
25ปีฟื้นฟูนกแต้วแร้วพบมี13ตัว
เมื่อ 25 ปีก่อน (ปี 2529) วงการนักธรรมชาติวิทยาทั่วโลก ต่างตื่นเต้นกับข่าวการค้นพบนกแต้วแร้วท้องดำ จับคู่ทำรังในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังจากที่เชื่อว่านกชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
และนกแต้วแล้วท้องดำที่ว่านี้ จัดอยู่ในจำพวกสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ที่จัดให้นกแต้วแล้วท้องดำ เป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิดของประเทศประเทศไทยอีกด้วย และหากนักส่องนกอยากดูนกชนิดนี้ก็ต้องเดินทางมาที่ประเทศไทยเท่านั้น
นกแต้วแล้วท้องดำ (Pitta gurneyi) ถือเป็นนกขนาดเล็ก ลำตัวยาวราว 20-24 ซม. เป็นนกที่พบเฉพาะถิ่น (endemic species) ทั่วโลกพบการกระจายเพียง 2 แห่งเท่านั้นคือ ในพื้นที่ป่าที่ราบต่ำเขานอจู้จี้ ของประเทศไทย และแถบเทนนิสเซริม เขตป่าไม้ตะนาวศรี อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 7-12 เหนือ ทางตอนใต้สุดของพม่า แถบเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งในประเทศไทยเคยพบตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์จนถึง จ. ตรัง ในแต่ละพื้นที่จะเรียกชื่อตามพื้นบ้านที่แตกต่างกัน อาทิ นกเต้าเล้า นกกอหล๋อ และนกเต้นหัวแพร
นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการพบนกแต้วแล้วท้องดำคู่หนึ่งพร้อมรังนกในวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2529 ในป่าที่ราบต่ำเขานอจู้จี้ซึ่งเป็นป่าที่ราบต่ำผืนใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในประเทศไทย ซึ่งผลจากการค้นพบในครั้งนั้นนำไปสู่การสำรวจป่าที่ราบต่ำผืนย่อยแห่งอื่นในประเทศไทยเพื่อค้นหาประชากรนกแต้วแร้วท้องดำที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่
หลังจากที่ได้ประกาศพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ในปี พ.ศ.2530 และต่อมากรมอุทยานได้ดำเนินโครงการหลัก 2 โครงการ คือ โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสถานภาพป่าที่ราบต่ำเขานอจู้จี้ และโครงการฟื้นฟูสถานภาพประชากรนกแต้วแร้วท้องดำ (พ.ศ.2546-2551) กระทั่งในปี 2553 จากการสำรวจประชากรในพื้นที่ป่าที่ราบต่ำเขานอจู้จี้ในปี พ.ศ.2553 พบประชากรนกแต้วแร้วท้องดำ 13 ตัว ประกอบด้วย เพศผู้ 8 ตัว เพศเมีย 4 ตัว และไม่สามารถจำแนกเพศ 1 ตัว
ทุกวันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ มีนโยบายจัดการด้านของถิ่นที่อยู่อาศัยของนกแต้วแร้ว โดยกำหนดระยะเวลาการทำกิจกรรมในพื้นที่บริเวณที่เป็นถิ่นอาศัยหลักของนกแต้วแร้วท้องดำในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมของทุกปี ทั้งนี้เพื่อลดการรบกวนนกในช่วงระยะการสืบพันธุ์นั่นเอง