
"แมลงช้างปีกใส"กำจัดเพลี้ยในมัน วิธีควบคุมการระบาดด้วยชีวินทรีย์
การระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูในไร่มันสำปะหลังครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ของจ.กาญจนบุรีและสุพรรณบุรีเมื่อปี 2551-2552 สร้างความเสียหายอย่างย่อยยับแก่เกษตรกรผู้ปลูกมัน จนไม่สามารถประเมินค่าได้ บางรายต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ผลตอบแทนที่ได้กลับกลายเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติเร่งหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยทำการทดลองวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง ภายใต้โครงการใช้ศัตรูธรรมชาติเพื่อการแก้ปัญหาการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน
ศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ โดย รศ.ดร.วิวัฒน์ เสือสะอาด ผู้อำนวยการศูนย์ ในฐานะหัวหน้าโครงการ จึงทำโครงการนำร่องบนเนื้อที่กว่า 2 หมื่นไร่ในหลายอำเภอของจ.กาญจนบุรีและสุพรรรบุรีเพื่อทดลองนำแมลงช้างปีกใสไปปล่อยในแปลงมันสำปะหลังของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ปรากฏว่าสามารถหยุดยั้งการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูได้ 100% และสามารถตัดวงจรเพลี้ยแป้งได้เกือบทั้งหมด
"ปี 52 เราได้งบจากวช.มา 10 ล้านเพื่อมาทำโครงการนี้ ที่ศูนย์กำแพงแสน ตอนนี้เราสามารถผลิตแมลงช้างปีกใสเดือนหนึ่งประมาณ 2 ล้านฟองแล้วก็ส่งเสริมให้ชาวบ้านช่วยกันผลิตด้วย เช่นเอามุ้งคลุมบ้าง อะไรบ้าง ในแปลงมีแมลงช้างก็เก็บมาขยายพันธุ์ต่อ พยายามให้ชาวบ้านช่วยตัวเอง ตอนนี้รายใหญ่ๆ เขาจะเลี้ยงเองหมด ส่วนเราก็จะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ ปีแรกที่เราทำ มีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกร 2 หมื่นไร่ พอทำจริงครอบคลุมไปถึง 5 หมื่น" รศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการ
หัวหน้าโครงการระบุอีกว่า ที่จริงแมลงช้างปีกใสในธรรมชาติมีอยู่แล้ว แต่ที่ปล่อยก็เพื่อไปกระตุ้นแมลงช้างปีกใสให้เพิ่มปริมาณให้มากขึ้น สำหรับแมลงช้างปีกใสนั้นเป็นตัวห้ำอยู่ในวงศ์ Chrysopidae มีประโยชน์ใช้ในการกำจัดศัตรูพืชที่มีขนาดเล็ก เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ตัวอ่อนแมลงหวี่ขาวและไข่หนองศัตรูพืช โดยตัวเต็มวัย ลำตัวจะมีสีเขียวอ่อน ตาสีทองอมแดง หนวดยาวเรียว ปีกสีเขียวอ่อนใส เห็นเส้นปีกชัดเจน เมื่อเกาะนิ่งจะแนบลำตัวคล้ายหลังคา ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้สามารถวางไข่ได้ประมาณ 400-500 ฟอง
รศ.ดร.วิวัฒน์ยังอธิบายถึงวิธีกำจัดเพลี้ยแป้งของแมลงช้างปีกใสว่าจะใช้กรามที่โค้งยาวยื่นจับเหยื่อและดูดกินของเหลวภายในจนเหยื่อตาย โดยเฉพาะเพลี้ยอ่อน สามารถกินได้ประมาณ 60 ตัว ในเวลา 1 ชั่วโมง ส่วนตัวเต็มวัยกินน้ำหวานเป็นอาหาร สำหรับระยะการปล่อยที่เหมาะสมคือระยะตัวหนอนโดยปล่อยในช่วงเวลาที่ไม่ร้อนจัด
ส่วนวิธีการปล่อยให้นำตัวหนอนหรือไข่ใส่ภาชนะเป็นกรวยกระดาษหรือกล่องพลาสติกแล้วนำมาแขวนใว้บนหรือใต้ต้นมันสำปะหลัง ส่วนอัตราการปล่อยขึ้นอยู่กันปริมาณศัตรูพืช โดยเฉลี่ย 100-200 ตัวต่อไร่ แต่ถ้าศัตรูพืชมีปริมาณสูงก็ประมาณ 1,000-2,000 ตัวต่อไร่ และควรหลีกเลี่ยงการใช้สารกำจัดศัตรูพืชทุกชนิดหลังมีการปล่อยแมลงช้างปีกใสลงไปในแปลงมัน
"แมลงช้างปีกใส" ตัวห้ำที่ทางวช.ร่วมกับศูนย์วิจัยควบคุมศัตรูพืชโดยชีวินทรีย์แห่งชาติ นำมาใช้จัดการศัตรูมันสำปะหลังอย่างเพลี้ยแป้งสีชมพู ไม่เพียงเป็นการแก้ปัญหาหยุดการระบาดของเพลี้ยเท่านั้น แต่ยังช่วยลดทุนต้นการผลิตจากการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชได้อีกด้วย
"สุรัตน์ อัตตะ"