
พบกลองมโหระทึกลายนกยูง2500ปี
กรมศิลปากร เผยพบกลองมโหระทึกลายนกยูง 2500 ปีครั้งแรกในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปรับมอบกลองมโหระทึกที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร หลังจากที่นักโบราณคดีแจ้งว่า ชาวบ้านชื่อนายเอกวุฒิ อาศัยผล บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ที่ 3 ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร มีอาชีพรับจ้างดูดทรายได้พบกลองนี้จำนวน 1 ใบในบริเวณคลองอู่ตะเภาแหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว ตำบลนาชะอังเขตอำเภอเมือง แล้วนำมามอบให้พิพิธภัณฑ์เก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ
และจากการตรวจสอบของลักษณะกลองใบนี้ นักโบราณคดีระบุว่าทำด้วยสำริดอยู่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคเหล็กอายุราว 2,500 - 2,000 ปีมาแล้ว เปรียบเทียบได้กับกลองมโหระทึกสำริดแบบเฮเกอร์ 1 (Heger 1) ในวัฒนธรรมดองซอนที่พบในเวียดนาม นับเป็นรูปแบบกลองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดใบหนึ่งที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายเอนก กล่าวอีกว่า ตรงกลางหน้ากลองมีลายดาวหรือดวงอาทิตย์ 14 แฉก ที่สำคัญมีลายหางนกยูงคั่นปรากฏอยู่ที่ยังไม่เคยพบเห็นในกลองประเภทนี้ประเทศไทยและยังมีลายนกมีหางคู่ยาวกำลังเอี้ยวไซร้ปีกหรือขน บินทวนเข็มนาฬิกาจำนวน 6 ตัว แถวลายจุดถัดมาเป็นแถวลายวงกลมม้วนคล้ายก้นหอย 12 อัน และลายนกกระสาคู่มีหงอนและไม่มีหงอน บินทวนเข็มนาฬิกาจำนวน 8 คู่ รวม 16 ตัว ตัวกลองมีหูสี่ด้านแต่ละอันลายคล้ายเกลียวเชือก สภาพตัวกลองมีร่องรอยของการใช้ทอยอยู่โดยรอบ แสดงถึงกรรมวิธีการหล่อแทนที่โลหะด้วยขี้ผึ้ง (Lost wax or Cire Perdue) พิมพ์ประกบสองชั้น บริเวณหน้ากลองบางส่วนมีคราบสนิมสีน้ำตาลแดงจับ ฐานล่างส่วนหนึ่งชำรุดแตกบิ่นหายไป