
'นมปุยฝ้าย โรงเตี๊ยมมุสลิม'
'นมปุยฝ้าย โรงเตี๊ยมมุสลิม' เน้นการผลิตตามหลักอิสลาม โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่เป็นปกติสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผู้คนต่างหวดผวา แต่สำหรับหนุ่มมุสลิมจากเมืองกรุงวัย 30 ปี "มานิตย์ พิมพะทิตย์" กลับเห็นถึงมุมอันสงบของ จ.ยะลา มากกว่าการหวาดกลัวต่อปัญหาความรุนแรง เขาจึงตัดสินใจออกจากบ้านเกิดที่แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ไปซื้อบ้านปักหลักที่ที่ซอยวิฑูรอุทิศ 10 ต.สะเต็ง อ.เมือง จ.ยะลา ยึดอาชีพทำ
"ติ่มตำ" และต่อยอดด้วยขนม "ปุยฝ้าย" ออกขายตามงานทั่วภาคใต้ สามารถสร้างรายได้วันละกว่า 3 หมื่นบาท
ก่อนที่มานิตย์จะไปปักหลักทำติ่มซำที่ จ.ยะลานั้น เขาบอกว่า เริ่มต้นกิจการด้านอาหารจำพวก "ติ่มซำ" (ซีฟู้ต) เป็นติ่มซำทะเลฮาลาล ที่ จ.ชลบุรี มากว่า 10 ปีแล้วจนได้เป็นสินค้าโอท็ปของ จ.ชลบุรี แต่หลังจากที่เขาไปออกงานถนนคนเดินที่ จ.ยะลา เมื่อ 2 ปี ขายติ่มซำฮาลาล ภายใต้ชื่อร้าน หรือบูธ "โรงเตี๊ยมมุสลิม" ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยมุสลิมและคนทั่วไปเป็นอย่างดี มานิตย์จึงตัดสินใจย้ายจากชลบุรีมาปักหลักที่ จ.ยะลา ถึงวันนี้
"ติ่มซำของผมเป็นติ่มซำทะเลสูตรที่ผมได้มาจากชลบุรี ผมเป็นชาวมุสลิม อาหารติ่มซำของผมจึงเป็นอาหารฮาลาลโดยอัตโนมัติ สามารถบริโภคได้ทุกศาสนา พอผมไปซื้อบ้านที่ยะลาได้ไม่กี่เดือนจึงต่อยอดทำขนมปุยฝ้ายควบคู่กับติ่มซำ เน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือพี่น้องมุสลิม ปรากฏว่าขายดีเช่นกัน หากคิดเฉพาะรายได้จากการขายทั้งติ่มซำและขนมปุยฝ้ายที่ยังไม่หักต้นทุนตกวันละกว่า 3 หมื่นบาท เป็นติ่มซำราว 60%" มานิตย์ กล่าว
เหตุผลที่ตัดสินใจทำขนมปุยฝ้ายควบคู่กับติ่มซำ เนื่องจากเห็นว่าเป็นมุสลิมด้วยกัน จึงเน้นสูตรที่ถูกหลักศาสนาของพี่น้องมุสลิม นั่นคือขั้นตอนการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปภายใต้กรอบของฮาลาล ทำให้ขนมชนิดนี้กลายเป็นสินค้าที่ลูกค้าทั้งพุทธและมุสลิมในพื้นที่บริโภคได้
"ผมสังเกตดูขนมปุยฝ้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นานๆ จะมีคนมาจำหน่ายสักที โดยเฉพาะช่วงงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ เท่านั้น จะเป็นขนมปุยฝ้ายที่มาจากพ่อค้าต่างถิ่น ผมจึงคิดว่าหากเรานำขนมชนิดนี้มาวางขายในพื้นที่น่าจะเป็นผลดีและที่สำคัญเน้นถูกหลักศาสนาอิสลาม จึงทำให้เรามีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว" มานิตย์ กล่าวอย่างมั่นใจ
มานิตย์ บอกด้วยว่า ขนมปุยฝ้ายของเขาเป็นสูตรดั้งเดิม นอกจากจะเน้นที่สะอาด รสชาติต้องอร่อย กระบวนการผลิตทุกขั้นตอนเน้นความถูกหลักตามศาสนาอิสลาม มีอุปกรณ์ทุกชนิด และวิธีการทำที่สามารถตรวจสอบได้ แล้วยังมีจุดเด่นหรือเอกลักษณ์สำคัญคือมีขนาดใหญ่กว่าขนมปุยฝ้ายปกติเท่าตัว จนลูกค้าส่วนใหญ่เรียกติดปากกันว่า "ขนมปุยฝ้ายยักษ์" แต่เบานุ่ม...ดุจใยไหม มีให้เลือกถึง 5 สี ที่ล้วนแต่เป็นสีที่ผลิตจากธรรมชาติ อาทิ สีเขียวผลิตจากแคนตาลูป สีชมพูมาจากสตรอเบอร์รี่ สีเหลืองคือข้าวโพด สีม่วงคือเผือกและสีขาวมาจากนมสดนั่นเอง ขายในราคาชิ้นละ 35 บาทหรือ 3 ชิ้น 100 บาท เน้นตลาดตามงานต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งตอนล่างและตอนบน เนื่องจากมีข้อจำกัดในปริมาณการผลิตของแต่ละวันนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์อาหารทั้งติ่มซำและขนมปุยฝ้ายของโรงเตี้ยมมุสลิมของ "มานิตย์ พิมพะทิตย์" นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นทางเลือกของผู้บริโภคของคนทุกศาสนา ที่เน้นการผลิตทุกขั้นตอนตามหลักของศาสนาอิสลาม หากต้องการสอบถามรายละเอีดยโทรศัพท์ 0-8501-83943 มานิตย์ บอกว่ายินดีบริการให้
----------------------------------
('นมปุยฝ้าย โรงเตี๊ยมมุสลิม' เน้นการผลิตตามหลักอิสลาม โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ)