บางทีก็ก้มเก็บก้นบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
แต่ละวัน เขาจะเดินมุ่งหน้าไปตามถนนคุระบุรี-ตะกั่วป่า เขาเดินไป-กลับอย่างนี้สามสี่รอบ การเดินทางเป็นช่วงเวลาใดไม่มีความแน่นอน เพราะบางวันก็มีคนเห็นเขาเช้า บางวันก็เห็นในช่วงสาย แต่พวกแม่ค้าในตลาดบอกว่าเคยเห็นเขาเดินไปตามถนนในตอนที่กำลังออกมาตลาดตอนเช้าตรู่ทุกวัน
กิจวัตรประจำอีกอย่างหนึ่งของเขาเมื่อเข้ามาในร้าน เขามักจะมีเรื่องราวหลากหลายมาเล่าให้ลูกค้าในร้านฟัง เรื่องเล่าของเขาไม่เคยซ้ำ เรื่องที่นำมาเล่ามีความน่าสนใจไม่น้อย พอๆ กับลีลาในการเล่าของเขา ลูกค้าในร้านหลายคนเรียกเรื่องที่เขาเล่าว่า ‘ข่าวลือ’ บางวันหลายคนพอใจที่จะจ่ายค่ากาแฟให้หลังจากฟังเรื่องเล่าจบลง แม้หลายคนจะรู้ว่าเรื่องเล่าไม่มีมูลความจริง แต่ก็นั่งฟังจนจบ
เรื่องที่เขานำมาเล่าจะมีตั้งแต่เรื่องราวในครอบครัวไปจนถึงระดับประเทศ เรื่องเล่าของเขาเริ่มขึ้นหลังจากกาแฟแก้วแรกผ่านไป
‘ข้าจะเล่าให้ฟัง’ เขามักพูดคำนี้ทุกเสมอเมื่อเริ่มตันเล่าเรื่อง สองวันก่อน ข้าได้ยินพวกที่เอาปลาหมึกมาขายในตลาดคุยกันว่า ตอนนี้ตามหาดของเกาะมีปลา กุ้งขึ้นมาตายเต็มไปหมด มดดำขนไข่จากรูไต่ขึ้นต้นไม้ หมาแมวที่เลี้ยงไว้ไม่กินอาหารเอาแต่เดินวนไปวนมา หมาบางตัวไม่ยอมไปใกล้น้ำ แมวบางตัวไม่ยอมลงจากต้นไม้ ผู้เฒ่าของหมู่บ้านบอกว่าบางทีอาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายกับทะเล เพราะคนสมัยก่อนบอกเสมอว่าถ้าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในทะเลให้สังเกตดูเมฆบนฟ้าหรือไม่ก็สัตว์เลี้ยง ฟ้าจะเปลี่ยนสีไปชั่วพริบตา หลังเห็นเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่มีใครเอาเรือออกทะเล ส่วนคนที่ยังไม่ได้กลับมาก็ได้รับการแจ้งข่าวต่อๆ กันไปให้รีบเอาเรือเข้าหาที่หลบภัยตามเกาะต่างๆ หรือไม่ก็ให้รีบกลับเข้าฝั่งอย่างเร็วที่สุด เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ เขาหยุดแล้วยกแก้วกาแฟที่มีกาแฟเหลือไม่มากขึ้นดื่ม
“ข้าไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรกับทะเล” “อย่าไปเชื่อพวกคนเลนัก มันก็พูดกันไปอย่างนั้นแหละ ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นรัฐบาลคงออกประกาศเตือนให้เรารู้หมด ข่าวอย่างนี้ มันก็แค่ข่าวลือ” เฒ่าเชยพูดขึ้นมาหลังตั้งใจฟังจนจบ “ใช่! อย่าไปเชื่อ ก็แค่ข่าวลือ ว่าแต่คนเส้นเสียอย่างเอ็งรู้จักพวกคนเลด้วยหรือ วันๆ ข้าเห็นเอ็งเอาแต่เดินไป-มาอยู่บนถนน” เฒ่าวรพูดขึ้นหลังเฒ่าเชยพูดจบ เมื่อสิ้นเสียงเฒ่าวร ลูกค้าในร้านก็หัวเราะกันครืน หลายคนมีรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นเชิงบอกรับว่าใช่ เพราะชายเส้นเสียคนนี้คงไม่รู้จักพวกคนเลพอๆ กับการไม่รู้จักเกาะ “แม้ข้าจะไม่รู้จักพวกคนเลอย่างที่ไอ้เฒ่ามันพูด แต่ข้าก็เล่าไปตามที่ได้ยินมา”
เมื่อฟังข่าวลือที่ชายเสียเส้นผมยาวจบ ข้าพเจ้าเกือบคล้อยตาม เพราะแอบคิดว่าข่าวนี้น่าจะมีส่วนของความจริงอยู่บ้าง แต่พอคิดถึงคำพูดของเฒ่าวร ความคิดของข้าพเจ้าก็เปลี่ยนไป คนเส้นเสียอย่างเขาคงไม่รู้จักคนเลพอกับการไม่รู้จักเกาะ
หลังการเล่าเรื่องในวันนั้นจบลง ผ่านไปราวหนึ่งอาทิตย์ไม่มีใครเห็นเขาเลย แล้วเช้าตรู่วันอาทิตย์เขาก็กลับมา “เอ็งรู้ไหม ข่าวลือของเอ็งนะเป็นจริงแล้ว มันเกิดขึ้นสองวันก่อน เขาเรียกคลื่นยักษ์สึนามิอะไรนี่แหละ ตอนที่เอ็งไม่ได้มาที่นี้ ข้าดูข่าวในทีวี เขาบอกว่าคนตายเยอะทั้งฝรั่งทั้งคนไทย แต่พวกคนเลนี่ตายน้อย เพราะหนีขึ้นไปอยู่บนควนกันหมด” เฒ่าวรพูดขึ้นมา คำพูดของเฒ่าวรเหมือนย้ำว่าข่าวลือที่เขานำมาเล่านั้นเป็นข่าวจริง พอเฒ่าวรพูดจบ เขาได้แต่นั่งนิ่ง “ก็เอ็งบอกข้าว่ามันเป็นข่าวลือไม่ใช่หรือ” เขาย้ำด้วยเสียงแหบพร่า “ใช่ แต่ข่าวลือของเอ้งมันเป็นขาวจริง แล้ววันนี้เอ็งมีข่าวลืออะไรมาเล่าให้พวกข้าฟัง” เฒ่าเชยพูดขึ้นมา “ข้าจะเล่าให้ฟัง เมื่อวานข้าได้ยินคนแถวท่ารถในจังหวัดเขาเล่าว่าน้ำทะเลจะแห้งแผ่นดินจะกลายเป็นหาดทรายงามยาวไปสุดสายตา” “นี่ตอนนี้เอ็งเดินเข้าไปถึงตัวจังหวัดแล้วเหรอ เอ็งบ้าหรือเปล่าไม่มีหรอก น้ำทะเลไม่เคยแห้ง ตั้งแต่ข้าเกิดมาจนแก่ป่านนี้ ข้ายังไม่เคยเห็นน้ำทะเลแห้งเลย แต่น้ำทะเลจืดนี่ ข้าพอได้ยินมาบ้าง” เฒ่าวรว่าพลางเอื้อมมือไปหยิบใบกระท่อมขึ้นมาเคี้ยว “แล้วแกมีข่าวลืออะไรมาเล่าอีกละ ข้าชักจะชอบข่าวลือของเอ็งแล้ว” เฒ่าวรเอ่ยขึ้นก่อนจะสั่งกาแฟมาให้เขาอีกแก้ว
ข้าพเจ้าเองก็แอบคิดเหมือนเฒ่าวร เพระทุกครั้งที่ชายเสียเส้นผมยาวนักเล่าเรื่องข่าวลือเอาข่าวต่างๆ มาเล่าที่ร้าน ข่าวลือของเขามักจะมีส่วนของความจริงอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สองเรื่อง ข้าพเจ้าไม่ได้คิดว่าเรื่องที่เขาเล่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นเรื่องจริง แต่ข่าวอย่างนี้ต้องมีที่มาที่ไป แล้วที่มาที่ไปของข่าวเหล่านี้อยู่ที่ไหน ความจริงและความน่าเชื่อถือของข่าวลือทั้งสองข่าวนี้ ใครสามารถรับรองได้ว่าไม่ใช่ข่าวลือ
ตะวันสายตลาดเริ่มวาย พ่อค้าแม่ค้าเริ่มถอยฉากจากตลาดคืนสู่บ้าน เพื่อเตรียมของกลับมาขายในตอนเย็น ชายเสียเส้นผมยาวนักเล่าข่าวลือ และผู้ฟังของเขาจากไปนานแล้ว ผู้คนในร้านบางตาลง ข้าพเจ้าก็มีเวลานั่งทอดอารมณ์ตรึกตรองข่าวลือที่ชายเสียเส้นผมยาวนำมาเล่า “ข่าวลือเหล่านี้น่าจะมีสถานะเป็นเรื่องเล่าชิ้นดี” เมื่อคิดได้เช่นนั้น ข้าพเจ้ารีบเก็บร้านและเก็บอุปกรณ์ในร้านจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วลงมือเขียนเรื่องเล่าอันเนื่องมาแต่ข่าวลือที่ชายเสียเส้นผมยาวนักเล่าเรื่องข่าวลือเล่าให้ฟัง แต่ขณะจะลงมือเขียน ข้าพเจ้ากลับพบปัญหาอย่างใหญ่หลวง เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือเขียนข่าวลือที่ได้ฟังมายังไงให้เป็นเรื่องเล่าสนุกสนาน และคนอ่านคล้อยตามได้ว่าข่าวลือที่ข้าพเจ้ากำลังนำมาเล่าต่อไม่ใช่ข่าวลือ เพราะตอนนี้คนที่ข้าพเจ้ารู้จัก รวมทั้งตัวข้าพเจ้าเอง เราต่างนิยมฟังและเล่าข่าวลืออย่างสนุกสนานกันในทุกๆ สถานที่
----------------------
(สนามเรื่องสั้น-สั้น : ชายเส้นเสียผมยาวนักเล่าเรื่องข่าวลือ : โดย...สุมาตร ภูลายยาว)