
สักเบาๆเขย่าศรัทธาถึงเวลาจัดระเบียบTattoo?
การเขียนสีและลวดลายต่างๆ บนร่างกาย หรือเรียกสั้นๆว่า รอยสัก อาจคงอยู่ชั่วคราวหรือถาวร การสักของแต่ละวัฒนธรรมมีความหมายเฉพาะตัวต่างกันไป ตามประวัติแล้ว การสักเริ่มต้นในสมัยกรีกเป็นการทำสัญลักษณ์เฉพาะใบหน้าของทาส
และอาชญากร จากนั้นเริ่มแพร่หลายในทวีปยุโรป ต่อมาประมาณ ค.ศ.787 การสักบนใบหน้าถือเป็นการลบหลู่ต่อพระผู้เป็นเจ้า ในประเทศไทย การสักหรือสักเลกนั้นเป็นการทำเครื่องหมายที่ข้อมือ เพื่อแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่หลวงที่มีสังกัดกรมกอง แต่ถูกยกเลิกไปในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนที่หน้าผาก หรือการสักท้องแขนใช้กับผู้ต้องโทษจำคุก แต่ยกเลิกในปี พ.ศ.2475 ส่วนการสักยันต์เป็นเหมือนเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของคนไทย
แต่การสัก ที่เป็นประเด็นร้อนฉ่าขณะนี้มีผู้ร้องเรียนกระทรวงวัฒนธรรมให้ดูแลการประกอบกิจการร้านสัก (Tattoo) ที่รับสักภาพพระพุทธรูปและภาพเคารพทางศาสนาอื่นไว้บนร่างกายในบริเวณไม่เหมาะสม เช่น เท้า ขา ที่ลับ ให้แก่นักท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต เป็นการสักคนละประเภทกับที่กล่าวมาข้างต้น แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นวิวัฒนาการหนึ่งของการสัก จนกลายมาเป็นแฟชั่นที่หลายคนคิดว่าเป็นต้นเหตุของการลบหลู่ อนาจาร ซึ่งในทัศนะช่างสักที่เป็นชาวพุทธไม่คิดเช่นนั้น เพราะกว่าช่างแต่ละคนจะมานั่งถือเข็มสักรูปต่างๆ บนผิวของลูกค้าหาเลี้ยงตัวเองได้ คงไม่คิดทุบหม้อข้าวตัวเอง
ทวีสิน ยอดแก้ว ช่างสักเปิดร้าน Addy’s Tattoo design จ.ภูเก็ตมากว่า 5 ปี กล่าวว่า มาทำอาชีพนี้ตามความฝันตัวเองที่อยากเป็นช่างสักมาตั้งแต่สมัยเรียน ยิ่งสักยิ่งสวยยิ่งชอบ ตอนแรกทำงานเป็นนักวิชาการงานเกษตร ศูนย์พัฒนาการเกษตรที่สูง 3 เดือน แต่อยู่ไม่ได้ มันไม่ใช่เรา พ่อแม่ก็ไม่เห็นด้วยที่ผมมาประกอบอาชีพนี้ กลับบ้านทีไรมีลายสักทั้งตัว เขาก็ไม่ชอบ ถูกมองไม่ดี เพิ่งออกคุกมาหรือเปล่าเนี่ย ต่างจากความคิดของผม Tattoo คือความสวยงาม เป็นงานศิลป์ กว่าจะสักได้แต่ละรูปเหมือนสร้างโบสถ์สร้างวิหารต้องใช้เวลา ฝรั่งเห็นยังทึ่ง
“ผมจะไม่ทำลายอาชีพตัวเอง ทุกอาชีพมีจรรยาบรรณ พวกเราก็มีเหมือนกัน เช่นเราจะไม่สักรูปทางศาสนา ผมยอมรับว่ามีลูกค้ามาบอกให้สักต่ำกว่าเอว แต่เราต้องบอกลูกค้าไปว่าสักไม่ได้นะ เพราะบ้านเราเมืองพุทธคนนับถือกัน ผมเชื่อว่าช่างไทยไม่สักในที่ต่ำกว่าเอวหรอก ส่วนใหญ่จะเป็นช่างเมืองนอกมากกว่า การสักสำหรับผมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินเพราะไม่ได้กินวันเดียว ผมต้องการทำงานนี้ไปอีกนาน ที่สำคัญพวกเรานับถือองค์พระพิฆเนศ เทพแห่งศิลปะ ยิ่งยืนยันว่าการสักเป็นงานศิลปะ จะไม่มีการลบหลู่หรืออนาจารเด็ดขาด”
สำหรับการสักนั้น ทวีสิน อธิบายว่า จะให้ลูกค้าเลือกแบบที่ถูกใจก่อน ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดผิว จากนั้นลอกแบบลงผิวหนัง เริ่มสัก โดยเครื่องมือหลักคือ เข็ม เครื่องสัก และสี หลังสักจะมอบคู่มือดูแลรักษารอยสักให้ลูกค้าด้วย การสักแบบแฟชั่นปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น แฟนตาซีสไตล์ ผสมหลายรูปแบบ เป็นภาพในจินตนาการ เทพนิยาย เจแปนสไตล์ มีลวดลายที่บ่งบอกความเป็นตะวันออก เช่น ปลาคาร์พ มังกร เวิลด์สไตล์ มีตัวอักษรที่มีความหมาย หรือไม่มีความหมายก็ได้ อินดี้สไตล์ ไม่มีแนวทางชัดเจนขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัว รูปแบบที่ฮิตที่สุดคือ เจแปนสไตล์ เพราะปลาคาร์พเป็นสัญลักษณ์นำโชค
