เด่นโซเชียล

ผู้เชี่ยวชาญเตือน 'วัตถุดิบอาหาร' 3 อย่าง ห้ามแช่ตู้เย็นเด็ดขาด อันตราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญเตือน 'วัตถุดิบอาหาร' 3 อย่างนี้ ห้ามแช่ตู้เย็นเด็ดขาด อันตรายต่อสุขภาพ ข้อมูลระบุความชื้นในตู้เย็นกระตุ้นให้สารที่เป็นพิษต่อร่างกาย

หลายคนคงอาจจะยังไม่รู้ว่า อาหาร หรือ "วัตถุดิบอาหาร" บางอย่างไม่ควรที่จะแช่หรือเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น เนื่องจากว่าจะส่งผลต่อสารบางชนิด และใน "วัตถุดิบอาหาร"ก่อให้เกิดเชื้อรา และส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งแบบไม่รู้ตัว และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก  

โดยข้อมูลดังกล่าว ถูกเปิดเผยโดย Dr.Dimple Jangda  ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของเวียดนาม กล่าวว่า หลายคนไม่รู้ว่า "วัตถุดิบอาหาร" บางชนิดไม่ควรใส่ในตู้เย็น เพราะจัดว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และหากรับประทานเข้าไปจะทำให้ร่างกายได้รับสารที่เป็นอันตรายแบบไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะนำเอา "วัตถุดิบอาหาร" 3 ชนิดนี้แช่ตู้เย็นโดนเด็ดขาด หากไม่อยากให้ร่างกายให้รับสารพิษแบบไม่รู้  
 

โดย "วัตถุดิบอาหาร" 3 อย่างที่ไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของเวียดนาม ระบุเอาไว้ดังนี้  


กระเทียมปอกเปลือก  ห้ามเอากระเทียมปอกเปลือกแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด เพราะมันจะขึ้นราไวกว่าปกติ เพราะความชื้นในตู้เย็นจะเร่งการเจริญเติบโตของเชื้อราในกระเทียมปอกเปลือก โดยราเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง ซึ่งให้เกิดมะเร็งได้ง่ายขึ้น

 

 

อีกหนึ่ง "วัตถุดิบอาหาร" ที่ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็น คือ  หัวหอม  โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรนำหัวหอมไปแช่ไว้ในตู้เย็น แต่ควรวางหัวหอมไว้ในตู้หรือชั้นวางที่แห้ง และต้องห่างจากความชื้น ซึ่งวิธีนี้สามารถยืดอายุการเก็บรักษา หัวหอม และป้องกันไม่ให้เน่าเสียได้ 

 

 

อย่างไรก็ตามการเก็บ หัวหอม ไว้ในตู้เย็นอย่างไม่ถูกต้อง จะทำให้หัวหอมจะดูดซับแบคทีเรียที่อยู่รอบๆ และทำให้ง่ายต่อการเน่าเสีย แม้ว่าภายนอกหัวหอมจะไม่ปรากฏเชื้อรา แต่อาจดูดซับแบคทีเรียจำนวนมากจากตู้เย็นจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ 

 

 

"วัตถุดิบอาหาร" อันสุดท้ายที่ไม่ควรนำเข้าไปแช่ในตู้เย็น คือ  ขิงสด  เพราะอาหารประเภทนี้สามารถขึ้นราได้เร็วมากเมื่อเก็บในตู้เย็น เชื้อราที่เติบโตบนขิงเชื่อมโยงกับภาวะไตและตับวาย แม้ว่าขิงจะส่งผลต่อดีต่อร่างกาย แต่หากมีการเก็บรักษาที่ไม่ได้ ก็จะส่งผลอันตรายต่อสุขภาพได้ 

 

 

ที่มา: vtcnews

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