ไลฟ์สไตล์

ข่าว : ของขวัญทางเลือก...ฉลองปีใหม่อิ่มใจอิ่มบุญ

ข่าว : ของขวัญทางเลือก...ฉลองปีใหม่อิ่มใจอิ่มบุญ

11 ธ.ค. 2551

ข่าว : ของขวัญทางเลือก...ฉลองปีใหม่อิ่มใจอิ่มบุญ พิษเศรษฐกิจทำยอดบริจาคหด มูลนิธิหันผลิตของขวัญทางเลือกขายปีใหม่ หาเงินสนับสนุนงาน หวังบริษัทห้างร้านอุดหนุน นอกจากได้ของขวัญทำมือแล้ว ยังถือเป็นการคืนกำไรให้สังคมด้วย จากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทำให้งบประมาณการบริจาค หรือช่วยเหลือสังคมถูกตัดออกจากบัญชี ตัวแทนมูลนิธิหลายแห่งยอมรับว่า ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ยอดผู้บริจาคลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ปกติวันเสาร์-อาทิตย์จะมีผู้ใจบุญนำอาหารหรือขนมมาเลี้ยงหรือแจกจ่าย ก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่ ดังนั้น ผู้ดูแลจึงต้องพยายามหาหนทางช่วยเหลือตัวเองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปให้ได้ โดยบางแห่งได้ชักชวนสมาชิกผลิตสินค้าหัตถกรรม หรือทำของที่ระลึกขาย เพื่อนำเงินมาจุนเจือค่าใช้จ่าย สำหรับเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้มูลนิธิหลายแห่งจึงผลิต "ของขวัญทางเลือก" ขึ้นมา โดยความหวังว่าบริษัทห้างร้านที่นิยมเลือกซื้อสินค้าประเภทนี้จะให้ความอุดหนุน ถือเป็นการให้ของขวัญลูกค้าและยังคืนกำไรให้สังคมอีกทางหนึ่ง ของขวัญทางเลือกจากมูลนิธิต่างๆ มีหลากหลายประเภท เช่น กลุ่มเราเข้าใจองค์กรช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ปกป้องและคุ้มครองสิทธิเด็กติดเชื้อ รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ ป้องกันและลดความเสี่ยงจากการรับเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเด็กและเยาวชน ได้จัดทำพวงกุญแจลูกปัดรูปคน ตลอดจนรูปสัตว์น่ารักๆ จำหน่ายในราคาเพียงแค่ 10 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีสร้อยข้อมือลูกปัดไม้ที่เด็กๆ ในมูลนิธิช่วยกันร้อยขึ้นมาด้วยความตั้งใจ เสื้อยืดคอกลมพิมพ์ลายจากฝีมือการวาดภาพของเด็กๆ และสมุดโน้ต ฯลฯ เจนจิรา พึ่งสุข จากกลุ่มเราเข้าใจ บอกว่า ของต่างๆ เหล่านี้ล้วนมาจากฝีมือของเด็กและเยาวชนที่ติดเชื้อเอชไอวีที่กลุ่มเราเข้าใจนำผลงานมาจัดทำเป็นสินค้าวางจำหน่าย เพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาและช่วยเหลือเด็กอีกทางหนึ่ง หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-6980-4797 ด้านมูลนิธิเด็กเองก็ไม่น้อยหน้า ได้จัดทำสมุดบันทึก ส.ค.ส. เสื้อ และไดอารี่ โดยเฉพาะ ส.ค.ส.ปี 2552 ได้นำงานศิลปะภาพวาดของสามเณรชาวไทยภูเขาจากโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดนิโครธาราม อ.ท่าวังผา จ.น่าน มาทำเป็นบัตรอวยพรเป็นครั้งแรกในราคาแผ่นละ 12 บาท ส่วนสมุดบันทึกราคาเล่มละ 60 บาท เนื่องจากสามเณรเด็กกลุ่มนี้อยากเรียนหนังสือ แต่ไม่มีทุนทรัพย์ พ่อแม่ที่เป็นชาวเขาจึงนำมาบวช เพื่อให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือทั้งทางโลกและทางธรรม ก่อนที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ส่วนใหญ่จะหยุดเรียนในระดับ ม.3 หรือ ม.6 เพราะต้องออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว มูลนิธิเด็กทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กที่ทุกข์ยากและถูกทอดทิ้งให้มีโอกาสพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสมบูรณ์ ผลิตบัตรอวยพรปีใหม่มา 13 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2538 นงค์นาช ลภนะพันธ์ จากมูลนิธิเด็ก บอกว่า ทุกๆ ปีจะมีเด็กที่ประสบปัญหาครอบครัวแตกแยก ถูกทอดทิ้ง หรือกำพร้ามาตั้งแต่กำเนิดเพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากจะเปิดรับบริจาคแล้ว ยังผลิตสินค้าจำหน่ายด้วย เดิมทีจะจำหน่ายที่มูลนิธิเด็ก จ.