
ภารกิจหลัก"สวก."
ภารกิจหลัก"สวก." :เกษตรยุคใหม่ โดย...รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ
หน่วยงานต่างๆ ในเมืองไทยส่วนใหญ่จะมีชื่อย่อ และชื่อเหล่านี้บางแห่งมีคนรู้จักมาก จนกระทั่งไม่รู้ว่าชื่อเต็มคืออะไร แต่ก็มีหลายหน่วยงานที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และไม่รู้ว่ามีบทบาทอะไร เมื่อก่อนนี้ สกว. ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ต่อมาเมื่อมีผลงานต่างๆ ออกมามาก ก็เริ่มมีคนรู้จักว่าเป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยที่สามารถสร้างผลงานออกมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ความที่ใช้ชื่อย่อมาตลอด เลยทำให้คนทั่วไปไม่รู้ว่าชื่อเต็มของหน่วยงานคืออะไรกันแน่
มีอีกหน่วยงานหนึ่งที่ชื่อคล้ายกับ สกว.? มีชื่อย่อว่า สวก. ซึ่งก็เป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยเหมือนกัน แต่ว่ามีความจำเพาะตรงที่ว่าเป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยด้านการเกษตรเท่านั้น ซึ่งชื่อเต็มของหน่วยงานนี้ก็คือ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) เหตุที่มีคำต่อท้ายเช่นนั้นก็เพราะว่าเป็นหนึ่งในองค์การมหาชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายองค์การมหาชนนั่นเอง
สวก.เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรฯ และสนับสนุนเงินทุนสำหรับทำงานวิจัยให้ทั้งนักวิจัยในกระทรวงเกษตรฯ เอง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งภาคเอกชน โดยที่งานส่วนใหญ่ที่สนับสนุนไปจะเป็นงานวิจัยที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในเชิงพาณิชย์ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่เป็นงานวิจัยที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง
ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรหรือผู้บริโภค และเท่าที่ผ่านมาประมาณ 8 ปี มีผลงานหลายชิ้นที่ได้ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาในตลาด และสามารถสร้างธุรกิจใหม่ให้เกิดขึ้นได้หลายเรื่อง อย่างล่าสุดนี้ก็มีผลงานเป็นเครื่องมือวัดความเผ็ดของพริก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในวงการอุตสาหกรรมอาหารที่มีพริกเป็นองค์ประกอบ ทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพของอาหารได้ โดยสามารถรักษาระดับความเผ็ดให้ได้มาตรฐาน ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการส่งออกที่ต้องการความสม่ำเสมอสูง
ผลงานวิจัยที่ สวก. ได้สนับสนุนไปในด้านต่างๆ ทั้งพืชและสัตว์บก สัตว์น้ำ หลายสิบเรื่อง ตอนนี้ได้มีการขยายผลหรือมีการผลักดันให้ภาคเอกชนได้นำไปผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผลดีต่อวงการเกษตร เพราะสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่างานวิจัยที่มีการควบคุมดูแลเป็นอย่างดีนั้น มักจะเป็นงานที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ไม่ใช่ขึ้นหิ้งอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ทิศทางข้างหน้าของ สวก.นอกจากจะมีการสนับสนุนงานวิจัยที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงพาณิชย์แล้ว ก็จะมีการเริ่มสนับสนุนให้มีการวิจัยเชิงนโยบาย เพื่อนำผลที่ได้ไปใช้ในการกำหนดนโยบายหรือมาตรการต่างๆ เพื่อพัฒนาวงการเกษตรต่อไป หมายความว่าต่อไปการตัดสินใจดำเนินการทางนโยบาย น่าจะต้องมีการใช้ความรู้ที่ได้ผ่านการศึกษากลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดีเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งหากทำได้อย่างนั้นจริง โอกาสผิดพลาดทางนโยบายก็น่าจะน้อยลง
ยังมีงานวิจัยอีกประเภทหนึ่งซึ่งก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน นั่นคือการวิจัยเพื่อประโยชน์สาธารณะในวงกว้าง หมายความว่าเป็นการสร้างผลงานวิจัยที่สาธารณชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้ ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากผลงานวิจัยเหล่านี้อาจเป็นเกษตรกร หรือผู้บริโภคก็ได้ งานกลุ่มนี้เองที่หลายคนไม่เข้าใจและอาจมองว่า ผลงานวิจัยไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ แต่ความจริงแล้วมีการใช้ เพียงแต่ว่าอาจไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ขึ้นมา แต่ว่าทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น และไม่ได้ตีค่าออกมาในรูปของตัวเงิน
นอกจากเรื่องของการสนับสนุนงานวิจัยแล้ว ยังมีทุนการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อสร้างนักวิจัยที่มีคุณภาพให้แก่วงการเกษตรของประเทศด้วยเช่นกัน เพราะว่าปัจจุบันนี้ เรื่องการสร้างคนรุ่นใหม่เพื่อทดแทนนักวิชาการรุ่นเดิมซึ่งค่อยๆ หมดไป กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นต้องทำ งานดังกล่าวอยู่ในภารกิจของ สวก.ด้วยเช่นกันครับ คราวหน้าจะนำผลงานของ สวก.ที่ได้สร้างขึ้นและมีการใช้ประโยชน์แล้วมาเล่าให้ฟังต่อไปครับ