
'มัลดีฟส์'ย้ำโลกร้อนทำทั้งเกาะจม!
'มัลดีฟส์'เผยต้องบังคับอพยพชาวบ้านทั้งเกาะ เหตุจากน้ำทะเลเพิ่มสูง แนะพวกที่ยังไม่เชื่อเรื่องภาวะโลกร้อนหันมาดูชะตากรรมประเทศหมู่เกาะ 'เอดีบี'คาดเอเชีย-แปซิฟิกใช้งบ 1.2 ล้านล้านบาท บรรเทาผลกระทบโลกร้อน
15 ก.ย. ในที่ประชุมธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ว่าด้วยการอพยพอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นายโมฮัมเหม็ด อัสลาม รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมมัลดีฟส์ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีมานี้รัฐบาลต้องสั่งอพยพประชาชนหมดเกาะแห่งหนึ่งไปอยู่ที่อื่น เพราะระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
นอกจากนี้ หลายพื้นที่ของประเทศขาดแคลนน้ำจืดมากขึ้นเรื่อยๆ สารเคมีในดินเปลี่ยนแปลง พืชผลบางอย่างปลูกไม่ขึ้นเหมือนก่อน เกาะหลายแห่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และว่าผู้ที่ยังสงสัยในเรื่องของภาวะโลกร้อน ขอให้ดูตัวอย่างจากมัลดีฟส์ และประเทศเกาะต่างๆ ว่ากำลังเผชิญกับผลกระทบน่ากลัวเพียงใด
มัลดีฟส์ มีประชากร 3.13 แสนคน เป็นชาติเอเชียเล็กที่สุดในแง่ประชากรและที่ดิน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1.5 เมตรเท่านั้น จึงเป็นประเทศที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดของโลก จุดที่สูงที่สุดของประเทศ เหนือจากน้ำทะเลแค่ 2.3 เมตร จึงเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการจมน้ำทะเล และด้วยกลายเป็นเหยื่อรายแรกๆ ของระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงจากธารน้ำแข็งขั้วโลกหลอมละลายเพราะภาวะโลกร้อน ทำให้มัลดีฟส์เป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนนโยบายต่อสู้โลกร้อนอย่างแข็งขัน
รายงานที่ได้รับทุนสนับสนุนจากเอดีบีระบุว่า ปัญหาด้านสภาพแวดล้อมจะก่อคลื่นอพยพในเอเชีย-แปซิฟิก และจะทวีความรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก รายงานเรียกร้องให้รัฐบาลในภูมิภาคดำเนินนโยบายรับมือ เช่น เพิ่มศักยภาพในการฟื้นตัวของชุมชนเสี่ยง ผ่านระบบบริหารจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติ จัดระเบียบพื้นที่ป้องกันประชาชนเข้าไปตั้งถิ่นฐานในเขตเสี่ยงภัยสิ่งแวดล้อม ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมือง ลดกำแพงต้านการอพยพ และให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
นายบาร์ต เอเดส ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอดีบี กล่าวว่า เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีประชากร 4,000 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 60 ของประชากรโลก อาจต้องใช้งบราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.2 ล้านล้านบาท) บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก
รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมมัลดีฟส์ กล่าวว่า เมื่อตัดสินใจแล้วจะไม่หนีไปไหนก็หมายถึงการปกป้องตัวเองจากระดับน้ำทะเลที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาล เช่น การสร้างคันกั้นชายฝั่งอาจต้องใช้เงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้มัลดีฟส์ต้องพยายามหารายได้ให้มากที่สุด