ไลฟ์สไตล์

'ครูมาลี'-ครูดีแห่งกศน.

'ครูมาลี'-ครูดีแห่งกศน.

07 ก.ย. 2554

'ครูมาลี'-ครูกศน. เจ้าหญิงนิทรา-คนดีแห่งดินแดนยุทธภูมิ โดย...อนัตชัย เกตุแก้ว กลุ่มอ่าวไทย กศน.สุราษฎร์ธานี

       สวัสดีคุณผู้อ่าน "คม ชัด ลึก" พบกันทุกวันพุธ กับคอลัมน์ "นักข่าวภูธรกศน." ฉบับพิเศษ เนื่องในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) เป็น "วันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือและวันกศน." ขออาสาเป็นสื่อกลาง บอกกล่าวเล่าขานงานครูกศน. ผ่านชีวิต "ครูมาลี ทองพันธ์" ครูกศน.คนดีแห่งดินแดนยุทธภูมิ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้อุทิศแรงกาย แรงใจและสติปัญญา เพื่อขจัดปัญหาผู้ไม่รู้หนังสือ ให้หมดไปจากประเทศไทย

       กว่า 365 วันแล้ว ที่ครูมาลี ครู กศน.อำเภอพระแสง ประสบเหตุจากการทำงาน ต้องนอนแน่นิ่ง ขาดความช่วยเหลือตราบเท่าปัจจุบัน

       "มาลี ทองพันธ์" หรือ "ครูมาลี" เป็นครู กศน.อำเภอพระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ปฏิบัติงานเป็นครู กศน. มาไม่น้อยกว่า 10 ปี จนได้รับเข็มเชิดชูเกียรติรุ่นแรกของภาคใต้ ทุกเช้าหลังจากปฏิบัติภารกิจทางบ้านแล้ว ครูมาลีจะขับมอเตอร์ไซค์คู่กายมาปฏิบัติงานที่ กศน.อำเภอพระแสงด้วยระยะทางไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร อีกทั้งต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ทุรกันดาร เพียงเพื่อหวังให้เด็กมีความรู้ มีการศึกษา จนหลายครั้งที่ต้องขับรถกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แต่ครูมาลีไม่เคยย่อท้อ เพราะว่าที่บ้านอันอบอุ่นมีลูกและสามีรออยู่ 

       ด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู ที่อยากเห็นเด็กนักเรียนมีโอกาสทางการศึกษา ครูมาลียังอุปการะเด็กนักเรียนที่ฐานะทางบ้านลำบากบางคนก็กำพร้าพ่อแม่ ด้วยหวังเพียงจะให้ศิษย์เติบโตเป็นคนดีในสังคม และมีหน้าที่การงานที่มั่นคง เด็กหลายคนเรียกครูมาลีว่า “แม่”

       น.ส.วราภรณ์ ณ คง หรือ น้องแตง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งในความอุปการะของครูมาลี น้องแตงได้รับการดูแลและอบรมสั่งสอนจากครูมาลีมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน กศน.

       น้องแตง เล่าให้ฟังว่า “หนูผูกพันกับครูมาลีเหมือนแม่คนหนึ่ง หลายๆ เรื่องที่ไม่กล้าพูดกับพ่อแม่จริงๆ แต่กล้าที่จะพูดกับครูมาลี เพราะครูคอยสั่งสอนตลอดว่าให้เป็นคนดี มีน้ำใจ ขยัน และตั้งใจเรียน สักวันหนึ่งเราจะได้รับในสิ่งดีๆ ที่เราทำ เด็กๆ ที่ครูเลี้ยง บางคนก็ได้เป็นตำรวจ บางคนก็ได้เป็นครู ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าครูคือผู้ให้ของเราจริงๆ” น้องแตง กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือเมื่อนึกถึงคุณงามความดีของครูมาลีที่เธอเรียกว่า "แม่"

       และเมื่อปี 2553 มีการประกันคุณภาพสถานศึกษา (สมศ.) ทุกสถานศึกษาในสังกัด กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องเข้ารับการประเมิน กศน.อำเภอพระแสง ก็เช่นเดียวกัน ต้องเข้ารับการประเมินในครั้งนี้ ซึ่งครูมาลี มีบทบาทและหน้าที่หลักในการช่วยเหลืองานต่างๆ เนื่องจากเป็นพี่ใหญ่และปฏิบัติงานมานาน จากระยะเวลาที่กระชั้นชิด จากความเครียดจากการทำงาน จากการพักผ่อนที่น้อยนิด และเป็นช่วงเดียวกันที่พี่ชายอันเป็นที่รักเสียชีวิต ทำให้วันหนึ่งครูมาลีล้มลง จนต้องนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ประจำโรงพยาบาลจังหวัดวินิจฉัยว่า "ครูมาลีมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกและสมองขาดออกซิเจน" ทำให้ครูมาลีต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