เอกชัย วันเพ็ญ ผู้ประกอบการร้าน AKE Tatoo ย่านหาดกะรน จ.ภูเก็ต เล่าว่า ตามประวัติการสักแฟชั่น ว่ากันว่าฝรั่งเป็นคนนำเข้ามา คงห้ามช่างสักต่างประเทศไม่ได้ เท่าที่ดูตามเว็บไซต์ร้านสักในต่างประเทศมีรูปหน้าพระพุทธรูปเป็นต้นแบบให้ลูกค้าเลือกจำนวนมาก ส่วนช่างสักไทยตนเชื่อว่าจะไม่สักรูปพระที่ต่ำกว่าเอว เพราะเรามีความเชื่อว่าของจะเข้าตัว ระยะหลังนี้เริ่มรวมตัวกันในกลุ่มเพื่อนจัดตั้งเป็นชมรม สมาคมเพื่อให้ความรู้แลกเปลี่ยนด้านวิชาชีพ ประกวดแข่งขัน และควบคุมกันเอง สิ่งสำคัญที่พวกเราต้องการคือ ใบประกอบวิชาชีพ เพื่อนำไปขอใบประกอบการค้าเปิดร้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้องฉันใด การลบหลู่ศรัทธาไม่ว่าจะเป็นฝีมือของช่างสักชาติไหนก็ถูกเหมารวมไปหมด ล่าสุดกลุ่มผู้ประกอบการและช่างสักลาย จ.ภูเก็ต ออกมาจัดระเบียบกันเอง ออกคำแนะนำให้แก่สมาชิกที่ประกอบอาชีพสัก ดังนี้ 1.จะให้บริการสักลายหน้าพระพุทธรูปปางต่างๆ และสัญลักษณ์ทางศาสนาในตำแหน่งเหนือเอวขึ้นไป 2.รูปแบบของหน้าพระพุทธรูปจะต้องถูกต้องตามพุทธลักษณะที่สวยงามเท่านั้น 3.ก่อนให้บริการสักลายต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับลายทางศาสนาทุกศาสนาให้แก่ผู้ใช้บริการได้ตระหนักถึงความสำคัญและความศรัทธาต่อผู้พบเห็นรอยสักนั้นๆ
แม้วันนี้ภาพอาชีพ “ช่างสักไทย” ยังเป็นสีเทา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือจรรยาบรรณ จิตสำนึก ที่ระเบียบหรือกระทั่งกฎหมายใดๆ ก็บังคับไม่ได้ ทุกๆ ฝีเข็มของพวกเขาจึงไม่ใช่แค่การค้า แต่ยังช่วยทำนุบำรุงศาสนาในฐานะชาวพุทธคนหนึ่งด้วย
นานาทัศนะ
พระพรหมโมลี วัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) “เรื่องดังกล่าวได้มีการพูดคุยในที่ประชุม มส.แล้ว ซึ่งก็มีความเป็นห่วง โดยส่วนตัวคิดว่า ชาวพุทธไม่ควรอย่างยิ่งที่จะสักพระพุทธรูปไว้ในร่างกาย เพราะถือเป็นพระศาสดาของพุทธศาสนิกชน ส่วนชาวต่างชาติก็ควรที่จะเคารพความเชื่อของศาสนาอื่น สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ สิ่งที่คนไทยเคารพ ไม่ควรที่จะลบหลู่หรือกระทำไม่เหมาะสม หากเขาเหล่านั้นเข้าใจเชื่อว่า จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
นายวสันต์ พานิช คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “ถ้าคนจะสักพระพุทธรูปตามร่างกาย แขน หน้าอก ฯลฯ ก็ไม่น่าห้ามเพราะไม่ได้แสดงถึงความดูหมิ่น ใครๆ ก็สักได้เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพในร่างกายของตัวเขาเอง ไม่ควรออกกฎหมายห้าม แต่ถ้าไปสักที่ข้อเท้าหรืออวัยวะที่ไม่สมควร ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ดังนั้นหลักการคิดง่ายๆ คือ ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือความเชื่อของคนอื่น" (คม ชัด ลึก วันที่ 30 พ.ค.2554)
นายสมพงษ์ กันภัย (อาจารย์หนู กันภัย) เจ้าสำนักสักยันต์ชื่อดังของจังหวัดปทุมธานี “ยอมรับว่าที่ผ่านมานั้นก็มีชาวต่างชาติ มาขอให้สักยันต์รูปเคารพแบบนี้ให้ โดยจะให้สักในที่ต่ำกว่านั้น แต่ตนไม่เคยสักให้และยังให้คำแนะนำไปด้วยว่าไม่สมควร ถือเป็นการลบหลู่อย่างมาก จึงเห็นด้วยที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมออกมาให้ความสนใจและดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง (คม ชัด ลึก วันที่ 31 พ.ค.2554)
0 ผกามาศ ใจฉลาด 0 รายงาน
0 สมนึก อรรถดารา 0 ภาพ