ไลฟ์สไตล์

งามแท้ หรือแค่เทียมกับ'แซมมี่'ผู้ชายสวยเวอร์

งามแท้ หรือแค่เทียมกับ'แซมมี่'ผู้ชายสวยเวอร์

26 พ.ย. 2554

ไฮฮอตวันเสาร์ : งามแท้ หรือ แค่เทียม กับ 'แซมมี่' ผู้ชายสวยเวอร์

                  กว่าจะก้าวขึ้นบัลลังก์ตำแหน่งผู้ชายสวยที่สุดในโลกได้จะว่ายากก็แสนเข็ญ จะว่าง่ายก็สามารถ เนื่องจากตำแหน่งนี้ใช่ว่าจะแลกมาด้วย "บอนด์ ทู บี" เท่านั้น หากว่ากันว่าต้องมีความงามจากภายในสู่ภายนอก อย่างที่กองประกวดได้วางกฎเกณฑ์ไว้ให้บรรดาหนุ่มสวยได้ไต่ขึ้นไปพิชิต และด้วยส่วนผสมกำลังพอดีที่หาได้ไม่ง่ายนี้เอง จึงไม่แปลกหากมงกุฎทรงเกียรติที่สาวประเภทสองทั่วโลกหวังครอบครองจะหล่นตุ๊บบนศีรษะของหนุ่มไทยวัย 21 ปี ชื่อ "แซมมี่" ศิรภัสสร หรือ นายวรพงษ์ อัฒยกร มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน คนล่าสุด

                  สำหรับวงการอื่นอาจมองเป็นเรื่องไร้สาระ แต่นี่คือเกียรติยศและโอกาสที่วิ่งเข้ามาแล้วต้องรีบคว้า ไฮฮอตวันเสาร์ฉบับนี้เราจะพาไปกะเทาะเปลือกให้เห็นถึงแก่นแท้ "ราชินีความงามฉบับพิเศษ" !?! ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้...

ก่อนอื่นเลยอยากรู้ว่าทำอะไรมาบ้าง

                  เอ่อ...ทำหน้าอกค่ะ ส่วนแปลงเพศหรือยัง อืม...อันนี้ไม่ขอตอบนะคะ (ยิ้ม)

ตกเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ว่า "ปีนี้ล็อกชัวร์" ?

                  คำถามแบบนี้มีมาตั้งแต่ปีแรกที่เราได้ตำแหน่งนี้แล้ว พี่ปอย ตรีชฎา ก็โดน กระแสบอกว่าล็อกเอาไว้ แต่อยากจะบอกว่าถ้าทุกคนได้สัมผัสวงในการประกวดก็จะเห็นว่าเขาไม่มองเพียงความสวย มีการเก็บคะแนนตั้งแต่เก็บตัว แล้วมาบวกกับคะแนนในวันประกวดบนเวที ตั้งแต่หัวจรดเท้า บุคลิกภาพ การเดิน สำหรับแซมมี่บอกตามตรงว่าไม่คาดหวังว่าตัวเองจะชนะเลิศ คิดเพียงว่าต้องทำให้ดีที่สุด ผลเป็นอย่างไรยอมรับ มันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แน่นอน สิ่งที่ยากที่สุดคือเราไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ มาถึงจุดนี้แซมมี่ดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาและประเทศไทย เป็นทูตวัฒนธรรมที่พร้อมอุทิศตนช่วยเหลือสังคมทุกๆ เรื่องค่ะ

รู้ตัวเองว่าเป็นแบบนี้ตอนไหน

                  แซมมี่เป็นคนเชียงใหม่ เป็นลูกคนโตของบ้าน พ่อเป็นอดีตข้าราชการ ตั้งแต่จำความได้ก็ชอบเล่นกับเพื่อนผู้หญิง ชอบตุ๊กตา หมากเก็บ รักสวยรักงาม ทำตัวติดแม่ติดยาย โชคดีที่ทางบ้านค่อนข้างไม่ดุด่า ไม่ตี กลับกันเป็นห่วงมากกว่าเดิม เพราะเป็นแบบนี้กลัวว่าจะโดนเพื่อนแกล้ง กลัวเข้าสังคมไม่ได้ จึงพยายามเปลี่ยนความคิดให้เราเป็นเด็กผู้ชายนะ ก็จะยกข้อเสียของการเป็นสาวประเภทสองต่างๆ นานาให้ฟัง ซึ่งเราก็รับฟังแต่พอจบ ม.6 แล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยก็เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนทางเดินที่ต้องเลือก เราเลือกใช้ชีวิตแบบผู้หญิง สุดท้ายพ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไร

