
(หน้า 1 อี 2) แจ้งจับผู้บริหารโรงพยาบาลอำเภอตั้งกล้องถ่ายใต้กระโปรงหมอสาว
11 ธ.ค. 2551
(หน้า 1 อี 2) แจ้งจับผู้บริหารโรงพยาบาลอำเภอตั้งกล้องถ่ายใต้กระโปรงหมอสาว
หมอสาวแจ้งจับผู้บริหาร รพ.ประจำอำเภอ จ.ชัยภูมิ หลังตกเป็นเหยื่อถูกซ่อนกล้องแอบถ่ายใต้โต๊ะทำงาน เพิ่งรู้ตัวเมื่อก้มเก็บปากกา สังเกตเห็นไฟสีแดงใต้โต๊ะ ตำรวจยึดคอมพิวเตอร์ตรวจสอบ ตะลึงพบภาพใต้กระโปรงอื้อ ลอบถ่ายนานร่วมเดือน แจ้งข้อหาถ้ำมองสร้างความเดือดร้อนรำคาญก่อนตรวจสอบนำไปเผยแพร่ทางเน็ตหรือไม่ สสจ.ตั้งกรรมการสอบสวน เจ้าตัวยังปิดปากเงียบ
/////////////////////
เหตุผู้บริหารโรงพยาบาลแอบถ่ายคลิปใต้กระโปรงแพทย์สาว เปิดเผยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 3 ธันวาคม พ.ต.อ.สมศักดิ์ ฤกษ์พุฒิ ผกก.สภ.เนินสง่า จ.ชัยภูมิ เข้าตรวจค้นหลักฐานการลักลอบถ่ายคลิปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจาก พญ.บี (นามสมมติ) อายุ 25 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาล เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วิหาร นวลงาม พนักงานสอบสวน ว่า มีผู้ลักลอบตั้งกล้องถ่ายภาพใต้กระโปรง ซึ่งไม่ทราบว่าทำมานานเท่าใด แต่เพิ่งรู้ตัวและเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณชั้นหนึ่งของโรงพยาบาล พบว่ามีห้องขนาด 2.5 เมตร กั้นเป็นสัดส่วน 3 ห้อง สำหรับใช้เป็นห้องทำงานของผู้บริหารและแพทย์ โดยผู้เสียหายระบุว่า เชื่อว่าถูกลักลอบต่อสายเชื่อมโยงถ่ายจากห้องผู้บริหารที่อยู่ห้องแรก เชื่อมมาถึงห้องของ พญ.บี ที่อยู่ห้องสุดท้าย จึงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบเพียงสายโทรศัพท์สีเหลืองเชื่อมโยงต่อระหว่างห้องเท่านั้น แต่ไม่พบสายเชื่อมโยงสัญญาณแต่อย่างใด จึงยึดมาเป็นหลักฐานและได้นำยึดเครื่องคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของห้องผู้บริหารมาตรวจสอบด้วย
พ.ต.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า จากการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้บริหารโรงพยาบาลรายนี้ มาตรวจสอบ พบว่ามีการลักลอบบันทึกภาพใต้กระโปรงของแพทย์หญิงผู้เสียหายจริง มีหลักฐานบันทึกไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีวันเวลาที่บันทึกตั้งแต่วันที่ 6, 17 และ 27 พฤศจิกายน เมื่อผู้เสียหายดูภาพก็ยืนยันว่าเป็นภาพของตนเองจริง เพราะจำกระโปรงและกางเกงชั้นในที่ใส่ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งยังให้การปฏิเสธ แต่จากพยานหลักฐานทั้งหมดเชื่อว่ามีการกระทำผิดจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาถ้ำมอง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นความผิดทางคดีอาญา ส่วนจะเกี่ยวข้องหรือเข้าข่ายการกระทำผิดละเมิดสิทธิเด็กและสตรีด้วยหรือไม่นั้น ทางหน่วยงานต้นสังกัดคือหน่วยงานสาธารณสุขจะเป็นผู้พิจารณา โดยระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจพิสูจน์หาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้งว่ามีการบันทึกภาพไว้มากแค่ไหน และมีการนำไปจำหน่ายจ่ายแจก เผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ตด้วยหรือไม่ หากตรวจพบก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป
พญ.บี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าตกเป็นเหยื่อถูกลักลอบถ่ายคลิปใต้กระโปรง กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะนั่งทำงานที่โต๊ะภายในห้อง บังเอิญทำปากกาตก เมื่อก้มลงหยิบก็สังเกตเห็นไฟสีแดงอยู่ใต้โต๊ะ ด้วยความสงสัยจึงเรียกเพื่อนร่วมงานมาดู ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไฟจากกล้องวิดีโอที่มาติดตั้งไว้ เพื่อถ่ายคลิปใต้กระโปรงของตน ด้วยความสงสัยว่าเป็นฝีมือใคร จึงวางแผนร่วมกับเพื่อนเฝ้าสังเกตดูคนต้องสงสัยที่เข้ามาในห้องโต๊ะทำงานในช่วงเที่ยง ประกอบกับจากการหาหลักฐานเบื้องต้นพบว่ามีสายของกล้องวิดีโอเชื่อมโยงมาจากด้านบนห้องผู้บริหารรายนี้ แต่ภายหลังจากระแคะระคายรู้ตัวแล้วว่าถูกแอบถ่าย สายเส้นนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสายโทรศัพท์สีเหลืองแทน
ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า ช่วงเที่ยงวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่าผู้บริหารรายนี้เดินเข้ามาดูในห้องอย่างมีพิรุธ วันรุ่งขึ้นจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจทันที เพราะกลัวว่าจะมีการนำภาพไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายชูรัตน์ คูสกุลรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ อีกทางหนึ่งด้วย
นายชูรัตน์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ เนื่องจากติดราชการที่ต่างจังหวัดว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บริหารรายนี้แล้ว โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทราบว่าตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาอะไร แต่ถ้ามีการแจ้งข้อหา หรือผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะพิจารณาย้ายผู้บริหารรายนี้ออกจากพื้นที่ไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอทราบข้อเท็จจริงจากผู้บริหาร ซึ่งถูกกล่าวหารายนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อเข้าไปติดต่อที่โรงพยาบาลก็ได้รับแจ้งเพียงว่าไม่อนุญาตให้เข้าพบ
/////////////////