
แผลไฟไหม้
เพียงเสี้ยววินาที แผลไฟไหม้หนัก รักษายาก ค่าใช้จ่ายสูง เสี่ยงเสียชีวิตสูง 1.บาดแผลไหม้จากอุบัติเหตุทุกชนิด ได้แก่ บาดแผลไฟไหม้ (Flame Burn) บาดแผลของเหลว ของร้อนลวก (Scald Burn) บาดแผลไหม้จากสารเคมี (Chemical Injury)
บาดแผลไหม้จากการสัมผัส (Contact Burn) ไม่ว่าจะเป็นของร้อน เช่น โดนท่อไอเสีย ผิวหนังสัมผัสของร้อน เช่น เตารีด วัสดุร้อนๆ หรือ ของเย็นจัด เป็นต้น บาดแผลไหม้จากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต (Electrical Injury) บาดแผลไหม้จากสะเก็ดระเบิด (Blast Injury)
2.บาดแผลกดทับ (Pressure sore)
3.บาดแผลโรคหลอดเลือดเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลจากโรคหลอดเลือดดำ (Venous Ulcer) หรือ บาดแผลขาดเลือด (Ischemic Ulcer) จากโรคหลอดเลือดแดงอุดตันเรื้อรัง
4.บาดแผลเรื้อรังจากแผลเบาหวาน (Diabetic Ulcer)
5.ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดหลังจากบาดแผลหายแล้ว เช่น การหดรั้งของบาดแผล รอยแผลเป็น (Hypertrophic Scar) ข้อติดหดรั้ง (Scar Contracture) รวมถึงทุพพลภาพอื่นๆ ที่เกิดจากบาดแผล
ปีนี้เท่าที่สรุปเมื่อต้นปี มีกรณีแผลไฟไหม้รุนแรงกว่า 60 ราย ผิวร่างกายกว่า 15% ถูกทำลายจากความร้อนในทุกรูปแบบ รวมถึงเหตุเพลิงไหม้หนักจากกรณีฉลองปีใหม่ที่ซานติก้าผับ ถือเป็นโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้ครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย
เหตุเกิดได้เสี้ยววินาที ความคึกคะนอง ประมาท ทำให้ผู้อื่นและตัวเองบาดเจ็บสาหัสกว่า 200 ตายไปเหตุเดียว 65 คน ผู้ที่บาดเจ็บหนักๆ มารักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 27 ราย
ฟังดูแล้วคนไข้ที่เป็นแผลอาจไม่ร้ายแรง แต่จริงๆ แล้วแต่ละคนใช้เวลาในการรักษาที่ยาวนาน ตามแต่ “ความลึก” ของแผลไฟไหม้ ค่าใช้จ่ายสูง รักษายาก ในการรักษาแต่ละครั้งเมื่อมีเหตุต้องระดมทีมแพทย์แบบสหวิชาชีพ ทั้งศัลยแพทย์ แพทย์เวชบำบัดวิกฤต วิสัญญีแพทย์ อายุรแพทย์ จิตแพทย์ วิสัญญีพยาบาล พยาบาลประจำหอผู้บาดเจ็บ นักกายภาพบำบัด นักโภชนาบำบัด เป็นต้น ที่ต้องร่วมมือพร้อมกับเครื่องมือการแพทย์ที่พร้อมเฉพาะในแต่ละอาการที่แตกต่างกันไป
เริ่มแต่การวินิจฉัยเฉพาะหน้า ระงับความเจ็บปวด ป้องกันและรักษาผลข้างเคียง ไปจนถึงการรักษา แก้ไขความผิดปกติจากการหาย รวมไปถึงสภาพทางด้านจิตใจเพื่อกลับไปดำรงชีวิตประจำวันปกติได้ต่อไป
วิวัฒนาการการรักษาเริ่มปรากฏผลและมีความเชี่ยวชาญพอที่จะทำให้ได้รับความรู้จากเหตุการณ์ ทำให้สามารถรักษาให้มีโอกาสมีชีวิตรอดมากขึ้น ให้ปลอดจากการติดเชื้อ รักษาเนื้อเยื่อให้ดีขึ้นได้ การทำศัลยกรรมที่ทำได้ยาก การรักษาระดับโปรตีนในเลือดในการรักษาชีวิตไว้
ผลการรักษาผู้บาดเจ็บที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนั้น ทุกรายแผลดีขึ้น มีเพียง 1 รายที่เสียชีวิตเนื่องจากมีแผลไฟไหม้มากถึง 70% และมีโรคแทรกซ้อนทางไตและระบบทางเดินหายใจ
สำหรับภาวะทางร่างกายนั้น เมื่อบาดแผลไฟไหม้ลึกมาก กล้ามเนื้อไหม้ไปด้วย ทำให้มีกล้ามเนื้อตาย ทำให้ไตวายและกล้ามเนื้อที่ตายทำให้ผู้บาดเจ็บต้องเสียอวัยวะ เช่น แขนหรือขา
การบาดเจ็บทางด้านทางเดินหายใจก็สำคัญ เพราะผู้ป่วยจะสำลักควันลึกไปถึงปอด ทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น และจะต้องมีความระวังอย่างมาก เพราะทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตได้โดยพลัน ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
บทเรียนที่ได้ที่สำคัญในการช่วยชีวิตระยะแรกคือ การให้สารน้ำให้เพียงพอตั้งแต่ต้น อาจป้องกันภาวะไตวายเฉียบพลันได้ อาการบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจสำหรับผู้ที่รอดชีวิต เรียกได้ว่า ค่าใช้จ่ายแพงสูงที่สุด แพงกว่ารักษามะเร็งอีก ปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งได้ปิดยูนิตนี้ลง เพราะค่าใช้จ่ายสูงทั้งของโรงพยาบาล ของแพทย์และของผู้ป่วย
นอกจากไฟไหม้จากอุบัติเหตุแล้ว ยังมีเหตุเกิดขึ้นได้จากสารเคมี กระแสไฟฟ้าแรงสูง กัมมันตภาพรังสี แต่มักจะเรียกรวมๆ กันไปว่า บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
แม้วิวัฒนาการทางการแพทย์จะรักษาให้รอดชีวิตได้ แต่ผู้ป่วยก็เกิดความเจ็บปวด รักษานาน ค่าใช้จ่ายสูง สูญเสียภาพลักษณ์จากรอยแผลและพิการได้ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตฉับพลัน
เมื่อเกิดเหตุให้ใช้น้ำเปล่าหรือน้ำสบู่อ่อนล้าง ใช้ผ้าสะอาดห่อไว้ แล้วมาพบแพทย์ อย่าใช้น้ำแข็ง น้ำเย็นประคบ เพราะทำให้บาดแผลลึกมากขึ้นได้ อย่าใช้ยาสีฟันหรือครีมชะโลมบนแผล อาจทำให้ติดเชื้อ อันตราย ถ้าเป็น “น้ำกรด” หรือโซดาไฟ หรือด่างแรงๆ ล้างห้องน้ำ ต้องระวังอวัยวะอื่นด้วย น่ากลัวแผลลึก
นพ.อรรถ นิติพน
โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร.1719