ไลฟ์สไตล์

รู้ทันอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรัง

รู้ทันอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรัง

02 พ.ย. 2554

อาการปวดหลัง หรือปวดคออาจเกิดขึ้นได้กับเราทุกคนในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต หลายรายโชคดีที่อาการปวดนั้นเป็นอยู่ไม่นานก็หายไป ขณะที่ผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยมีอาการเรื้อรังจนไม่สามารถทำกิจกรรมระหว่างวันได้ตามปกติ

สาเหตุแห่งความปวด
 สาเหตุของอาการปวดหลัง ปวดคอ มาจากทั้งปัจจัยภายในร่างกายของผู้ป่วยเอง และปัจจัยภายนอก โดยปัจจัยภายในได้แก่ ความผิดปกติทางพยาธิสภาพของกระดูกสันหลัง อาทิ หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทกระดูกสันหลังเสื่อม กระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังคดงอผิดปกติ มีเนื้องอกที่กระดูกสันหลังหรือการติดเชื้อของกระดูกสันหลัง ส่วนปัจจัยภายนอก ได้แก่ กิจกรรมทางร่างกายของผู้ป่วย 
 นอกจากนี้ปัจจัยภายนอกยังอาจเกิดจากท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ การนั่งหลังไม่พิงพนัก หลังงอ ก้มคอ ทำงานเป็นเวลานาน กิจกรรมเหล่านี้สร้างความเครียดให้กระดูกหลังและคอ เมื่อเกิดขึ้นซ้ำๆ ปีแล้ว ปีเล่า ก็ทำให้กระดูกเสื่อมลง จนมีอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรังในที่สุด ส่วนอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อกระดูกนั้นมีอยู่บ้าง อย่างเช่น  เล่นกีฬาบิดแรงจนหมอนรองกระดูกฉีกทันทีก็มีอยู่บ้างแต่เกิดขึ้นน้อย บางรายมาพบแพทย์เพราะเข้าใจว่าอาการปวดเป็นเพราะอุบัติเหตุ แต่เมื่อตรวจดูพบว่าความเสื่อมของกระดูกนั้นมีอยู่แล้ว แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เกิดอาการปวดตามมา

ปวดอย่างไร
 สำหรับอาการปวดนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดจากส่วนใดส่วนหนึ่งก่อนแล้วลามไปยังบริเวณอื่นเช่น ปวดคอร้าวไปยังแขน หรือปวดหลังร้าวลงขากรณีแบบนี้ต้องรีบมาพบแพทย์เพราะเป็นสัญญาณว่าเส้นประสาทกำลังถูกรบกวน”

การวินิจฉัย
 หากผู้ป่วยที่มีอาการปวด เรื้อรัง มานานกว่า 3 เดือน และรักษาโดยการรับประทานยาแล้ว ทำกายภาพบำบัดแล้วก็ยังไม่หาย กรณีแบบนี้แพทย์จะตั้งสมมติฐานไว้ว่าน่าจะเกิดความผิดปกติต่อกระดูกสันหลังขึ้นแล้ว หลักในการวินิจฉัยคือต้องซักประวัติอย่างละเอียด หากจำเป็นก็ต้องทำ CT SCAN หรือ MRI เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงของปัญหาซึ่งจะนำไปสู่ การรักษาที่ตรงจุดต่อไป

ปวดเรื้อรัง รักษาได้
 หลายคนอาจเกิดคำถามตามมาว่า เมื่อพักผ่อนแล้ว รับประทานยาแล้ว และทำกายภาพบำบัดแล้วก็ยังไม่หาย จะมีทางเลือกในการรักษาอย่างไรทางเลือกในการรักษาอีกหลายวิธี แต่ 3 วิธีที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นวิธีการรักษาอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรังที่ได้ผลดีและยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาดำเนินชีวิต ประจำวันได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
 1.การฉีดยาเฉพาะจุดเพื่อลดการอักเสบ (Local Steriod Injection)
 วิธีนี้เป็นการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาทำในผู้ป่วยโรคปวดหลังที่รับประทานยา และทำกายภาพบำบัดแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้น แต่ สภาพของกระดูกสันหลังยังไม่เสื่อมจนถึงขั้นจะต้องผ่าตัด การรักษาโดยวิธีฉีดยาเฉพาะจุดจะเป็นทั้งการรักษาและวินิจฉัยว่า จุดที่ฉีดยาไปนั้นเป็นจุดที่เป็นปัญหาจริงๆ บางครั้งผลของการเอกซเรย์ แสดงให้เห็นถึงภาวะเสื่อมของกระดูกสันหลังหลายจุดไปหมด แต่แพทย์จะฉีดตรงไหนนั้น ต้องเอาผลหลายๆ อย่างมาประมวลเข้าด้วยกัน ภายหลังจากการฉีดยาระงับการอักเสบแล้ว ฤทธิ์ยาจะอยู่ไปได้ 1-3 เดือน ผู้ป่วยหลายคนหายจากการปวดหลังอย่างถาวร แต่ก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้ทุกเมื่อ หากผู้ป่วยไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองด้วย กล่าวคือ ไม่มีการปรับเปลี่ยนท่าทาง และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม 
 2.การผ่าตัดกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้อง (Endoscopic Spine Surgery)
 การผ่าตัดกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดเพื่อนำหมอนรองกระดูกสันหลังที่มีปัญหาออกโดยใช้กล้องขนาดเล็กเพื่อลดอาการปวดหลังเรื้อรังอันเนื่องมาจากหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาท หรือโพรงกระดูกสันหลังตีบทับเส้นประสาท ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นผลมาจากความเสื่อมของกระดูกสันหลังที่ผ่านการใช้งานอย่างผิดๆ มายาวนาน
 วิธีการนี้เป็นการผ่าตัดแบบแผลเล็กซึ่งทักษะของแพทย์มีความสำคัญมากไม่แพ้เครื่องมือ  แพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดรักษาผ่านกล้องสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติของกระดูกสันหลังจนส่งผลให้มีอาการปวดรุนแรง รวมทั้งมีอาการอื่น อาทิ ปวดขา และขาอ่อนแรงร่วมด้วย โดยที่ผู้ป่วยผ่านการรักษาอื่นๆ มาแล้วอาการไม่ทุเลาลง  
 3.การผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังเทียม (Artificial Disc Replacement)
 การผ่าตัดโดยวิธีนี้ เป็นการเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังเดิมที่เสื่อมหรือบาดเจ็บโดยใช้หมอนรองกระดูกเทียมโดยที่ผู้ป่วยยังสามารถเคลื่อนไหวคอ ก้ม เงย หันซ้าย หันขวาได้ตามปกติ การเปลี่ยนหมอนรองกระดูกสันหลังเทียม มักจะทำกันที่คอเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกข้อถัดไปเสื่อมเร็วขึ้น เพราะแต่เดิม เมื่อหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม ก็จะมีการผ่าออกและเชื่อมข้อไว้ด้วยกัน แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ ข้อกระดูกชิ้นถัดไปต้องทำงานหนักกว่าเดิม และเสื่อมเร็วขึ้น
 แม้เทคนิคในการรับมือกับความผิดปกติของกระดูกสันหลังจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม จนเป็นที่มาของอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรังก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ นั่นคือ ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งภายหลังจากการรักษาผู้ป่วยจำเป็นต้องออกกำลังเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังพร้อมกับปรับเปลี่ยนอิริยาบทให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อาการปวดกลับมาอีก
นพ.วิวัฒน์ ชวาลภาฤทธิ์
โรงพยาบาลไทยรินทร์ โทร.0-2361-2727