นครปฐม ที่เดียวเท่านั้น แต่มีลูกค้าหลายคนบอกว่าไกลไม่สะดวก จึงมาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ คือร้านบ้านเด็กจำหน่ายสินค้าของมูลนิธิ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการรับบริจาค ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 0-2881-1734-5 ขณะที่มูลนิธิโลกสีเขียวที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านการศึกษาเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำโปสการ์ดชุดต่างๆ บัตรอวยพรและของที่ระลึก นกหวีดดินเผา รวมไปถึงสินค้ารณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น เสื้อยืดรณรงค์ลดโลกร้อน ขวดน้ำรณรงค์เพื่อการลดขยะ และหนังสือสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ที่สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของโลกปัจจุบัน อัจฉรา สงวนศิลป์ จากมูลนิธิโลกสีเขียว เล่าว่า มูลนิธิโลกสีเขียวมีวัตถุประสงค์ในการทำงาน เพื่อจุดประกายให้เกิดการพัฒนา จิตสำนึกและพฤติกรรมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าที่จัดจำหน่ายเป็นของที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังเป็นการรณรงค์ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมจากตัวสินค้าอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากสินค้าของมูลนิธิแล้ว ยังมีสินค้าจากชาวบ้านที่ไม่มีพื้นที่จำหน่าย มูลนิธิก็ช่วยเป็นสื่อกลางนำมาจำหน่าย เช่น ที่หนีบโปสการ์ดรูปหมู หรือที่เรียกว่าหมูหนีบ จากกลุ่มคนชรา จ.เชียงราย เข็มกลัดและพวงกุญแจจากเศษไม้ของสมาคมเบิร์ดออฟไทยแลนด์ (Bird of Thailand) พิกุล นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทของเธอจะซื้อของที่ระลึกจากองค์การยูนิเซฟให้ลูกค้าเป็นของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ เพราะรู้สึกว่ามีโอกาสช่วยสังคมและลูกค้าที่ได้รับก็ปลื้มใจ แต่ยังไม่เคยอุดหนุนสินค้าปีใหม่ของมูลนิธิขนาดเล็ก เนื่องจากไม่ค่อยรู้จักและไม่มั่นใจ เช่น ถ้าเป็นสมุดโน้ตที่สวยงามก็อาจซื้อ แต่ควรติดสติกเกอร์ชื่อที่อยู่มูลนิธิให้ชัดเจนด้วย ขณะที่ผู้บริหารบริษัทค้าเหล็กแห่งหนึ่งยอมรับว่า ในปี 2552 มีนโยบายตัดงบประมาณซื้อของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้า เช่น จากเดิมที่ลูกค้าที่มีเป้าสั่งซื้อ 2 แสนบาทขึ้นไป จะได้รับของขวัญ แต่ปีนี้ต้องมียอดซื้อ 1 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ วงเงินซื้อของขวัญก็ลดลงด้วย จากหลักพันบาทก็เหลือเพียงหลักร้อยบาท เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซาและไม่รู้ว่าในปีหน้าวิกฤติการเมืองไทยจะทำให้ตลาดซื้อขายเหล็กเสียหายมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับไม่ค่อยนิยมเลือกซื้อของขวัญทางเลือกจากมูลนิธิต่างๆ เพราะราคาจะแพงกว่าปกติ ส่วนตัวแล้วมักได้ของขวัญประเภทนี้จากตัวแทนธนาคารต่างๆ ซึ่งก็จะรู้สึกดี ปีใหม่ 2552 นี้ หากต้องการหาซื้อของขวัญที่ราคาไม่แพงและยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมได้อีกทาง ลองแวะเข้าไปชมรายละเอียดของมูลนิธิต่างๆ ได้ที่ กลุ่มเราเข้าใจ www.thaipositivekids.com, มูลนิธิเด็ก www.ffc.or.th และมูลนิธิโลกสีเขียว www.greenworld.or.th