ไลฟ์สไตล์

ตาดหินยาว หลี่ผีเมืองไทย ณ เขาใหญ่ตอนล่าง

ตาดหินยาว หลี่ผีเมืองไทย ณ เขาใหญ่ตอนล่าง

24 ก.ค. 2554

"เขาใหญ่ ดงพญาเย็น" ผืนป่ามรดกโลกทางธรรมชาติ เป็นผืนป่าที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดในเขตภาคกลาง ภาคตะวัรนออก และอีสานตอนล่าง

          ถือเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายของพืชพันธุ์ และสัตว์ป่า และยังเป็นสถานที่ฟอกปอดที่ไม่ไกลจากเมืองกรุง การเดินทางไปก็แสนสะดวก ที่พักสบายๆ รอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ผุดขึ้นมากมาย และป่าผืนนี้มักตกเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ

          ล่าสุดโด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง และคงได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว นักอนุรักษ์เยอะแน่ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้วยเพราะหลายคนมีนัดหมายไปประกาศเจตนารมณ์ แสดงความคิดเห็นร่วมกันกรณีสิ่งปลูกสร้างที่ผาเดียวดาย จริงๆ แล้วป่าผืนนี้ เหมือนถูกตอดเล็ก ตอดน้อยมาตลอด ทั้งทางตรง และทางอ้อม
 เขาใหญ่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งแบบเดินป่า และฝ่าน้ำตก มีน้ำตกสวยๆ มากมายในจุดต่างๆ กันไป

          ไม่ว่าจะขึ้นทางนครนายก ปราจีนบุรี หรือทางปากช่อง นครราชสีมา  แต่วันนี้อยากชวนผู้อ่านไปเที่ยวในเขตเขาใหญ่ตอนล่าง ที่ซ่อนตัวของน้ำตกที่ไม่สูงใหญ่ แต่เป็นธารน้ำตกท่ามกลางแก่งหินงาม จนพวกเราขนานนามกันว่า "หลี่ผีแห่งเมืองไทย" ก็ไม่ผิดปาก เพราะหลายคนที่เห็นรูป มักถึงไปถึงแก่งน้ำตกหลีผี-คอนพะเพ็ง ของประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว

          ตาดหินยาว  อยู่ในเขตเขาใหญ่ ด้านอ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อยู่ในความดูแลของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.10 หน่วยตะคร้อ) บ้านบุฝ้าย ซึ่งในเส้นทางเข้าไปหน่วยตะคร้อ ก็มีน้ำตกสวยๆ อีกหลายแห่ง อาทิ น้ำตกส้มป่อย น้ำตกธารทิพย์  หรือที่ทำการของหน่วย ก็มีน้ำตกสวยๆ ที่หลายคนชอบไปหามุมพักผ่อน คือ น้ำตกตะคร้อ

          ฉันขับรถไปทางบางนา-ตราด เข้าฉะเชิงเทรา ก่อนจะเลี้ยวซ้ายแยกจากเส้น 304 ไป จ.ปราจีนบุรี แต่ก่อนถึงตัวจังหวัด จะมีแยกไป อ.ประจันตคาม เลี้ยวไปตามเส้นทาง จนถึงถนนเส้นที่ตัดมาจากจ.นครนายก เลี้ยวขวาตรงไปอีกไม่ไกล ก็จะถึงแยกประจันตคาม (เป็นสามแยก มีปั๊มน้ำมันหัวมุม) เลี้ยวซ้ายเข้าไปทางตะคร้อ อีกราว 14 กม. ก็ถึงที่ตั้งของหน่าวย ขญ.10 สมทบกับเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่ ที่เดินทางมาโดยใช้เส้นทาง รังสิต-นครนายก ผ่านปราจีน มาถึงแยกประจันตคาม  

          ตาดหินยาว หรือบางคนเรียก ตาดหินยาว 9กิโล เพราะต้องเดินเท้าอีก 9-10 กม. ถึงจะตัดลงไปแก่งซับหมาก เพื่อข้ามน้ำไปยังตาดหินยาวได้  แต่ปัจจุบัน เราสามารถเหมารถเจ้าหน้าที่ขึ้นไปส่งยังจุดเดินทางได้ ซึ่งรถที่จะขึ้นถึงต้องแรงดี มี 2 เพลา(4WD) ถึงจะไปรอด ยกเว้นในยามฤดูฝนมาเยือนอาจจะต้องพึ่ง 2 เท้าของเราเป็นส่วนใหญ่

