ปลายพู่กันบรรเลงเพลงของพ่อ | คมชัดลึก

          "ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ไกลไกล ชุ่มชื่นฤทัยหวานใดจะปาน" เสียงนี้คงทำให้หลายคนหัวใจชุ่มชื่นเป็นแน่ เพราะเป็นบทหนึ่งของเพลงพระราชนิพนธ์ "ใก้ลรุ่ง" ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและอีกหลายบทเพลง ที่กำลังจะถูกนำมาบรรเลงด้วยปลายพู่กันของเหล่าจิตรกรรุ่นใหม่ ในโครงการประกวดวาดภาพระบายสีเยาวชน ฮอร์ส อะวอร์ด และ โครงการประกวดผลงานจิตรกรรม นานมี ไฟน์อาร์ต ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 6  ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร (สก.)  ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ณ อาคารบริษัท นานมี จำกัด

          โดยการจัดประกวดครั้งนี้ อยู่ภายใต้แนวคิด "ภาพจากเพลงของพ่อ" แน่นอนว่าเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา และเทิดพระเกียรติในฐานะองค์อัครศิลปิน และทรงพระราชนิพนธ์ไว้กว่าร้อยบทเพลง โดยกำหนดให้ผู้เข้าประกวดเลือก 1 ใน 9 บทเพลง อันได้แก่ เพลงแสงเทียน เพลงใกล้รุ่ง เพลงยิ้มสู่ เพลงแผ่นดินของเรา เพลงเกาะในฝัน เพลงเมนูไข่ เพลงความฝันอันยิ่งใหญ่ เพลงเอช เอ็ม บลูส์ และเพลงสติล ออน มาย มินด์ ซึ่งล้วนแต่เป็นเพลงที่มีความหมายและคำร้องอันทรงคุณค่า ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ

          ผศ.ดร. ภาธร ศรีกรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านบทเพลงพระราชนิพนธ์และเป็นหนึ่งในนักดนตรีวง อ.ส.วันศุกร์ กล่าวถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ว่า เป็นดั่งเพลงของคนไทยทุกคน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้แก่พสกนิกร เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมรับรู้และเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์  อีกทั้งยังเป็นเพลงที่ฟังไม่ยาก หรือ เป็นเพลงไกลตัวของผู้คนในสังคม ขณะเดียวกันเนื้อหาในบทเพลงมีความหลากหลาย แอบซ่อนทั้งอารมณ์สุข เศร้า ความรัก รวมไปถึงการให้กำลังใจ ซึ่งหากกลุ่มเยาวชนให้ความสนใจและมองอย่างลึกซึ้ง ก็จะเห็นเรื่องราวของผู้คนในสังคมในยุคสมัยนั้นๆ สะท้อนผ่านบทเพลงของพระองค์ได้เป็นอย่างดี

          ด้านกูรูงานศิลป์ อาจารย์ธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ปี 2553 พูดคุยถึงหัวข้อ "เพลงของพ่อ แรงบันดาลใจสู่ภาพวาด" เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างศิลปะและดนตรีได้กล่าวว่า ทั้งดนตรีและศิลปะถือได้ว่าเนื้อเดียวกัน เพียงแต่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งการรับฟังดนตรี จะได้ยินเสียงสูง กลาง ต่ำ ความเร็วและช้าของจังหวะ และการบอกกล่าวอารมณ์จากเนื้อเพลง จึงไม่ต่างกับการที่ได้ดูผลงานศิลปะที่มีเฉดสีเป็นตัวบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของภาพ และก่อเกิดความสุข และละมุนละม่อมภายในจิตใจ จะถือได้ว่าบรรลุเป้าหมายของศิลปะโดยแท้ ดังนั้นในการประกวดหากศิลปินได้รับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ และสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลป์ได้ ผู้นั้นก็สามารถเข้าถึงศิลปะได้แท้จริง

          ภายในงานยังได้สัมผัสท่วงทำนองของบทเพลงพระราชนิพนธ์ เอช เอ็ม บลู จาก น้องชัยชน วงษ์ขำ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ เหรียญทอง  SETTRADE เยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทยครั้งที่14  การัณตีความไพเราะด้วยแซ็กโซโฟน ตามมาด้วยกิจกรรมการวาดภาพ ในหัวข้อ "ภาพจากเพลงของพ่อ" นำทีมโดย ชลิต นาคพะวัน ศิลปินคนรุ่นใหม่ ชัชวาล ขาวละออ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่สนใจในการวาดภาพ น้องทิวทัศน์ คะนะมะ และ น้องเทิดธันวา คะนะมะ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศจาก โครงการ ดูเบิล 4 กูเกิล  ซึ่งในงานนี้น้องเทิดธันวาได้กล่าวถึงผลงานและกิจกรรมในครั้งนี้ว่า

          "ภาพที่วาดในวันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงพระราชนิพนธ์สายฝน ซึ่งแสดงถึงความสดชื่น มีชีวิตชีวาของพืชสวนไร่นาในยามฤดูฝน ที่เป็นทัศนียภาพซึ่งพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งในการเข้าร่วมกิจกรรมวาดภาพครั้งนี้ ทำให้เราได้ท้าทายความคิดและจิตนาการมากขึ้น เมื่อได้พบเจอกับกรอบแนวคิดใหม่ จึงได้หยิบเอาเทคนิคที่มีมาประยุกต์ใช้ และอยากฝากให้เพื่อนๆ เยาวชน ที่ไม่ว่าจะมีฝีมือการวาดมากน้อยแค่ไหน ให้หมั่นฝึกฝน เพราะนอกจากจะได้รับเทนนิคที่มากขึ้นแล้ว ยังได้ฝึกสมาธิอีกด้วย" จิตรกรรุ่นจิ๊วเผย

          และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานด้วยตนเองหรือไปรษณีย์ได้ที่ บริษัท นานมี จำกัด เลขที่ 146 ถนน สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 0-2648-8000