บันไดขั้นแรกเวทีสาวความงาม

                  ตอน ม.5 ปิดเทอม ไปเดินตลาดวโรรส (เชียงใหม่) มีรุ่นพี่สาวประเภทสองมาทักแล้วชักชวนเข้าประกวดมิสบลูไดมอนด์ เขารับแต่กะเทยผมสั้น (กะเทยหัวโปก) ห้ามผ่าตัดศัลยกรรมเต้านม หรือเรียกง่ายๆ "ตุ๊ดเด็ก" เขานัดให้ไปแต่งหน้า ตัวเองบอกที่บ้านว่าจะไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ตอนนั้นอยู่ดาราวิทยาลัย ไปประกวดก็ได้ที่ 1 ได้ถ้วยใหญ่มากพร้อมมงกุฎ แบกกลับบ้านตอนตีสอง พ่อไม่รู้ก็ดีใจนึกว่าได้ถ้วยเตะบอลชนะ (ขำ) เป็นเวทีแรกได้เงินก้อนแรก 4,000 บาท หลังจากแบ่งกับพี่เลี้ยงแล้ว ให้แม่หมดเลย แม่ก็ดีใจแต่ก็ห้ามไปกระกวดอีกให้ตั้งใจเรียน แต่ก็รั้น มีเวทีที่สองที่สามต่อมาเรื่อยๆ ตอนอยู่เชียงใหม่ 30-40 เวทีได้

ฉายานางงามร้อยเวที

                  ใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ 4-5 ปีได้ มีโอกาสได้ประกวดดาวของมหาวิทยาลัย เป็นเวทีมิสเลดี้ เลดี้ ปรากฏว่าชนะด้วย ก็เลยทำให้คนรู้จักมากขึ้น จากนั้นก็เริ่มเดินสายประกวด ทั้งสาวปกติและสาวประเภทสอง เคยประกวดเป็นแบบแต่งหน้าร่วมกับสาวแท้เป็นร้อยๆ คน ซึ่งไม่มีการพูดก็จะไม่มีใครรู้ ก็ชนะได้ที่ 1 แล้วก็ตามเวทีเล็กๆ ลอยกระทง ปีใหม่ สงกรานต์ นับร้อยเวที ได้ที่หนึ่งบ้าง ที่สองบ้าง ไม่เข้ารอบก็มี สำหรับเวทีมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส คิดว่าจังหวะนี้เราพร้อมที่สุดแล้ว บุคลิกการเดิน ตอบคำถาม การเก็บตัวอยู่ร่วมกับคนอื่น ความมั่นใจ พ่อแม่ก็สนับสนุนให้กำลังใจเกินร้อย เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่และน้องชายมาเชียร์ถึงขอบเวทีเลย

คิดว่าตัวเองสวยไหม

                  ตอนแรกก็ไม่คิด (ขำ) แต่พอได้มาประกวดบนเวทีเหมือนเราค้นพบตัวของเรา คือ สิ่งนี้นะ เราจึงตั้งเป้าหมายของเราว่าปี 2011 ต้องขึ้นเวทีมิสทิฟฟานี่ฯ ให้ได้ ฉันต้องทำการบ้าน บุคลิกภาพ ดูเทปการประกวดของรุ่นพี่ทุกๆ ปีโดยเฉพาะการตอบคำถามก็นำมาปรับใช้กับตัวเอง รวมถึงรูปแบบการประกวดแต่ละปี ก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ได้ตำแหน่งสูงสุดแล้วเป็นตัวแทนประเทศไทยประกวดเวทีมิสควีนฯ ซึ่งเป็นเวทีที่ไม่ได้จัดเพื่อให้สาวประเภทสองเป็นตัวตลก แต่เป็นการประกวดความสวยอย่างมีคุณค่า

ดูแลตัวเองอย่างไร

                  โชคดีที่เป็นคนไม่ค่อยมีขนขึ้นอย่างหนวด ขนหน้าแข้ง รักแร้ เหมือนผู้ชายทั่วไป ส่วนหนึ่งอาจเพราะกินฮอร์โมนตั้งแต่เด็กๆ ม.2 พอรู้ตัวว่าอยากสวยก็กินเลย ทำให้โครงสร้างเราเหมือนผู้หญิง คือเรามีความสุขที่เป็นตัวของตัวเอง หนูคิดว่าการที่ตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องฝืนธรรมชาติ แต่ธรรมชาติสร้างให้หนูเป็นแบบนี้ รูปร่างบางตั้งแต่เกิด ซึ่งคุณแม่ก็เชื่อว่าหนูเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิด จมูกจริง เข้าฟิตเนสออกกำลังกายประจำ

ใครเป็นไอดอล

                  พี่ปอย ตรีชฎาค่ะ รู้สึกว่าเขาใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่วงการสาวประเภทสองของเมืองไทย อีกทั้งเป็นคนน่ารักนอบน้อม ถ่อมตน นี่คือสิ่งสำคัญที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญเป็นคนสวยและเก่งด้วย ซึ่งเราก็อยากที่จะเป็นเหมือนเขา

