
ดัชชุนทำไมต้องเตี้ยฯลฯ ?
ดัชชุนทำไมต้องเตี้ยฯลฯ ? : คนรักหมา โดย - บัญชร ชวาลศิลป์
“หมาพันธุ์ไทย” ที่เราค่อนข้างภาคภูมิใจซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเห็นจะไม่พ้น “บางแก้ว” กับ “หลังอาน” ซึ่งเท่าที่จัดรายการตอบคำถามคู่กับ คุณหมอปานเทพ รัตนากร เกี่ยวกับเรื่องสัตว์เลี้ยง ปรากฏได้รับคำถามบ่อยครั้งมากเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าวของคุณบางแก้ว
แม้กระทั่งกับเจ้าของที่ให้ข้าวให้น้ำก็ยังโดนงับ และความเห็นหนึ่งที่ผมได้ยินเป็นประจำจากคุณหมอท่านคือ หมาพันธุ์นี้ยังไม่ “นิ่ง”
ที่มาของหมาพันธุ์มาตรฐานโลกอย่าง “ดัชชุน” ที่จะเล่าต่อไปนี้คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า หมาที่ผ่านการพัฒนาสายพันธุ์จนกระทั่ง “นิ่ง” นั้นเป็นอย่างไร
พื้นฐานของหมาตัวเตี้ยขาสั้นดูน่าตลกมากกว่าน่าเกรงขาม ที่เรียกว่าดัชชุนนั้น บอกไปแล้วหลายท่านอาจงงเล็กๆ ว่า หมาพันธุ์นี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นหมานักล่าครับ เพียงแต่ไม่ได้ล่าสัตว์ใหญ่อย่างเสือ สิงห์ กระทิง แรด เพราะดัชชุนสนใจล่าเฉพาะสัตว์เล็ก โดยเฉพาะตัว แบดเจอร์ ซึ่งเป็นที่มาของ “การออกแบบ” จนได้ดัชชุนมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วนั่นเอง
ดัชชุนมีหน้าที่แกะรอยสัตว์ที่ขุดโพรงอยู่แล้วค่อยๆ มุดเข้าไปหาตัวให้พบ ดังนั้น คุณคงหายแปลกใจว่าทำไมตัวออกเตี้ย ถึงถูกจัดเป็นหมานักล่าได้ ดัชชุนที่ลักษณะดีตามตำราจึงต้องตัวเตี้ย เพื่อความสะดวกในการบุกแบบศิลปินเดี่ยวเข้าไปในที่รกๆ แล้วมุดเข้าโพรง ขาทั้งสี่โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าอก และขาหน้าต้องแข็งแรง เพื่อใช้พลังกล้ามเนื้อให้เป็นประโยชน์ในการตะกุยดินขยายโพรงให้กว้างเมื่อจำเป็น
ส่วนหัวก็ต้องเรียวแหลม จมูกก็ต้องไวสำหรับแกะรอยตามกลิ่น ขนต้องสั้นเกรียน หนังต้องหนาเหนียวและยืดหยุ่นง่าย จะได้ขยับเนื้อขยับตัวได้สะดวกเวลาไปติดแหง็กอยู่ในโพรงแคบๆ
หุ่นให้แต่เพียงอย่างเดียวยังไม่พอ มันต้องใจถึงด้วย เพราะเจ้าแบดเจอร์นั้นไม่ใช่หมู แต่จัดเข้านักสู้ระดับ “หมี” ทีเดียวเมื่อจนตรอกขึ้นมา ขนาดคนยังเคยเจ็บตัวมาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนั้น ดัชชุนที่ดีในทัศนะของฝรั่งจึงต้องมีน้ำใจทรหดกล้าหาญ พร้อมประจันหน้ากับหมีจนตรอกอย่างแบดเจอร์ ได้
แม้เอาเข้าจริงๆ แล้ว หน้าที่หลักของดัชชุนเมื่อขุดไปเจอะเจ้าตัวแบดเจอร์แล้วก็มีแค่เพียง กระชับพื้นที่ แล้วรีบเห่าฟ้องเจ้านายว่าเจอตัวแล้วขอรับ ขอจงเร่งมาจัดการขั้นเด็ดขาดเพื่อประกาศชัยชนะอันน่าภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติยศแก่วงศ์ตระกูลของท่านสืบไปเทอญ
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนยุคไปถึงราวศตวรรษที่ 13 ว่าสมัยนั้นมีหมาดัชชุนแล้ว หน้าตาขนหนังก็คล้ายๆ ที่เราเห็นทุกวันนี้ คือขนดกหนาสั้นเกรียน ขนค่อนข้างแข็งเป็นมันวาวคล้ายโดเบอร์แมน จึงเรียกดัชชุนพันธุ์เก่าแก่นี้ว่า “ดัชชุนขนสั้น”
อ้าว...มี “ดัชชุนขนสั้น” ก็ต้องมี “ดัชชุนขนยาว” น่ะซี แล้วไม่เสียคุณลักษณะในการมุดโพรงแบดเจอร์
อาทิตย์หน้าเล่าต่อครับ!