ไลฟ์สไตล์

เก็บลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน

เก็บลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน

10 ส.ค. 2554

ดิฉันเปิดร้านอาหารมีคาราโอเกะ อยู่ที่ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ส่วนใหญ่เป็นเพลงลูกทุ่ง เพลงเก่าๆ ดิฉันซื้อลิขสิทธิ์เพลง 5 ค่าย จ่าย 37,000 บาท ทุก 6 เดือน แต่ยังถูกเรียกค่าลิขสิทธิ์ซ้ำซ้อน

 เปิดร้านได้ไม่ถึงปี อยู่มาวันหนึ่งมีลูกค้ามาประมาณ 6 คน ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 4 เข้ามาสั่งเบียร์ดื่มกันในร้าน แล้วก็ขอเพลง "เมียพี่มีชู้" ของ ชาย เมืองสิงห์ เพลง "ฝนเดือนหก" ของ รุ่งเพชร แหลมสิงห์ และเพลง "น้องช้ำวันนี้ พี่ช้ำวันหน้า" ของ สันติ ดวงสว่าง แต่ทางร้านไม่มี
 จากนั้น 1 ใน 6 ก็เดินมาที่เคาน์เตอร์ ชวนดิฉันพูดคุย และแอบอัดเสียงไว้ ถามหาเพลงโน้นเพลงนี้ เพื่อให้พูดให้โต้ตอบ และถามดิฉันว่า ใครเป็นเจ้าของร้าน ดิฉันก็บอกว่าดิฉันเอง และถามว่าซื้อลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ ดิฉันก็บอกถูกต้อง สุดท้ายเขาขอเพลง "กระท่อมกัญชา" ของ มาลีฮวนน่า แต่ทางร้านไม่มีเพลงนี้อีก เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
 อีกประมาณ 2-3 เดือนต่อมา คนที่เดินเข้ามาคุยกับดิฉันที่เคาน์เตอร์ก็โทรมาบอกว่า ป้าถูกจับแล้ว ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง "กระท่อมกัญชา" และ "น้องช้ำวันนี้ พี่ช้ำวันหน้า" ทั้งๆ ที่ในร้านไม่มีเพลงนี้เลย และบอกว่า ขอให้ไปที่โรงพักภายใน 10 นาที
 ขอคำแนะนำผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใช้งานเพลง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
สงบ / สุรินทร์
ตอบ
 สอบถาม กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า การปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางการค้า และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นนโยบายระดับชาติ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะมีการเรียกเก็บลิขสิทธิ์เพลงซ้ำซ้อน อ้างหลายบริษัท หลายหน่วยงาน แถมยังแยกเป็นลิขสิทธิ์ทำนอง ผู้แต่ง และอีกสารพัดจะอ้าง เรื่องนี้กำลังมีการจัดตั้งองค์กรกลางเกี่ยวกับการจัดเก็บลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพแอบอ้าง รีดไถ่ เรียกเก็บลิขสิทธิ์ และการเก็บลิขสิทธิ์ซ้ำซ้อน
 ที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบธุรกิจที่ใช้งานเพลงจำนวนมาก ในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อันเนื่องมาจากความไม่ชัดเจนในความเป็นเจ้าของสิทธิ พฤติกรรมของตัวแทนที่จัดเก็บ วิธีปฏิบัติของตำรวจ ตลอดจนอัตราในการจัดเก็บที่สูงเกินความสามารถของผู้ประกอบการบางราย
 หากผู้ประกอบการแน่ใจว่าตนเองได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องในการใช้เพลง ให้สันนิษฐานว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้แอบอ้าง หรือหากได้รับมอบอำนาจจริงก็เข้าข่ายข่มขู่ รีดไถผู้ประกอบการ ซึ่งในทางปฏิบัติก่อนจับดำเนินคดีผู้เสียหายจะต้องแจ้งความร้องทุกข์ และต้องพาเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุม พร้อมทั้งตรวจสอบหลักฐาน แต่กรณีนี้เพลงที่ขอไม่มีบริการในร้าน แต่ได้ทำการล่อให้กระทำความผิด ผู้ประกอบการจึงไม่ควรเจรจาตกลงยอมความ ขอให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่แอบอ้างได้
 แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการที่มีบริการเปิดเพลงในร้านอาหารหรือให้บริการร้องเพลงคาราโอเกะ
 1.ตรวจสอบรายชื่อเพลงที่ให้บริการว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง โดยสามารถตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลรายชื่อเพลงได้ที่เว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th
 2.จำกัดการใช้งานเพลงเพื่อลดต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ และลดปัญหาการถูกดำเนินคดี
 3.ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรายชื่อเพลงที่แจ้งจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือ 2 เดือนครั้ง เนื่องจากบริษัทจัดเก็บอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อเพลง
 4.กรณีที่มีการจับกุมควรตรวจสอบบันทึกการจับกุม ความถูกต้องของหนังสือมอบอำนาจ อาทิ หนังสือมอบอำนาจขาดสายหรือไม่ หมดอายุหรือยัง และมีสิทธิในการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์เฉพาะงานสิ่งบันทึกเสียงหรืองานดนตรีกรรม รวมทั้งในการดำเนินคดีทุกครั้งจะต้องมีพนักงานตำรวจร่วมในการจับกุมด้วย
 5.ควบคุมการให้บริการเฉพาะเพลงที่ขออนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาการดำเนินคดีโดยการล่อให้กระทำความผิด
 6.ในกรณีที่มีตกลงจ่ายค่ายอมความจะต้องกระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
 ผู้ประกอบการควรปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่เจตนา
ลุงแจ่ม