สรุปปมดราม่า รีวิว "สงกรานต์กัมพูชา" เดือดข้ามประเทศ สงกรานต์ นี้ของใคร

ดราม่าเดือดอีกครั้ง ประเด็น “สงกรานต์ ไทย-กัมพูชา” นับจากการเคลมการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สงกรานต์นี้ เป็นของใคร จนล่าสุด กับดราม่ารีวิว “สงกรานต์กัมพูชา” เมื่อบล็อกเกอร์ไทย ไปเที่ยวสงกรานต์ที่กัมพูชา แต่เจอกับความเงียบเหงา ไร้คนเล่นน้ำ จนถูกทัวร์กัมพูชาลงขันตั้งค่าหัว

จุดเริ่มต้นดราม่ารีวิว “สงกรานต์กัมพูชา”

 

 

1) บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวคนไทย เจ้าของเพจ “Backpaeger แบกเป้เกอร์” เดินทางไปเที่ยวสงกรานต์ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา พร้อมรีวิว “เสียมเรียบเงียบ ไม่มีคนเล่นน้ำเลย ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ออกมาเล่น 10 โมงไม่คึกคัก”

                 

 

2) หลังจากนั้น ทัวร์กัมพูชาบุกทันที ชาวกัมพูชาบอกว่า สงกรานต์บ้านเค้าเริ่ม 14 เม.ย. ซึ่งไม่เหมือนไทย พร้อมมีการลงขัน ตั้งค่าหัว ตามล่า แชร์โพสต์ไปด่าจำนวนมาก ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไม่สุภาพ บอกว่า พวกเขาเล่นสงกรานต์เย็น-ดึก ตอนเช้าไปวัดไม่มีคนเล่น

 

 

3) แต่เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลตารางการจัดงานสงกรานต์เสียมเรียบ ชัดเจนว่า กิจกรรมมีตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 2567 เริ่มช่วงเช้า ตั้งแต่ 7 โมงเช้า หรือ 9 โมงของทุกวัน

• จุดเดือดดราม่ารีวิว “สงกรานต์กัมพูชา”

 

 

4) ในวันที่บล็อคเกอร์ท่องเที่ยวไทย เดินทางกลับในเช้าวันต่อมา ถูกชาวกัมพูชา ที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่สนามบิน โพสต์ภาพบนหน้าจอกล้องวงจรปิด ขณะเครื่องบินสายการบินไทยแอร์เอเชีย กำลังเตรียมเทกออฟ ระบุว่า “เฉียดหนักมาก สงกรานต์ปีหน้ามาเที่ยวอีกนะ (หัวเราะ)” โดยเครื่องบินลำดังกล่าว ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐ เวลา 11.55 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 13.00 น.

 

5) จากประเด็นนี้ สร้างความเดือดให้กับบล็อกเกอร์ชาวไทย โพสต์ตอกกลับว่า “อันนี้เกินไปมาก…เจ้าหน้าที่ในสนามบินข่มขู่แบบนี้เลยเหรอ?” “ความปลอดภัยเท่ากับศูนย์” ทำเอาชาวเน็ตไทย ต่างโจมตีชาวกัมพูชารายนี้ว่า คุกคามผู้โดยสาร พร้อมเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีการแสดงความรับผิดชอบ

        

 

• ซันนี่ แบกเป้เกอร์ บล็อกเกอร์ไทยเปิดใจ

 

 

6) คมกริช มาใชย ชาวบุรีรัมย์ หรือ ซันนี่ แบกเป้เกอร์ บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวไทย เปิดใจ จุดประสงค์ของการไปกัมพูชา เพราะอยากไปดูวัฒนธรรม โดยเฉพาะสงกรานต์ จากชื่อ “โจนชะนัมทะเมย” แต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อเดียวกับประเทศไทยคือ วันสงกรานต์ แถมเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใน 1-2 ปีนี้อีกด้วย

 

 

7) บล็อกเกอร์ บอกว่า เมื่อไปถึง กลับพบว่าไม่มีคนเล่นน้ำบนท้องถนนแม้แต่คนเดียว ทั้งเวทีก็ยังสร้างไม่เสร็จ ไม่มีความพร้อม ทุกอย่างพูดไปตามความเป็นจริง ไม่มีคำพูดที่ดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่กลับทำให้ชาวกัมพูชาไม่พอใจ และข่มขู่เหยียดหยาม เขายืนยัน ติเพื่อก่อ แต่นับจากนี้ คงไม่สามารถกลับไปประเทศกัมพูชาได้อีกแล้ว เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย ขนาดพนักงานสนามบิน ยังข่มขู่ไม่เลิก แถมยังมีชาวกัมพูชาแชร์โพสต์ออกไปด่า และข่มขู่คุกคามต่อเนื่อง จนกลายเป็นไวรัล

 

 

8) เรื่องราวลุกลาม เพราะเพจใหญ่ในกัมพูชา ต่างเล่นประเด็นนี้ ทำให้กลายเป็นไวรัลข้ามประเทศ

 

“สงกรานต์” นี้ เป็นของใคร?

 

 

9) หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลกัมพูชา เตรียมยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์กัมพูชา’ ลงในรายการมรดกที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ในปี 2025 และคาดว่าจะได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2026

 

 

10) ขณะที่ประเพณี ‘สงกรานต์ไทย’ เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 จึงอาจทำให้หลายคนสงสัยว่าแท้จริงแล้ว ‘สงกรานต์’ เป็นของใครกันแน่ นับแต่นั้นมา ดราม่าสงกรานต์ไทย-กัมพูชา เริ่มต้นทันที

 

 

ทั้งนี้ ประเพณีสงกรานต์เป็นวัฒนธรรมร่วมของชาวเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน และมีชื่อเรียกคล้ายคลึงกัน ในประเทศอินเดีย ภูมิภาคต่างๆ เรียกเทศกาลนี้ด้วยชื่อที่หลากหลาย เช่น ในรัฐอัสสัมเรียกว่า Bohag Bihu รัฐโอฑิศาเรียกว่า Pana Sankranti รัฐอรุณาจัลประเทศเรียกว่า Sangken ที่เนปาลเรียกว่า Bisket Jatra บังกลาเทศเรียกว่า Pahela Baishakh

 

 

ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการฉลองเทศกาลสงกรานต์กันในไทย พม่า กัมพูชา ลาว และเขตวัฒนธรรมไท หรือไต ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน