ไลฟ์สไตล์

น้ำตกสิบห้าชั้นป่าจันทบุรี

น้ำตกสิบห้าชั้นป่าจันทบุรี

16 ต.ค. 2554

ชวนเที่ยว : น้ำตกสิบห้าชั้น ป่าจันทบุรี โดย นพพร วิจิตรวงศ์

      ได้ฤกษ์เสียที ที่จะเขียนถึงอุทยานแห่งชาติใหม่ ที่ได้รับการประกาศ ยกระดับชั้นเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ หลังอนุมัติร่างกฤษฎีกาประกาศ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 "อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น" อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ป่าดงดิบในพื้นที่ราบที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ อยู่ระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการบุรกรุกทำลาย และเป็นป่าดงดิบในที่ราบที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด

      นัดแนะพลพรรคออกเดินทางกันค่ำวันศุกร์ กะว่าถึงที่หมายมีเวลานอนพักสักหน่อย คราวนี้ขับรถตามๆ กันไป 2 คันกระบะ ออกเส้นบางนา-ตราด มุ่งหน้าเป้าหมาย อ.แก่งหางแมว อำเภอชายขอบจังหวัดจันทบุรี  แยกเข้าอ.แก่งหางแมว ถนนเงียบเพราะค่อนดึก สองข้างทางมีป่ายางต้นสูงๆ  ไม่นานนักก็ถึงปากทางเข้าที่ทำการ อช.เขาสิบห้าชั้น ดีที่ติดต่อกันไว้ล่วงหน้า เราเลยได้เข้าไปผูกเปลนอนกันด้านในตรงศาลาพัก ไม่พูดพล่ามทำเพลง ต่างคนต่างหาทำเลผูกเปลนอน ไม่นานทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติ

     เช้าๆ ตื่นมาจิบไอฝน พร้อมกับนอกรถออกไปเดินดูตลาดชาวบ้าน ซื้อเสบียงสด จิบกาแฟโบราณ หลังเตรียมเสบียง จัดสัมภาระเรียบร้อย แบ่งข้าวของ เสบียงเสร็จ พวกเราทั้งหมด 10 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ 2 คน ก็ขึ้นรถ 4WD ของหน่วยฯ เดินทางไปยังจุดเริ่มต้นเส้นทางน้ำตก 15 ชั้น พวกเราเลือกเดินไต่ตามน้ำตกไป แล้วกลับทางสันเขาในวันรุ่งขึ้น เพราะขาลงน้ำตกจะยากกว่า อีกทั้งวันแรกเริ่มเดิน ร่างกายขอปรับสภาพก่อน เดินไป เล่นน้ำไป ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกว่าเดินสันเขาร้อนๆ เป็นไหนๆ ถามไถ่ได้ความว่าเดิน 2-3 ชั่วโมงก็ถึง  แต่ลืมถามว่าถึงชั้นไหน น่ะซิ

     เทรลเดินเส้นนี้ไต่เลาะกันไปตามรากไม้ ธารน้ำ ...นี่ถ้าน้ำป่ามา ก็อย่าหวังได้เดินกันเชียว แต่ยามนี้ ธารน้ำไหลเอื่อยๆ  เดินเรื่อยๆ ให้อารมณ์ของธรรมชาติ สดชื่นจริงๆ  ตลอดเส้นทางนี้ มีแต่ข้ามน้ำไป ข้ามน้ำมา ไต่ไปตามน้ำตกจริงๆ จนพวกเราแทบจะแปลงกายเป็นมนุษย์น้ำตกกันไปเลยทีเดียว จาก 1 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีทีท่าจะพ้นจากธารน้ำสายเล็กๆ นี้ไปได้  ก็เรามาเดินขึ้นน้ำตกสิบห้าชั้นนินา  ...."ผ่านไปกี่ชั้นแล้วเนี่ยะ"  นับไปนับมา จนขี้เกียจนับ  รู้แต่ว่า ตรงนี้ยังไม่ใช่ทำเลที่พักแน่ๆ 

      นอกจากธารน้ำตกแล้วยังมีหลายช่วงที่ต้องไต่ ๆ ๆ ขึ้นไปข้างๆ เขา ที่ชันขนาดแหงนคอตั้งบ่า ด้านบนเป็นทางลาดกับธารน้ำที่ปรากฏข้างหน้า ทำเอาทุกคนพร้อมกันใจปลดเป้ พักเหนื่อย ในสปาธรรมชาติ ที่...ที่มีเก้าอี้ให้นั่งได้ไม่จำกัด 

      เมื่อเป้าหมายของพวกเราจะไม่นอนกันตรงนี้ เพราะงั้น ...หลังพักผ่อนหย่อนใจ จนอิ่มเอม ก็ต้องขึ้นเป้เดินต่อ ... และ 2 ชั่วโมงจากนี้ไป ทำเอาหวาดเสียวไปตลอดทาง เพราะต้องไต่ไปตามธารน้ำตก สลบับเขาชัน แล้วยังมีเมฆหม่นๆลอยกดดันอยู่บนฟ้า  สักพักฝนเริ่มโรยละออง ใครถ่ายรูปอยู่ก็เก็บกล้องกันจ้าละหวั่น ก่อนจะรีบเดิน ผ่านน้ำตกอีกชั้นใหญ่ ก่อนจะต้องไต่ทางดินโคลนชันๆ ชันไป ทางเดินนี้ทุลักทุเลทีเดียว เพราะนอกจากชันแล้วดินลื่น จากฝนที่เพิ่งตกไปไม่นาน ทางเดินมีพอแค่วางเท้า ข้างทางแทบไม่มีอะไรให้จับ นอกจากต้นไผ่ กับต้นหวาย  

