"ทองเอก”สูตรร้านขนมไทยสอง-แสน | คมชัดลึก

          “สงขลา” หรือ “แดนสมิหลา” คือหนึ่งในเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอารยธรรมสำคัญ ซึ่งมีความเก่าแก่นับสองร้อยปี อีกทั้งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมที่นับวันจะหาชิมได้ยากยิ่ง โดยหนึ่งในเมนูความอร่อยที่ถูกยกให้ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบของดีคู่เมืองสงขลาเวลานี้เห็นทีจะหนีไม่พ้น “ขนมทองเอก” สูตรดั้งเดิมของร้าน "ขนมไทยสอง-แสน" ที่ครองความอร่อยมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
 
          ที่สำคัญ “ขนมทองเอก” มรดกที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษต้นตระกูล “ปิยะศิริโสฬส” นอกจากจะได้รับความนิยมจากนักชิมทั่วทุกหัวระแหง ที่เคยได้มาลองลิ้มความอร่อยจนเป็นต้องยกนิ้วให้แล้ว ยังได้รับคัดเลือกเป็นขนมไทยดีเด่นจากสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2536 มาแล้ว ด้วยเอกลักษณ์ของเนื้อแป้งที่มีความพิเศษแตกต่างจากสูตรอื่นๆ ทำให้มีความอร่อยและพิเศษแตกต่างจากเจ้าอื่นด้วยเช่นกัน และที่สำคัญเอกลักษณ์ของขนมทองเอกบ้านขนมไทยสอง-แสน จะต้องห่อด้วยกระดาษสีต่างๆ ที่รับรองว่าไม่เหมือนใคร
 
          สมพร ปิยะศิริโสฬส หรือพี่พร ในฐานะผู้รับช่วงมรดกความอร่อยของขนมทองเอก เผยถึงจุดเริ่มต้นของบรรพบุรุษที่เข้ามาปักรากวางฐานใน จ.สงขลา ด้วยการทำขนมก่อนจะยกขึ้นบ่าตระเวนออกจำหน่ายทั่วเมือง ไม่นานรสชาติความอร่อยก็ทำให้มีเงินเก็บ กระทั่งตัดสินใจเดินทางจาก “เกาะยอ” มาลงหลักที่ถนนนางงาม ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา และนำมาสู่การผลิตขนมไทยวางจำหน่ายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
 
          ยิ่งไปกว่านั้นขนมทองเอก เป็นขนม 1 ใน 9 ชนิดที่ถูกเรียกว่าขนมมงคล อันได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น เม็ดขนุน ถ้วยฟู จ่ามงกุฎ ทองเอก และเสน่ห์จันทร์ ซึ่งขนมมงคลเหล่านี้จะใช้ในการนำไปประกอบเครื่องคาวหวานเพื่อถวายพระในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานมงคลสมรส หรืองานขึ้นบ้านใหม่ โดยเชื่อว่างานมงคลเหล่านี้จะต้องใช้เฉพาะขนมไทยที่มีชื่อไพเราะ และเป็นสิริมงคล ซึ่งคำว่า เอก ในชื่อขนมทองเอกนั้น หมายความว่า การเป็นที่หนึ่ง นั่นเอง
 
          สมพรเผยต่อว่าในปี 2545 ได้รับพระราชทานโอกาสตามเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปกรุงปักกิ่งเป็นเวลารวม 50 วัน โดยได้ทำขนมถวายพระองค์ท่านตลอด และที่โปรดมากที่สุดคือขนมทองเอก ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ดังนั้นสิ่งที่ครอบครัวปิยะศิริโสฬสระลึกเสมอคือขนมทองเอกจะต้องใส่หัวใจลงไปในขั้นตอนการทำทุกประการและจะต้องดีมีคุณภาพมากที่สุด
 
          ดังนั้นวันนี้บ้านหลังเล็กๆ ที่วางตัวอยู่บนถนนนางงาม ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา นอกจากจะเป็นสถานที่ผลิตขนมทองเอกแล้ว ยังเป็นสถานที่จำหน่ายขนมไทยที่มีให้เลือกซื้อมากมายถึง 40 ชนิด ทุกวันนี้จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ที่เดินเข้าออกเพื่อเลือกซื้อเลือกชิมความอร่อยของขนมไทยนานาชนิด
 
          ขณะที่ รัฐนคร ปิยะศิริโสฬส ทายาทรุ่นล่าสุด บอกว่า “ขนมทองเอก” ซึ่งเป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายและสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว จนทำเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความต้องการของลูกค้า ดังนั้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในตลาดผู้บริโภค จึงนำไปสู่การตัดสินใจนำเข้าอุปกรณ์ทำขนมที่มีคุณภาพเพื่อช่วยเพิ่มกำลังการผลิต อีกทั้งช่วยควบคุมคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานกว่าในอดีต
 
          “ก่อนหน้านี้ขนมทองเอกเราผลิตได้วันละไม่กี่กระทะ เพราะนอกจากความยุ่งยากอีกทั้งข้อจำกัดในเรื่องของกำลังคน แต่เมื่อนำอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยเข้ามาช่วยส่งผลให้วันนี้สามารถเพิ่มกำลังผลิตขนมทองเอกได้วันละ12 กระทะ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนับหมื่นบาทต่อวันเลยทีเดียว“ รัฐนคร กล่าว
 
          จากวันนั้นถึงวันนี้ชื่อเสียงของ “ขนมทองเอก” ได้กระฉ่อนไปทั่ว จนเป็นที่รู้จักส่งผลให้มียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาหาถึงสงขลาและอยากรับประทานจะต้องสั่งจองล่วงหน้า ใครสนใจติดต่อที่โทร.0-7432-1588

การทำ"ขนมทองเอก"สูตรดั้งเดิม
          พี่พร กระซิบบอกเคล็ดลับพิเศษการทำขนมทองเอกให้อร่อยเหมือนต้นตำรับว่า เนื่องจากขนมไทยที่มีขั้นตอนและกรรมวิธีที่ละเอียดลออ ผู้ที่จะทำต้องใส่ใจและใส่ความรักลงไปในทุกขึ้นตอนการผลิตจึงจะได้ของอร่อย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนส่วนผสมของแป้งสาลี น้ำตาล ไข่แดง และ กะทิ กระทั่งการกวนในกะทะจนข้นได้ที่ โดยเริ่มจากการนำแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว และแป้งสาลี มาผสมคลุกเคล้ากัน จากนั้นนำไข่ไก่ที่แช่เย็นไว้มาแยกเอาเฉพาะไข่แดงมาผสมกับแป้งคลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน
 
          ตามด้วยการผสมกับน้ำกระทิ น้ำตาลทราย จากนั้นกวนลงบนกระทะทองเหลืองที่ตั้งบนเตาถ่านเคี่ยวจนเหนียวและเหลือง ก่อนพักตั้งไว้ให้เย็น และนำมาปั้นเป็นก้อนๆใส่แม่พิมพ์เข้าเตาอบ และที่สำคัญก่อนวางจำหน่ายต้องนำมาห่อกระดาษสี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของขนมทองเอก แห่งบ้านขนมไทยสอง-แสน นั่นเอง
 
          ปัจจุบันนี้สินค้าประจำถิ่นหลากหลายประเภทได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ในการช่วยสร้างจุดขายสำคัญควบคู่กับการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะอาหาร หรือขนม ประเภทหายากและคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว ยิ่งกลายเป็นของขายดีในเวลานี้

"สุพิชฌาย์ รัตนะ"