ตอนนี้ประสบความสำเร็จสูงสุดหรือยัง

                  ตอนได้มิสทิฟฟานี่ก็ที่สุดแล้ว แต่มิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีนเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะคอนเซ็ปต์เขาคือ "สวยอย่างมีน้ำใจ" มีกิจกรรมที่ช่วยเหลือสังคมมากมาย เป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยกำลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ทางกองประกวดก็ทำกิจกรรมแห่รอบเมืองพัทยาพาสาวงามไปร่วมกันรับบริจาคของ ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นั่นเป็นการแสดงออกซึ่งน้ำใจ ไม่ว่าชาติไหน เพศไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีเหมือนกันคือ น้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ที่มีให้กัน

โกรธไหมถ้ามีคนเรียก "ตุ๊ด"

                  โกรธม้ากกก...(ลากเสียงสูง) ไม่ชอบ แอบไปร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ มันเหมือนกับเป็นการแบ่งแยก เหมือนคนขาวคนดำ ซึ่งแซมมี่คิดว่าเราน่าจะมองด้านดีของคนในสังคมมากกว่า คิดว่าตอนนี้สังคมไทยรวมถึงสังคมโลกเปิดใจยอมรับสาวประเภทสองมากขึ้น เช่นเดียวกับเวทีนี้ที่ทั่วโลกให้การยอมรับแล้ว มีผู้สนใจติดตามข่าวสารการประกวดเยอะมาก แซมมี่คิดว่าเราควรวัดคุณค่าของคนที่จิตใจมากกว่าภายนอก

คิดว่าทุกวันนี้ยังมี "ปม" ไหม

                  หมดไปนานแล้ว ไม่มีปมไหนที่จะมาขวางเส้นทางเดินให้สะดุดหรือถอยหลัง คิดว่าทุกก้าวมีความมั่นใจ แล้วก็มีคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวที่เป็นกำลังใจ ให้คำปรึกษาและความรักแก่หนูเต็มที่ คิดว่าภูมิใจที่เกิดมาเป็นสาวประเภทสองอยู่ในเมืองไทย สำหรับน้องๆ ที่ยังมีปม จะก้าวข้ามได้ ต้องแก้ด้วยการแสดงออกด้านดี แสดงให้พ่อแม่เห็นและยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ถึงจะเป็นแบบนี้ก็เป็นคนดีของท่านได้ เชื่อฟังคำสั่งสอน ตั้งใจเรียน ขณะเดียวกันเราก็ต้องลบล้างภาพลักษณ์ในอดีตที่อาจจะไม่ดี ต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นให้ได้ อย่างทุกวันนี้เห็นชัดเจนว่าพวกเราเข้าไปมีบทบาทในทุกอาชีพมากขึ้น ฟ้องว่าเรามีความรู้ความสามารถไม่ต่างจากเพศอื่น ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในสังคมได้

อยากเรียกร้องอะไรไหม

                  จะไม่เรียกร้องอะไร แต่จะพิสูจน์ตัวเองทางการกระทำ ให้สังคมได้เห็นว่าแทนที่จะเอาแต่เรียกร้อง เปลี่ยนเป็นไปทำประโยชน์ให้สังคมดีกว่าไหม ตอนนี้เรากำลังเจอภัยใหญ่ ก็สามารถออกมาได้ อุทิศตัวให้สังคมได้เห็นว่าเราเป็นเพศสร้างสรรค์ทำสิ่งที่ดีให้สังคมได้ เชื่อว่าสักวันจะเป็นวันของพวกเรา 

สเปกชายหนุ่ม

                  ชอบผู้ชายที่เป็นผู้นำ ไม่จำกัดว่าอายุมากหรือน้อย ที่สำคัญเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ยิ้มง่าย ส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ด้วยตอนนี้ค่อนข้างมีคนรู้จักบ้างแล้ว เขาคงรู้ว่าเราเป็นอะไร ก็มีอยู่หลายคนที่เข้ามา บางคนพาพ่อแม่พี่น้องมาเชียร์เราติดขอบเวทีเลย แต่ก็ขอเป็นเพื่อนกันก่อน มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด

วางแผนอนาคตอย่างไร

                  ความฝันอย่างหนึ่งคืออยากเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ ในที่นี้คือเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่าทั้งกายวาจาใจ ทั้งเรื่องการศึกษาก็ตั้งใจเรียนให้จบ ตอนนี้ย้ายจาก มรภ.สวนดุสิต มาเรียนรามคำแหง อยู่ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์สื่อสารมวลชน โอนหน่วยกิตมาเพราะต้องทำงานไปด้วย เรื่องวงการบันเทิงก็สนใจถ้ามีโอกาสค่ะ

นิยามความงามแบบไหนถึงจะโดนใจ เรื่องนี้ก็สุดแต่ใครจะคิด....

------------------------------
(ไฮฮอตวันเสาร์ : งามแท้ หรือ แค่เทียม กับ 'แซมมี่' ผู้ชายสวยเวอร์)