รบ.นอร์เวย์มอบธรรมเจดีย์เทิด"ในหลวง" | คมชัดลึก

          เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม  2554 - ที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลนอร์เวย์ อัญเชิญ ธรรมเจดีย์ พระคัมภีร์โบราณทางพระพุทธศาสนาอายุเก่าแก่ที่สุด 2,000 ปี มาจัดแสดงที่พุทธมณฑล ของประเทศไทยนั้น ขณะนี้รัฐบาลนอร์เวย์ได้ถวายพระคัมภีร์บางส่วนประดิษฐานในประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งถือว่า เป็นประเทศแรก และประเทศเดียวในโลกที่ได้รับพระคัมภีร์จากรัฐบาลนอร์เวย์
 
           พระวิจิตรธรรมาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ธรรมเจดีย์ พระคัมภีร์ จะบรรจุที่พระบรมบรรณพรตภูเขาทองวัดสระเกศ บริเวณศาลาด้านหน้าทางขึ้นภูเขาทอง ซึ่งภายในศาลาดังกล่าวจะมีการจำลองหุบเขาบาบิยัน พร้อมโอ่งบรรจุพระคัมภีร์โบราณเป็นแบบโปร่งใส และมีแว่นขยายส่องเพื่อให้เห็น อักษรพราหมีโบราณ ที่จารึกโดยพระอรหันต์ได้อย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันภายในศาลาจะมีประวัติความเป็นมาของพระคัมภีร์และความเจริญรุ่งเรื่องทางพระพุทธศาสนาในอัฟกานิสถานด้วย โดยจะมีการนำสื่อสมัยใหม่มาผสมผสานให้นิทรรศการเข้าใจง่ายขึ้น ทั้งนี้ ทางวัดจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา

           ในวันเดียวกัน ที่วัดสระเกศฯ นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา(ศน.) แถลงข่าวการจัดงานสัปดาห์วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2554 ว่า ศน.ร่วมกับ องค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมจัดงานสัปดาห์วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา โดยในส่วนกลาง จัดขึ้น ณ วัดสระเกศ ระหว่างวันที่ 13-15 ก.ค. มีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การทำบุญตักบาตร การแสดงพระธรรมเทศนา พิธีถวายผ้าอาบน้ำฝน พิธีเวียนเทียน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา ถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 การหล่อเทียนพรรษา จำนวน 9 ต้น เพื่อนำไปถวาย ณ พระอารามหลวง 9 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร ส่วนภูมิภาค จะจัดงาน ณ วัด หรือ ศาสนสถานสำคัญตามที่จังหวัดต่างๆกำหนดไว้ นอกจากนี้ ศน.ยังได้จัดพิมพ์บัตรอวยพรเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จำนวน 30,000 ฉบับ รวมถึง หนังสืออาสาฬหบูชา หนังสือสวดมนต์หมู่สรภัญญะ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนในสถานที่จัดกิจกรรมทั่วประเทศด้วย

           “ทุกปีที่ผ่านมาในเทศกาลเข้าพรรษา จะมีผู้ประกอบการหัวใสที่นำเทียนพรรษาที่ไม่มีคุณภาพไส้สั้นจุดไม่ทันไร ก็ดับ รวมถึงสังฆทานที่หมดอายุมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จึงอยากให้ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการหล่อเทียนควรยึดมั่นในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา การหล่อเทียน และนำเทียนที่ไม่ดีมาจำหน่าย ผมขอสาปแช่ง เพราะถือเป็นการทำบาป และคนผู้นั้นจะต้องตกนรก คนที่ทำเทียน หรือ นำเครื่องสังฆทานไร้ประสิทธิภาพมาจำหน่าย แสดงว่าเป็นชาวพุทธปลอม หรืออาจไม่ใช่ชาวพุทธแต่หวังผลประโยชน์ทางการค้า ดังนั้น ผู้ขายก็ต้องทำเทียนที่มีคุณภาพมาขายให้ประชาชนเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระศาสนา เอาน้ำดีดันน้ำเน่านี้ให้หายไปจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”อธิบดีศน.กล่าว