ไลฟ์สไตล์

ออกชานเมืองกรุงปักกิ่งสู่สวนพีชดูวิถีชีวิตชาวสวนไม้ผลในเมืองจีน

ออกชานเมืองกรุงปักกิ่งสู่สวนพีชดูวิถีชีวิตชาวสวนไม้ผลในเมืองจีน

24 ก.ค. 2554

ในระหว่างที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการจัดงานประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยภาคตะวันออก หรือ "ไทยแลนด์ แฟนตาสติก ฟรุต 2554 "(Thailand Fantastic Fruit 2011) ณ ห้างสรรพสินค้าโลตัส กรุงปักปิ่ง หรือเบยจิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

          ระหว่างวันที่ 8-10  กรกฎาคมนั้น ได้ใช้ห้วงเวลาในบางช่วงในบางวัน ฝ่าม่านหมอกฝุ่นที่สายลมพัดพามาจากทะเลทรายเอบี ในมณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่งทั่วอาณาบริเวณ มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือจุดหมายปลายทางที่สวนพีชของ นายหลิว ลี้จุน เกษตรกรชาวจีนวัย 41 ปีนอกชานเมืองกรุงปักกิ่ง

           สวนผลไม้ของหลิว ลี้จุน มีพื้นที่ทั้งหมด 20 หมู่ (1 หมู่เท่ากับ 660 ตารางเมตร) หรือกว่า 9 ไร่ ปลูกพีช เชอร์รี่ พุทรา และวอลนัท โดยมีพีชมากที่สุดเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดมีต้นพีชที่เขาปลูกกว่า 400 ต้น ในพื้นที่ 1 หมู่ พีชจะให้ผลผลิต 1,500 กก.ขายในราคา 500 กรัม 50 หยวน หรือ กก.ละ 100 หยวนคิดเป็นเงินไทย กก.ละ 500 บาท

           "ถ้าอยู่เมืองจีน เป็นเกษตรกรชาวนา ชาวสวนผลไม้ ถือเป็นคนที่รำรวย เพราะรัฐบาลให้ที่ดินครอบครองทำกิน ลูกหลานไม่อดตาย ถือเป็นคนที่มีเงินเพราะสินค้าเกษตรแพงมาก ใครๆ ก็อยากเป็นเกษตรกร เนื่องจากประเทศจีนที่ดินราคาแพงมาก" หลี เจ มัคคุเทศก์ หรือไกด์สาวจากมณฑลกวางสีวัย 27 ปี อดีตนักศึกษาคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา บอกระหว่างที่เรากำลังก้าวขาฝ่าเปลวแดดอ่อนของตอนสายในวันนั้น เดินเข้าสู่สวนพชีของหลิว ลี้จุน ที่ปลูกพีชเป็นแนวยาวร่วมกับสวนของเกษตรกรรายอื่นที่อยู่ละแวกใคล้เคียงด้วย

           หลี เจ บอกว่า คนจีนที่มีฐานะร่ำรวยมีอยู่หลักๆ 4 กลุ่มด้วยกัน คือ นายทุนที่เป็นผู้ประกอบการทั้งโรงงาน สถานบริการ พ่อค้าเก็งกำไร แต่กิจการส่วนใหญ่ในประเทศจีนจะเป็นของรัฐบาล อีกกลุ่มหนึ่งคือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม้จะมีเงินเดือนไม่มากนัก แต่จะมีรายได้พิเศษที่มีคนอื่นนำมาให้ และเป็นผู้ที่มีอำนาจบารมี ใครอยากเป็นข้าราชการ แต่ข้าราชการในประเทศจีนสอบเข้าอยากมาก ยกเว้นผู้ที่จบระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยดัง เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นต้น

           "คนจีนที่รวยสุดๆ มีการพูดสนุกๆ ว่ามีบ้านใหญ่ มีรถยนต์คันหรู มีภรรยาใหญ่เป็นชาวจีน มีภรรยาน้อยชาวญี่ปุ่น และมีกิ๊กเป็นชาวเกาหลี อย่างนี้จึงจะเรียกว่ารวยจริง" หลี เจ กล่าวพลางหัวเราะพร้อมกับเล่าต่อว่า อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นคนรวยคือเกษตรกร กลุ่มนี้จะมีที่ดินเป็นของตนเอง รัฐบาลยกให้ จะยึดครองเท่าไรก็ได้หากมีการจับจองทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สามารถขายหรือตกเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ไม่ต้องเสียภาษี และรัฐบาลไม่ยึดคืนหากรัฐบาลไม่มีโครงการใดๆ เข้าไป แต่ถ้ายึดคืนก็จะจ่ายในราคาที่สูงในรูปแบบของการเวนคืนนั่นเอง ต่างกับที่ดินในเมืองที่รัฐบาลให้ครอบครองเพียง 75 ปีเท่านั้น ในช่วงที่ครอบครองสามารถถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้

           กลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มเศรษฐีใหม่เป็นคนในเมืองอย่างในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเคยมีที่อยู่อาศัยมาก่อน เมื่อรัฐบาลปรับผังเมืองใหม่ รื้อตึกเก่าตึกโบราณ เพื่อสร้างตึกใหม่ที่ทันสมัย ที่อยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียม จึงมีการเวนคืนที่ดิน ทำให้เจ้าของที่มีเงินจำนวนมาก เพราะค่าเวนคืนแพงถึงตารางเมตรละหมื่นๆ หยวน บางคนมีเงินเป็นล้านๆ หยวน สามารถซื้อคอนโดมิเนียมราคาแพงอยู่อย่างสบาย แต่คอนโดมิเนียมเหล่านี้มีสิทธิ์ยึดครอง 75 ปีเช่นกัน     
 

               สำหรับสวนพีชของหลิว ลี้จุน เป็นสวนเก่าแก่ของครอบครัว เขาจึงยึดอาชีพเป็นเกษตรกรมาตั้งแต่เด็ก มีการปลูกพีชเรียงรายเป็นแถวยาวราวสวนลำไยในบ้านเรา แต่หลิว ลี้จุน ตกแต่งกิ่งเพื่อให้ลำต้นไม่สูงนัก สามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย สามารถใช้มือเด็ด หรือบันไดเพียง 3-5 ขั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ทุกวันนี้เขาดูแลสวนกันเอง 3 คนเท่านั้นคือเขา ภรรยา และลูก

           "พีชเป็นผลไม้ที่ออกปีละ 1 ฤดูกาลเท่านั้น จะออกดอกราวเดือนเมษายน พอถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะเริ่มเก็บเกี่ยว พอถึงฤดูหนาวจะตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แสงแดดเข้าทั่วถึงต้น จากนั้นจะบำรุงต้นด้วยการใส่ปุ๋ยตามหลักวิชาการที่รัฐบาลแนะนำ กระทั่งออกผล ชาวสวนจะดูแลตามปกติ จนเหลือเวลาอีกราว 2-3 อาทิตย์ที่จะเก็บเกี่ยว จะห่อผลพีชเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช และช่วงนั้นจะไม่ฉีดยาเคมี เพราะสวนของผมเป็นสวนที่ปลอดสารพิษ" หลิว ลี้จุน กล่าว

           หลิว บอกด้วยว่า การทำสวนในประเทศจีนจะไม่มีปัญหาด้านการตลาด โดยเฉพาะสวนที่อยู่รอบๆ กรุงปักกิ่ง เพราะมีตลาดแน่นอน ทุกวันนี้คนจีนบริโภคผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นผลไม้ที่ปลูกกันเกษตรกรเป็นผู้กำหนดราคาเอง และมีตลาดรองรับแน่นอน ทั้งที่ส่งไปที่ตลาดและมีลูกค้าเดินทางไปซื้อถึงที่สวนในราคา 500 กรัม 50 หยวน ทำให้แต่ละปีเขามีรายได้จากการขายผลพีชปีละราว 8 หมื่นหยวน หรือ 4 แสนบาท ถือเป็นรายได้ที่ดีสำหรับการดำรงชีพอย่างเกษตรกรในประเทศจีน จึงทำให้ครอบครัวไม่เดือดร้อน   

           ด้าน นายอนันต์ ลิลา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งพาคณะไปชมสวนพีชของหลิว ลี้จุน บอกว่า ในประเทศจีนมีกำลังซื้อสูง เพราะภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นมาก ประกอบกับคนจีนมีถึง 1,400 ล้านคน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีราคาสูง และที่สำคัญปัจจุบันจีนมีการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ขายได้ราคาและสามารถเป็นผู้กำหนดราคาได้เองด้วย

           นี่เป็นเพียงบางส่วนบางตัวอย่างของวิถีชีวิตเกษตรกรชาวสวนไม้ผลในประเทศจีน ซึ่งนับเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีอีกอาชีพหนึ่ง ซึ่งคนจีนส่วนใหญ่ต่างปรารถนาที่จะเป็นเกษตรกร เพราะมีที่ดินเป็นของตัวเองด้วย

ดลมนัส  กาเจ