      ไต่เลาะเขาไปได้แบบอึดอัดสักพัก ก็ได้ยินเสียงน้ำตก นึกว่าใกล้ถึงที่พัก ที่ไหนได้ ยังต้องไปกันต่อ ล้างเนื้อล้างตัวเสร็จไต่สวนน้ำตกขึ้นไป ธารน้ำด้านบนแม้ทำเลดีแต่ไม่เหมาะเป็นแคมป์ แต่เมื่อไม่ใช่เป้าหมายชั้น 15 เราก็ไปกันต่อ จนถึงทางชันขนาดว่ารักก้อนหิน รักรากไม้ทีเดียว ต่างคนต่างไต่ในมุมที่ถนัด ขึ้นไปนั่งพักด้านบน เจ้าหน้าที่บอกว่า รายการท่องเที่ยวที่เคยมาถ่ายทำ ก็มาแค่ชั้นนี้ รู้สึกว่าจะ 9 หรือ 10 นี่แหละ นับไปนับมา จนลืมนับ 

      เราไต่กันต่อ ข้ามน้ำเหนือน้ำตกที่ดูจะลึกเอาการและอย่าได้พลาดเชียว แต่พ้นไปได้ ก็อุทานด้วยความตื่นเต้น "นี่เลย  ใช่เลย"  สวยมากๆ สายน้ำตกที่ลัดเลาะลาดชันลงมาตามช่องเขา "นี่ถ้าเราไม่ขึ้นมา ก็ไม่เจอน้ำตกสวยๆ แบบนี้ดิ" ว่าแล้วเราทิ้งเวลาไว้ตรงนี้กันอีกอึดใจใหญ่ๆ  ต่างคนต่างงัดกล้องมาบันทึกความทรงจำ

     ดื่มด่ำกันได้นานโข ก็ต้องปีนป่ายกันอีกยก ไต่ขึ้นไปตามหินข้างๆ น้ำตกนั่นแหละ ก่อนจะไปหยุดอยู่ในห้องโถงกว้างๆ ของป่าใหญ่ เหนือน้ำตก สองฝั่งเป็นคันดินที่สูงขึ้นไป เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ สูงร่มครึ้ม ต้นไผ่ทอดตัวประสานยอดเข้าหากัน ข้างหน้ามีน้ำตกเล็กๆ ที่ทอดเอื่อยลงมา  

      เส้นทางสุดท้ายก่อนถึงแคมป์ เป็นธารน้ำเหมือนคลองเล็กๆ ที่เราจะต้องเดินตามน้ำไป ฉันเร่งสปีดเพราะนอกจากจะใกล้ค่ำแล้ว ยังดันแว่บคิดไปถึงหนังเรื่อง "อนาคอนด้า" ซะงั้น 

      แคมป์พักของเราอยู่ริมธารน้ำที่ระดับไม่สูงมากนัก จับจองคู่ต้นไม้ผูกเปลเสร็จ งวดนี้ต้องอยู่ คือผูกเปลซ้อน 2 ชั้นขึ้นไป เพราะต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ระยะพอดีมีไม่มากนัก 

      ค่ำนี้ ทำกับข้าวไป แซวกันไป ใครนะบอกว่าเดิน 2-3 ชั่วโมง เอาเข้าจริงน่าจะไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงได้  วงสนทนารอบกองไฟหลังมื้อค่ำกลางป่าใหญ่อบอวนด้วยมิตรภาพเสมอ ใครง่วงก็ไปนอนก่อน แล้วไม่ทันที่เราจะลงเปลนอนกันหมด ก็มีเสียงกรนขึ้นมาเป็นเพื่อนซะแล้ว 

      เที่ยวป่าแบบนี้ ใครๆว่าจะอดอยาก แต่ไม่มีเสียหล่ะ แถมพกด้วยกาแฟสดที่หอบหิ้วเครื่องชงเล็กๆ มาด้วย ตื่นมาจิบกาแฟหอมกรุ่นริมสายน้ำเอื่อยๆ มีเสียงนก เสียงแมลงทักทายรอบข้างช่างให้ความรู้สึกที่ดีมากมาย เราพักกันเต็มที่ ก่อนจัดการมื้อเช้า เก็บแคมป์ เพื่อออกเดินทางกันต่อ คราวนี้จะตัดขึ้น เดินเลาะตามสันเขาไปลงใกล้ๆ กับจุดขึ้นเป้เมื่อวาน กับเป้าหมาย "ซีฟู้ดริมหาดระยอง" 

      เราเดินย้อนทางเก่าลุยน้ำไปไม่ไกล ก็ตัดขึ้นเนินชัน ฝั่งซ้ายมือ คราวนี้เปลี่ยนจากขึ้นน้ำตกชัน มาเป็นทางดินชันๆ แทน ... เหนื่อยพอกัน เพราะต้านแรงโน้มถ่วง ไม่น้อยไปกว่ากันเล๊ย ตอนนี้คิดถึงสูตรฟิสิกส์สมัยเรียนขึ้นมาตงิดๆ F=Mg สงสัยต้องกลับมาลดน้ำหนักซะหน่อยแล้ว

....................

(ชวนเที่ยว : น้ำตกสิบห้าชั้น ป่าจันทบุรี โดย นพพร วิจิตรวงศ์)