"หนุ่ม" การไฟฟ้า เผยเหตุ "ค่าไฟ แพง" ที่หลายบ้านมองข้าม รีบสำรวจเลย

ปัญหาค่าไฟแพง เรื่องน่าปวดหัวเกือบทุกบ้าน โดยเฉพาะตอนนี้อากาศร้อนจัด บ้านไหนมีแอร์ ก็เปิดกันทั้งวันทั้งคืน ซึ่งก็มาพร้อมกับค่าไฟที่แพงขึ้น แต่มี “หนุ่ม” ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน การไฟฟ้า ได้แชร์เรื่องราวที่มีประโยชน์ ที่เรียกว่ามาจากประสบการณ์ตรง ถึงสาเหตุที่ทำให้หลายบ้าน “ค่าไฟ แพง” แต่ถูกมองข้าม

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน การไฟฟ้า ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ หลังทำงานตรวจมิเตอร์ไฟมาตลอด 2 ปี เผยสาเหตุ ที่หลายบ้านมองข้าม ทำค่าไฟแพง จากประสบการณ์ที่ตรวจมิเตอร์มาเป็นพันๆ เครื่อง โดยระบุว่า ปัญหาค่าไฟแพง ส่วนตัวขอแยกสาเหตุหลักๆ ไว้ 2 พาร์ท คือ 1. ใช้ไฟจริง และ 2. ตัวมิเตอร์เอง

 

 

กรณีที่ 1 ใช้ไฟจริง ส่วนใหญ่มาจาก เครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟมากขึ้น จากสภาพอากาศ คือเกือบทุกบ้าน สถิติค่าไฟจะมาเพิ่มขึ้นแถวๆ เดือนมีนาคม พีคๆ เลย ก็เมษายน แล้วก็พฤษภาคม จะเบาลงหน่อย ยิ่งบ้านไหนมีเด็กจะยิ่งเห็นชัดเจน เพราะปิดเทอม

 

 

โดยสาเหตุหลัก ก็มาจากอากาศร้อน เพราะอากาศร้อน ตู้เย็นก็ทำงานเยอะ แอร์ก็ทำงานเยอะ เพราะกว่าจะทำงานถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ มันก็ใช้เวลามากกว่าตอนที่อากาศไม่ร้อน

ตู้เย็น ไม่พูดถึงไม่ได้ บางคนคิดว่ามันไม่น่ากินไฟขนาดนี้ แต่ที่เคยไปตรวจบ้านหลังหนึ่ง จังหวะเดินดูเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอยู่ เห็นเด็กน้อยในบ้านไปเปิดตู้เย้น หยิบนู้นนี่ เกือบ 10 รอบ ในระยะเวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมง แน่นอนว่ามันต้องทำงานเพิ่มขึ้น เลยวิเคราะห์ได้ว่า บ้านไหนมีเด็กที่ใช้เวลาอยู่ในบ้านเยอะ มีโอกาสที่ค่าไฟจะสูงขึ้น

 

 

นอกจากนั้น ยังเคยเจอตู้เย็นทำงานแล้วไม่ตัดวงจร คือคอมเพรสเซอร์ทำงานค้าง จากที่เคยพบ ระหว่างเฝ้า ก็จับกระแสดูด้วย เกือบ 20 นาที ไม่ตัดซักที เลยบอกเจ้าของบ้านถอดปลั๊กออกแล้วเสียบใหม่ เครื่องกลับมาทำงานเป็นปกติ ซึ่งถ้าไม่ลำบากมากนัก อุปกรณ์ในบ้าน ลองสังเกตกันหน่อย ตู้เย็นก็ลองถอดปลั๊กทิ้งไว้บ้างซัก 2-3 นาที เผื่อเซนเซอร์ทำความเย็นเพี้ยน

 

 

แอร์ เวลาเราเปิดแอร์ สมมุตตั้งไว้ 25 แล้วอากาศในห้องเราก่อนเปิดแอร์ 35 เพราะข้างนอกมันร้อน มันก็ต้องทำงานนานกว่าเดิม กว่าจะได้ 25 องศา

 

 

