เกิน 18 ปี ไม่ติดคุกพรากผู้เยาว์ | คมชัดลึก

 พอดิฉันไปคุยกับทางพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทางโน้นก็เอาผู้ใหญ่บ้านมาด้วย มีคนแถวบ้านมาช่วยหลายคน
 ทางดิฉันก็ขอเวลาให้ลูกชายปลดทหารก่อน ส่วนทางฝ่ายหญิงเขาเรียกร้องค่าสินสอดเป็นเงินหลายหมื่น ซึ่งดิฉันไมได้ต่อรองอะไร เพราะอยากให้ลูกชายเป็นคนตัดสินใจเองว่า เขาจะหาเงินเองได้ไหม
 สิ่งที่อยากทราบเกี่ยวกับทางด้านกฎหมายคือ หลังจากได้เจรจากันเสร็จเรียบร้อยว่า เดือนไหน ปีไหน และจำนนวนเงินเท่าไหร่ ให้ไปสู่ขอลูกสาวเขา ทำไมผู้ใหญ่บ้านหรือผู้ช่วยเอาสมุดที่เขาจดรายละเอียดเรื่องไว้ แล้วนำมาให้พ่อแม่เซ็นชื่อด้วย
 ตามกฎหมายถ้าเกิดว่า ดิฉันกับลูกชายไม่มีปัญญาหาเงินไปสู่ขอตามที่ฝ่ายหญิงเรียกร้อง ลูกชายต้องติดคุกนานไหมคะ แล้วตัวดิฉันจะมีความผิดด้วยไหม ถ้าดิฉันมีความผิดด้วย เพราะอะไรจึงมีความผิดในเมื่อดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ลูกชายที่ทำผิด ดิฉันแค่ไปเจรจาว่าควรจะทำอย่างไรเท่านั้น

 แม่ผู้ทุกข์ใจ
 ตอบ
 ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ปราชญา อ่อนนาค คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า จากข้อมูลที่ให้มาไม่ได้บอกชัดเจนว่า ฝ่ายหญิงมีอายุเท่าไหร่ แต่โดยกฎหมาย หากผู้เสียหายอายุเกิน 18 ปี ก็ไม่อยู่ในข่ายของการพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นคดีอาญา
 ซึ่งในกรณีนี้ก็ต้องดูว่า เด็กผู้หญิงที่ลูกชายของคุณไปหลบอยู่ที่บ้านของเขานั้นอายุเท่าไหร่ ถ้าเกิน 18 ปี ไม่เข้าข่ายคดีอาญาแล้ว แต่ถ้ายังไม่ถึง 18 ปี กรณีนี้ถ้าพ่อแม่ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับทางฝ่ายหญิง พ่อแม่ก็จะมีปัญหาด้วย หากทางโน้นฟ้องข้อหาพรากผู้เยาว์
 แต่ถ้าทั้งหมดนี้ ฝ่ายหญิงอายุเกิน 18 ปี เมื่อถึงเวลาที่ตกลงไว้ตามกำหนด แล้วทางฝ่ายคุณไม่ทำตามสัญญา กรณีนี้ทางโน้นก็มีสิทธิที่จะแจ้งความได้อีกเช่นกัน แต่เรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นคดีแพ่ง เป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งก็ว่ากันไปตามกระบวนการของศาล แต่ลูกชายของคุณไม่มีความผิดถึงติดคุก เพราะคดีแพ่งไม่ติดคุก
 ส่วนกรณีของพ่อแม่ก็ไม่มีความผิด ถ้าฝ่ายหญิงอายุเกิน 18 ปีแล้ว เนื่องจากเรื่องทั้งหมดไม่ใช่คดีอาญา มีเพียงลูกชายของคุณเท่านั้นที่อาจจะต้องรับผิดชอบถ้าทางนั้นฟ้องในทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย
 ลุงแจ่ม