
'ลอปะตีแก'ขนมโบราณมลายู
'ลอปะตีแก'ขนมโบราณมลายู ของอร่อยจากปลายด้ามขวาน โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ
ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการยกย่องว่านอกจากจะมีความโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีอัตลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคนในภูมิภาคนี้แล้ว ยังมีความโดดเด่นที่ทุกคนรับรู้กันเป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งนั่นคือเรื่องของ "อาหาร" ซึ่งล้วนแต่เป็น "ของอร่อย" ขึ้นชื่อในหมู่นักชิม และประชาชนเป็นวงกว้างมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น "บูดูสายบุรี" "ชาชัก"หรือ "กือโป๊ะ" เป็นต้น
ขนมลอปะตีแก คือหนึ่งในของอร่อยที่อยู่คู่ดินแดนแห่งนี้มาอย่างยาวนาน ว่ากันว่าเป็นสูตรที่เป็นดั่งมรดกตกทอดจากบรรพชนมาสู่ลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่าจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
รอฮีม๊ะ ดือเระ แม่ค้าขนมลอปะตีแก อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 5 ต.เอราวัณ อ.แว้ง จ.นราธิวาส บอกว่า ได้รับการถ่ายทอดความรู้และสูตรมาจากบรรพบุรุษ โดยช่วงแรกทำกินภายในครอบครัว แต่ระยะหลังเห็นว่าเริ่มหารับประทานยาก จึงลองทำออกวางจำหน่าย ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งตระเวนขายในท้องตลาดเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยมีลูกค้ากระจายทั่วสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ความรู้ในการทำขนมลอปะตีแก เป็นมรดกครอบครัว เมื่อก่อนทำกินกันภายในบ้าน กระทั่งตัดสินใจทำออกขายเชิงพาณิชย์เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าขายดี วันนี้จึงพยายามขยายตลาดให้กว้างขึ้นด้วยการตระเวนออกงานทั่วพื้นที่ปลายด้ามขวาน" รอฮีม๊ะกล่าว
ทั้งนี้ขนมชนิดนี้เรียกตามภาษามลายูว่า "ลมปัตตีกัม" ซึ่งคนในพื้นที่ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะเรียกขานกันติดปากว่า "ลอปะตีแก" หากแปลก็จะได้ความว่า "กระโดดแทง" ซึ่งเป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อและอร่อยมีขายทั้งฝั่งไทยและมาเลเซีย ขนมชนิดนี้จะมีส่วนผสมของใบเตยเป็นสำคัญ ทำด้วยข้าวเจ้า รับประทานกับน้ำตาลแว่น น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำหวาน ราดด้วยกะทิ ชนิดที่ใครได้ชิมแล้วต้องยกนิ้วให้
แต่ขนมชนิดนี้มีจำหน่ายในบางแห่งของพื้นที่ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เท่านั้น เนื่องจากวันนี้คนรุ่นใหม่ให้น้ำหนักและความสำคัญกับขนมที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ทำให้แทบไม่มีใครให้ความสนใจกับขนมสูตรโบราณมากนัก ทั้งที่เป็นขนมที่อยู่คู่กับท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน
รอฮีม๊ะ เผยต่อว่า ขนมลอปะตีแก นอกจากจะมีจำหน่ายในพื้นที่ชายแดนภาคใต้แล้ว ที่ประเทศเพื่อนบ้านก็ยังมีขนมชนิดนี้วางจำหน่ายเช่นเดียวกัน จึงพยายามถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มสตรีในชุมชน เพื่อหวังจะขยายองค์ความรู้ในการปรุงขนมให้ออกสู่วงกว้างมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้แล้ว ยังสืบสานตำนานและภูมิปัญญาไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลาอีกด้วย
"เอกลักษณ์ของขนมชนิดนี้ จะอยู่ที่กลิ่นใบเตยที่จะหอมกรุ่นทุกครั้งที่ตักเข้าปากเพื่อรับประทาน และเมื่อได้เคี้ยวน้ำตาลแว่น หรือน้ำตาลปี๊บ โดยเมื่อตกน้ำหวานที่ราดผสมด้วยน้ำกะทิแล้ว จะยิ่งได้รสชาติที่กลมกล่อมอย่างมาก" เจ้าของผลิตภัณฑ์เผยจุดเด่น
ส่วนผสมในการทำขนมลอปะตีแก ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส น้ำใบเตย หัวกะทิ น้ำตาลแว่น น้ำตาลปี๊บ จากนั้นจึงเริ่มผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส น้ำใบเตยคนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งบนไฟ ก่อนนำมาเทใส่ในถาด ขั้นตอนต่อมาต้มน้ำตาลแว่น แล้วต้มหัวกะทิใส่แป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย เพื่อให้ได้หัวกะทิที่เข้มข้น
"ขนมชนิดนี้มีหน้าตาคล้ายขนมเปียกปูน แต่หากใครได้ลองลิ้มรสชาติแล้วมักจะบอกว่ามีความอร่อยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนราคาจะขายอยู่ 10-15 บาทเท่านั้น "รอฮีม๊ะกล่าว
"ขนมลอปะตีแก" หรือ ลมปัตตีกัม ตามภาษามลายูนอกจากจะอร่อย และหารับประทานไม่ง่ายแล้ว แต่ราคาขายอยู่ที่ 10-15 บาทเท่านั้น ทั้งนี้หากใครแวะเวียนมายังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว อยากลองลิ้ม "ขนมลอปะตีแก" สามารถโทรสอบถามได้ที่ 08-9969-4216 ยินดีให้บริการความอร่อยอย่างเต็มใจ
------------------------------------
('ลอปะตีแก'ขนมโบราณมลายู ของอร่อยจากปลายด้ามขวาน โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ )