
สับปะรดล้นตลาดทำราคาตก!
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดโรงงาน 'ประจวบฯ-พิษณุโลก' ปลูกสับปะรดเพิ่มขึ้น เหตุผลตอบแทนสูงกว่าพืชแข่งขัน ส่งผลราคาตกต่ำตามมา แนะ ภาครัฐ-เอกชน หามาตรการช่วยเหลือต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.54 นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการ สศก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดโรงงาน ในแหล่งผลิตใหญ่ทางภาคกลางและภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดพิษณุโลก ได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกสับปะรด เนื่องจากได้รับผลตอบแทนสูงกว่าพืชแข่งขัน อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน เป็นต้น อีกทั้งสับปะรดเป็นพืชที่ดูแลรักษาง่าย ต้องการน้ำน้อยปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บผลผลิตได้ 1-3 ปี และยังสามารถปลูกแซมไม้ยืนต้นในขณะที่ยังมีอายุน้อย เพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรกร โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาสับปะรดอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด คือ ปี 2552 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.00 บาท ส่วนปี 2553 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.33 บาท และปี 2554 ตั้งแต่เดือน ม.ค. จนถึง พ.ย. เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 5.08 บาท
ทั้งนี้จากประมาณการผลผลิตสับปะรดโรงงาน ปี 2554 มีปริมาณผลผลิตสับปะรดโรงงานทั้งสิ้น 2.593 ล้านตัน แบ่งออกเป็นใช้อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตเพื่อการส่งออกปีละประมาณ 2.3 ล้านตัน ส่วนที่เหลือเป็นการบริโภคภายในประเทศ โดยคาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 จะมีประมาณ 8 แสนตันเนื่องจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญ มีสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำฝนเพียงพอ เกษตรกรที่ทำการบังคับผลผลิตสามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตสับปะรดช่วงปลายปี เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดสูงสุดในเดือน ธ.ค.จนถึงต้นปี 2555 จึงทำให้ผลผลิตมากกว่าปีก่อน ส่งผลปริมาณผลผลิตรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้นมากอาจเกิดปัญหาราคาของสับปะรดตกต่ำตามมา ซึ่งทางภาครัฐบาลและเอกชนได้เตรียมมาตรการและแนวทางความช่วยเหลือให้แก่เกษตรกร ดังนี้
ระยะเร่งด่วนให้กรมส่งเสริมการเกษตรทำหนังสือเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีโรงงานแปรรูปสับปะรด โดยขอความร่วมมือให้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง โรงงานแปรรูป กับเกษตรกร เพื่อให้โรงงานแปรรูปรับซื้อสับปะรดในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.00 บาท ส่วนกรณีที่จังหวัดที่ไม่มีโรงงานแปรรูปสับปะรด อาทิ จังหวัดอุทัยธานี พิษณุโลก เพชรบุรี ให้กรมส่งเสริมการเกษตร โดยเกษตรจังหวัด ประสานงานกับโรงงานแปรรูปในจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.00 บาท
นอกจากนี้ให้กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวสับปะรดที่มีขนาด และคุณภาพมาตรฐานตามที่โรงงานแปรรูปต้องการ รวมทั้งอย่าเร่งเก็บสับปะรดที่ไม่ได้อายุ (สับปะรดดิบ) และให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรดำเนินการประสานงานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้โรงงานแปรรูปทำ Packing Credit มีระยะเวลา 3 เดือน (ธ.ค.54 - ก.พ.55) โดยคาดว่าจะมีกรอบวงเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท
ระยะกลางให้กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการแนะนำให้เกษตรกรจัดทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Contract Farming) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ และให้กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์สนับสนุนให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร นำผลผลิตสับปะรดไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ สุดท้ายคือ ระยะยาว ให้มีการทบทวนยุทธศาสตร์ สับปะรด ปี 2553 - 2557 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ
.......................................................
(หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าว - ภาพแฟ้มข่าว)