**แนะนำว่า ก่อนเข้าเดือนมีนาคม ล้างแอร์ซัก 1 รอบ เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มที่ในช่วงหน้าร้อนนี้ และที่สำคัญ แอร์เก่า แอร์มือสอง เอามาติดตั้งใหม่ ถ้าเลี่ยงได้เลี่ยง เพราะ มันกินไฟมาก แนะนำไปซื้อแอร์ใหม่มาติดตั้งจบกว่า ไม่ปวดประสาท

 

 

ปั๊มน้ำ เจอบ่อยๆ เลยคือ ทำงานไม่ตัด สาเหตุที่เจอบ่อย คือ ท่อน้ำรั่วจุดใดจุดหนึ่งในบ้าน และจุดรั่วส่วนใหญ่อยู่ใต้ดิน เลยหาไม่เจอ ดังนั้น ให้สังเกตการทำงานของปั๊มที่บ้านตัวเองด้วย ว่ามันทำงานแล้วตัดการทำงานหรือไม่ เพื่อเป็นการประหยัดไฟและน้ำในบ้าน

 

 

ไฟรั่ว อันนี้ทีเด็ด เพราะรั่วได้หมดทุกจุดที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟพาดผ่าน เช่น

 

• รั่วจากปั้มน้ำบ่อบาดาลรุ่นเก่าก็เคยเจอ
• รั่วจากสายไฟ ที่ลากไปกะพื้น เพื่อเปิดไฟดักแมลงก็เคยเจอ
• รั่วจากสายไฟพาดบนฝ้า เพราะไม่ใส่ท่อ ก็เคยเจอ (ใครว่าง เปิดฝ้าบ้านตัวเองดู สายไฟเดินรุงรังไหม เผื่อเจอแจ็คพอต)
• รั่วจากกาต้มน้ำ อันที่เหมือนใน 7/11 แต่อันใหญ่กว่าหน่อย อันนี้เจอที่วัด
• ตู้เย็นกินไฟ อันนี้ตรวจเจอเห็นว่ามันกินกระแสเยอะเกิน เลยถามเจ้าของบ้าน ได้ความว่า ฝนตกแล้วน้ำท่วม แล้วมันแช่อยู่ในน้ำมา 1 อาทิตย์ ทีนี้รอให้มันแห้ง แล้วมาเปิดใช้ สรุปกินไฟกว่าเดิม 3-4 เท่า

 

กรณีที่ 2 ตัวมิเตอร์ มิเตอร์มี 2 ประเภท คือ จานหมุน กับ ดิจิทัล

 

ประเภทจานหมุน ค่าไฟจะแพงจากมิเตอร์ประเภทนี้ได้คือ จดหน่วยผิด และ ขดลวดในมิเตอร์ไหม้ ซึ่งจดหน่วยผิด ตัวเราทุกคนสามารถเช็คได้เอง จากบิลค่าไฟ ว่าหน่วยในบิลมันตรงกับหน้ามิเตอร์หรือไม่ ส่วนใหญ่จะจดเกิน ซึ่งสามารถให้การไฟฟ้าแก้ไขบิลได้ ส่วนขดลวดไหม้ อันนี้คนทั่วไปอาจจะดูไม่เป็น ทางที่ดีเรียกช่างจากการไฟฟ้ามาดูชัวร์สุด

 

 

ประเภทดิจิทัล อันนี้ที่เคยเจอ เป็นกับวงจรตัวมิเตอร์เลย ต้องให้ช่างการไฟฟ้ามาตรวจถึงรู้ ไม่มีผิดพลาดเรื่องจดหน่วย เพราะมิเตอร์ดิจิตอลที่ติดตามบ้าน มันส่งหน่วยด้วยสัญญาณบลูทูธ ไม่มีทางผิดแน่นอน อันนี้ต้องดูด้วยว่ากรณีไหน คือติดตั้งมิเตอร์ดิจิตอลตั้งแต่ทีแรก แล้วค่าไฟแพง หรือเปลี่ยนมิเตอร์ดิจิตอลแล้วถึงแพง ถ้าเป็นอย่างหลัง มีโอกาสเป็นได้ว่า มิเตอร์เครื่องเก่ามันหมุนช้า หรือหมุนติดขัด ทำให้ค่าไฟถูก พอเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่มันคิดการใช้ไฟถูกต้อง ก็เลยพาลคิดไปเองว่า ใช้ไฟเท่าเดิม แต่เสียค่าไฟมากขึ้น