       เด็กตาดำๆ ที่นั่งคอยครู อยู่ในห้องเรียน แต่ห้องเรียนห้องนี้จะไม่มีเสียงครูมาลีมาสอนและให้การศึกษาแก่เด็กเหล่านั้นอีกแล้ว เด็กๆ อีกจำนวนมากที่ต้องขาดโอกาสจากการล้มป่วยของครูมาลี ซึ่งตลอดเส้นทางชีวิตของครูมาลี ทองพันธ์ ปฏิบัติงาน กศน. ด้วยความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรมากนัก แต่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูที่อยากเห็นเด็กไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาและมีอนาคตที่ดี ครูจึงต่อสู้มาตลอดจนล้มป่วย

       ขณะล้มป่วยครอบครัวครูมาลี ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานช่อดอกไม้ให้กำลังใจมารดาพระสหายร่วมสถาบัน (บุตรชายของครูมาลี) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้แทนพระองค์ ซึ่งทำให้ "ครอบครัวทองพันธ์" รู้สึกปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ นอกจากนี้แล้ว ครอบครัวครูมาลียังได้รับความช่วยเหลือจาก สำนักงาน กศน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเครือข่ายต่างๆ  

       นายสมบูรณ์ อยู่สวัสดิ์ หรือ ครูเล็ก อดีตครู กศน.ตำบลอิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อครูมาลี ให้ฟังว่า "พี่มาลีเป็นที่รักของทุกคนใน กศน.พระแสง เพื่อนๆ บางคน ก็เรียกพี่ บางคนก็เรียกป้า แล้วแต่อายุ ผมทำงานกับพี่มาลีมานาน พี่มาลีเปรียบเหมือนพี่ใหญ่ ที่คอยช่วยเหลือดูแลน้องๆ หลานๆ ทุกคนในที่ทำงาน ไม่ว่าใครจะมีปัญหาอะไร ทะเลาะกับใคร พี่มาลีจะเป็นคนคลี่คลายปัญหาให้เสมอ และยังร่วมกันจัดงานเลี้ยงน้ำชาและขอบริจาคเงินจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมกันสร้าง ศรช.ตำบลอิปัน (ศูนย์การเรียนชุมชน) เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอน ซึ่งได้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปีการศึกษา 2545 ซึ่งใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน” 

       การล้มป่วยของครูมาลี ทำให้เพื่อนครูกศน.หลายคนตกอยู่ในอาการเศร้าหมอง รวมถึง "นางราตรี คล้ายทองคำ" ครู กศน.อำเภอพระแสง เพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของครูมาลี เล่าด้วยเสียงสั่นเครือทุกครั้งที่พูดถึงครูมาลีว่า “แรกๆ ก็รับไม่ได้ที่พี่มาลีเป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่พูดถึงหรือไปเยี่ยมที่บ้าน ก็จะมีแต่ความเงียบเพราะว่าพูดอะไรไม่ออก มันจุกอกไปหมด

       พี่มาลีเป็นได้ทุกอย่างของเด็ก เป็นพี่ เป็นเพื่อนหรือแม้กระทั่งเป็นแม่ ทุกครั้งที่มีงานหรือมีกิจกรรม พี่มาลีจะแบ่งงานกันทำคอยสอนและแนะนำน้องๆ ในสำนักงานเสมอว่า เราต้องช่วยกัน ไม่เอาเปรียบกัน เด็กนักเรียนของเราจะได้ดูเป็นแบบอย่าง เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กนักเรียน เด็ก กศน.ไม่ได้มีโอกาสเหมือนเด็กในระบบ แต่เราสามารถช่วยเหลือ ให้โอกาสและอนาคตเด็กได้อย่างน้อยที่สุดก็สอนให้เป็นคนดี”

       คำพูดเหล่านี้ยังคงก้องอยู่ในหูของ "ครูราตรี" อยู่เสมอ แม้ปัจจุบันครูมาลี  ทองพันธ์ ยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงหลังเดิม ในบ้านหลังเดิม ที่มีเพียงสมาชิกในครอบครัวเท่านั้นที่คอยดูแล !!!

นี่หรือบั้นปลายชีวิต ครู กศน.