          ครั้งนี้เราโชคดี ได้รถหกล้อของเจ้าหน้าที่ขึ้นไปส่ง จากที่ทำการฯ เข้าไปทางเดียวกับน้ำตกตะคร้อ แต่จะแยกข้ามสันฝายถาวร ตัดขึ้นทางชัน วกวนไปเรื่อย แถมมีลงเข็นอีก 2 จุดใหญ่ๆ ในระยะราว 10 กม.เลยใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงจุดขึ้นเป้ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี เพราะเราออกกันสายพอควร เลยจัดการมื้อเที่ยงวกันตรงนั้นเอง ลดการแบกน้ำหนักไปได้นิดหน่อย

          ราวบ่ายเศษ เราเริ่มเดินเท้าตัดลงป่าไผ่ ดิ่งลงทางชันไม่มากนัก ประมาณชั่วโมง ก็โผล่มาเจอแก่งซับหมาก แก่งแรกที่เราจะต้องจับมือจูงกันข้ามน้ำไป น้ำกำลังพอดี ไม่มาก ไม่น้อย แต่ตรงร่องน้ำก็แรงใช้ได้ เลยต้องจับมือจูงต่อๆ กันไป ใช้เวลาข้ามน้ำพอควรก่อนจะตัดเข้าราวป่าอีกครั้ง ช่วงนี้เจอดอกไม้ดินพอประมาณ กระเจียวที่นี่สีสวยแปลกดี ดอกไม่ใหญ่เท่าไหร่ ตลอดรายทางดูเหมือนต้นไม้ดิน ต้นไม้อิงอาศัยเล็กๆ แห่งผืนป่านี้กำลังมีชีวิตชีวารับฤดูฝนที่มาเยือน

          ทะลุเทรลป่า ก็โผล่ไปเจอลานหินอีกครั้ง คราวนี้ดูเหมือนลานหินจะกว้างมากๆ มีกระแสน้ำไหลเลาะไปตามแก่งกินสวยทีเดียว ขณะที่ปลายสายน้ำ ไหลตกหน้าผาที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งมารู้ว่าเป็นน้ำตกอีกชื่อหนึ่ง คือน้ำตกผาไทรคู่ เพราะมีต้นไทรใหญ่อยู่ริมผา  ฉันเห็นเพื่อนไปเดินไปล่วงหน้าวางเป้ อ้อ .. มีตั้งแคมป์ด้วย เลยรู้ว่า น่าจะถึงจุดหมายของเราแล้ว เลยโอ้เอ้เดินถ่ายรูปแอ่งน้ำตกนานหน่อย ก่อนจะแบกเป้เดินไปที่จุดตั้งแคมป์ ซึ่งเป็นบริเวณลานหินด้านบน และยังมีลานหินด้านล่างที่เราจับจองเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องอาหารกันซะเลย

          ที่นี่ต้นไม้ผูกเปลไม่มากนัก แต่มีลานให้กางเต็นท์ทั่วไป ฉันยังหาที่ผูกเปลไม่ได้อย่างใจ ก้เลยฝากเป้ไว้ใต้เงาฟรายชีตกันฝนของเพื่อน แล้วก็เลือกมุมโปรดแช่น้ำเล่น มองไปมองมา ถึงได้เกิดจินตภาพว่า ใช่เลย ...นี่แหละ หลี่ผีแห่งเมืองไทย อยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง แถมมีเวลาอ้อยอิ่งเล่นน้ำนานทีเดียว เพราะเส้นทางเดินที่ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่อย่าถามนะว่ากี่ กม. เพราะโดยมากเส้นทางสายป่าฉันมักนับเป็นชั่วโมง จะง่ายกว่าระยะทางที่จับจากเครื่องอุปกรณ์วัดระยะ ที่มักเป็นระยะขจัด หรือระยะทางอากาศซะมากกว่า

          โชคดีครั้งที่ 2 ค่ำคืนนี้ไม่มีฝนตกลงมาให้กวนใจ แม้เมฆจะหนาตา ลอยต่ำเมื่อตอนเย็น เลยได้มีห้วงเวลาโรแมนติก ฉลองวิวาห์ให้คู่เพื่อนรักแบบฉบับคนเดินป่า มีจุดเทียนวางในแก้ว แล้วนำไปวางตามขอบหินริมน้ำ เพียงเท่านี้ก็สร้างบรรยากาศได้แบบโรแมนติกสุดๆ ชนิดโรงแรมใหญ่ๆในเมืองก็อาจไม่น่าจดจำเท่า

          วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นค่อนข้างเช้า เลยไปนั่งจิบกาแฟ แล้วก็นอนเล่นบนหินเรียบกลางน้ำ ฟังเสียงน้ำไหล สอดแทรกด้วยเสียงนกเล็กๆ ในดงไม้ที่อยู่อีกฝั่งไม่ไกล จนเพื่อนๆ ตื่นกันมาหลายคนนั่นแหละ ถึงได้กลับมารวมกลุ่มอีกครั้ง แต่ด้วยเวลาที่มีเหลือเฟือ เพราะเราจะออกเดินทางกลับตอนบ่าย เช้านี้ เลยทั้งเบ่นน้ำ เดินหามุมถ่ายรูป ตามแต่ใครจะชอบใจมุมไหน ขอแค่ให้เดินกลับมาที่แคมป์ถูกก็เป็นพอ 

          จังหวะนี้ นอกจากจะได้เห็นดอกไม้ดินเล็กๆ แล้ว ยังได้เห็นผีเสื้อสวยๆ อีกแม้จะไม่มากเท่าแหล่งดูผีเสื้อขึ้นชื่ออย่างปางสีดา หรือแก่งกระจาน ก็ตาม ฉันได้เจอหางติ่งหลายตัว ทั้งเฮเลน สะพายฟ้า และที่จำได้ไม่ลืมหางติ่งปารีส แต่...ฉันไม่ได้ถ่ายรูปไว้แฮะ

          หลังมื้อเช้าที่ค่อนข้างสาย เล่นน้ำเสร็จ ฉันยังได้แอบงีบเอาแรงอีกหน่อย ก็ฉันขับรถตามมาก็ต้องขับกลับเองนี่นา จนได้เวลานั่นแหล่ะ เราถึงได้รวมพล เก็บแคมป์ เก็บของขึ้นเป้ออกเดินทางกลับ ซึ่งเราจะไปอีกเส้นหนึ่งผ่านแก่งกฤษณา ชื่อเพราะที่ต้องลุ้นว่าน้ำจะเยอะหรือน้อย เพราะถ้าเป็นช่วงน้ำเยอะ อาจต้องเกาะเชือกลอยคอไปทีเดียว  เราเดินย้อนผ่านน้ำตกผาไทรคู่ไปจนถึงแก่งซับหมาก แต่เลาะลงด้านซ้าย ตัดไปทะลุที่แก่งกฤษณาแทน ระหว่างทาง มีข้ามน้ำ ข้ามหิน บ้าง และเป็นจุดที่เพื่อนร่วมทางได้เจอ "พิศวง" พืชกินซากแห่งป่าเขาใหญ่ด้วย ก่อนจะโผล่ทะลุไปเจอบึงน้ำใสแจ๋วขนาดใหญ่ ที่ไหล่ไปตกแก่งหินเป็นน้ำตกเล็กๆ "นี่เอง ... แก่งกฤษณา"

          เรารอกันจนมาครบ แม้น้ำไม่สูงถึงเอว ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่หินใต้น้ำที่อาาจจะลื่นสำหรับบางคน กระแสน้ำเชี่ยวตรงร่องน้ำที่ไหลลงแก่ง ที่ค่อนข้างแรง เลยต้องรอผูกเชือกและจับสาวไป จะปลอดภัยก่อน ผ่านแก่งนี้มาได้ ตัดขึ้นเขากกันอีกครั้งกับพลังเฮือกสุดท้าย ที่คิดว่าเดี๋ยวก็ถึงรถ แต่พอขึ้นถึงด้านบนถึงได้รู้ว่า ถนนลื่น รถติดหล่ม ขึ้นไม่ไหว สองเท้าเท้านั้นที่จะพาเรากลับไปได้

          ในระยะทางจากตรงนี้ ร่วม 12 กม. กว่าจะถึงที่ทำการฯ ฉันเองก็แทบแย่ แต่ความฉ่ำเย็นของสายฝน ความสวยงามของผืนป่า และมิตรภาพอันงดงามของมิตรใหม่ ก็ทำให้ทริปเดินทางทริปนี้ เป็นอีกทริปแห่งความทรงจำทีเดียว

          ตาดหินยาว ...ไม่ใช่น้ำตกสูง หากแต่เป็นลานหินสีน้ำตาลที่กว้างขวาง โอบล้อมด้วยขุนเขาใหญ่ที่สงบเงียบ แถมด้วยแอ่งน้ำน้อยใหญ่ เลือกเล่นได้ตามชอบ บวกกับระยะเดินที่ไม่ไกล ทำให้พูดได้เต็มปาก ตาดหินยาวช่างมีเสน่ห์จริงๆ และที่นี่ ...หลี่ผีเมืองไทย

 

เรื่องและภาพ  นพพร วิจิตร์วงษ์