ไลฟ์สไตล์

"ณัฐกิจ บัวขม"ผู้บริหารจิตอาสาผู้มีอำนาจอยู่ในมือ แต่ไม่ใช้บังคับใคร

"ณัฐกิจ บัวขม"ผู้บริหารจิตอาสาผู้มีอำนาจอยู่ในมือ แต่ไม่ใช้บังคับใคร

11 ก.ค. 2554

ชายหนุ่นผิวเข้มจากเมืองย่าโม ออกเดินตามหาฝันที่จะเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ ทำให้เขาก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี(วิทยาลัยครูอุดรธานี) ณ วันนี้ของเขา "ณัฐกิจ บัวขม" สานฝันตัวเองได้สำเร็จ

ในฐานะ "ผู้อำนวยการโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย" คม ชัด ลึก มีโอกาสได้พูดคุยถึงวิสัยทัศน์ของเขาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 เนื่องในวันสถาปนาโรงเรียนครบรอบ 36 ปี หลังจากเป็นเอกชนมาแล้ว 48 ปี ภายหลังเปลี่ยนไปสังกัดรัฐบาล หากนับรวมก็ราวๆ 84 ปีผ่านมาแล้ว กับกิจกรรมหล่อเทียนพรรษา ที่จะมีขบวนแห่เทียนถวายวัดเบญจมบพิตรในวันที่ 14 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้

  "ณัฐกิจ" หรือพ่อของลูกๆ นักเรียนกว่า 2,400 คน เล่าว่า ทั้งชีวิตตั้งแต่จำความได้ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนกระทั่งเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา ก็ออกค่ายช่วยเหลืองานชุมชนมาตลอด เพื่อนฝูงต่างประจักษ์ในจิตอาสา จนได้รับเลือกเป็นประธานนิสิตนักศึกษาจิตอาสา เช่น ออกค่ายสร้างและซ่อมแซมอาคารเรียน และด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอกชอบช่วยเหลือคนอื่น เมื่อสำเร็จการศึกษาปี 2526 ก็เข้ารับราชการครู จนถึงปัจจุบันรวมกว่า 30 ปี เป็นผู้บริหารโรงเรียนกว่า 19 ปี จาก 6 โรงเรียน

 "ณัฐกิจ" ย้อนอดีตว่า ปี 2551 ที่เข้ารับตำแหน่งในช่วงที่โรงเรียนกำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ถูกสังคมภายนอกมองว่านักเรียนเป็นเด็กมีปัญหา จึงคิดแก้ไขปัญหา โดยค้นหาจุดเด่นของโรงเรียน ปรากฏว่ามีชื่อเสียงด้าน "ลูกเสือ" จึงใช้กฎลูกเสือทั้ง 10 ข้อมาแก้ปัญหาและพัฒนาโรงเรียน

 "นายหมู่มีหน้าที่ดูแลลูกหมู่ หนึ่งหมู่มี 8 คน ในหนึ่งห้องเรียนจะมีกี่หมู่ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียน แต่นายหมู่ต้องรู้ประวัติของลูกหมู่ทั้งหมด เช่นเดียวกับผู้ปกครองต้องแบ่งเป็นหมู่ด้วย แต่ผู้ปกครองสามารถเลือกสมาชิกหมู่ด้วยตนเองได้ การจับจุดปัญหาที่เกิดขึ้นก็เริ่มจากนายหมู่และครูที่ปรึกษาติดตามข้อมูลส่วนตัวนักเรียน เข้าหานักเรียนแบบตัวต่อตัว ถามไถ่ถึงปัญหา คุยแบบเปิดใจ ถึงวันนี้ดีขึ้น เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง" ณัฐกิจ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 เหนืออื่นใด ภายใต้สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว "ณัฐกิจ" ยอมรับว่า คำสั่งจากส่วนกลางที่ต้องการพัฒนาก็ตามออกมามากมาย โรงเรียนก็เกิดปัญหาการบริหารที่ต้องทำตามอย่างเร่งด่วน ทำให้ครูใช้เวลาที่ควรจะดูแลเอาใจใส่นักเรียน ไปวิ่งทำตามคำสั่งของส่วนกลาง ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของตัวนักเรียน อีกทั้งโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารหน่วยที่สังกัด คือ เขตพื้นที่การศึกษาไม่นิ่ง เกิดความไม่ชัดเจน การจัดการศึกษาของโรงเรียนก็ไม่นิ่งตามไปด้วย รวมกับระบบการส่งต่อเด็กเพื่อศึกษาต่อในระดับต่อไปก็มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ขาดความต่อเนื่อง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจในโรงเรียน เป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กนักเรียนไปเรียนกวดวิชากันมากขึ้น

 "ไม่เพียงเท่านั้น โรงเรียนยังประสบปัญหาขาดแคลนครู เพราะครูที่โรงเรียนอายุค่อนข้างมาก เมื่อเกษียณออกไปแล้วก็ไม่มีอัตรามาทดแทน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัญหาที่รอการแก้ไข จึงอยากฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่แก้ไขอย่างเร่งด่วน" ณัฐกิจ เสนอแนะ

 ตำแหน่ง "ผู้อำนวยการโรงเรียน" ในมุมมองของ "ณัฐกิจ" มองว่าเป็นเพียง "สัญลักษณ์" หนึ่งที่คงไว้เท่านั้น ไม่ใช่ผู้มีอำนาจใหญ่โต  เน้นทำงานเป็นทีมเวิร์ก ทำงานร่วมกับครูทุกคน ทำให้บรรยากาศการทำงานราบรื่น ส่วนนักเรียนจะให้ความเป็นกันเองกับทุกคน จะเรียกนักเรียนว่าลูกๆ ทุกคน ด้านการทำงานจะทำให้ทุกคนเห็นก่อนว่า โรงเรียนมีเป้าหมายให้ "โรงเรียนเป็นของชุมชน"

 "ดังนั้นทุกวันศุกร์-เสาร์จะเปิดตลาดนัดชุมชน ให้ชาวบ้านและนักเรียนเข้ามาขายของในโรงเรียน ให้บริการสนามกีฬา ให้บริการด้านอาคารสถานที่ และให้บริการที่พักแก่นักเรียนต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาทัศนศึกษา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น ช่วยดูแลผู้ป่วยที่มารอรับการรักษาในโรงพยาบาลราชวิถี จัดแสดงละครในชุมชนเพื่อต่อต้านโรคเอดส์ ยาเสพติด

 บางครั้งการเป็นผู้นำไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในห้องแอร์อย่างเดียว ต้องออกไปเดินดูตรวจความเรียบร้อยรอบโรงเรียน เดินดูครูสอนตามห้องเรียน บางครั้งถ้าเห็นขยะขวางหูขวางตา ก็ก้มเก็บบ้าง เผื่อเด็กเขาเห็นจะได้ทำตามเรา" ผอ.ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย กล่าวทิ้งท้าย

              0 ขวัญเรียม  แก้วสุวรรณ 0 รายงาน