ดราม่า 'หมอ' ถูก ฝรั่ง ทำร้ายร่างกาย สู่พิรุธ ธุรกิจ ศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต

กลายเป็นประเด็นดราม่าในสังคม หลังเกิดเหตุการณ์ “หมอ” โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในภูเก็ต ถูก “ฝรั่ง” เจ้าของปางช้าง ทำร้ายร่างกาย ขณะนั่งเล่นบริเวณบันได หน้าวิลล่าหรู ริมหาดสาธารณะของภูเก็ต แถมถูกภรรยาคนไทย ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่จากประเด็นทำร้ายร่างกาย นำไปสู่การจับพิรุธ ธุรกิจศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต และการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ คมชัดลึกออนไลน์ สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นแบบเข้าใจง่ายๆ 

1-พ่อหมอ หญิงรายหนึ่งในภูเก็ต โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม หลังลูกสาว ซึ่งเป็นหมอ ถูกชายชาวต่างชาติ ทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะเข้ากลางหลัง ขณะนั่งตรงบันได ที่ปลูกลงมาจากวิลล่าหรู หมายเลข 23 บริเวณชายหาดแหลมยามู

 

 

2-ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว ถูกระบุว่า เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต หนำซ้ำ เธอยังถูกภรรยาคนไทย พูดจาดูถูก “รู้มั้ยชั้นไม่ได้จ่ายค่าเช่าวิลล่าเดือนละล้านบาท มาให้พวก..นั่งหน้าบ้าน..แถมภรรยาคนไทย ยังอ้างลูกเป็นตำรวจ และรู้จักนายตำรวจใหญ่ จะเอาใครเข้าคุกก็ได้

 

 

3-เมื่อมีการแจ้งตำรวจ กลับถูกบอกว่า ฝ่ายแพทย์หญิง เป็นคนบุกรุก มีโทษหนักกว่าต้องติดคุก 4 ปี ส่วนฝ่ายฝรั่ง แค่ทำร้ายร่างกายจ่ายเงินก็จบ โดยตำรวจนายหนึ่งบอกว่า ต้องเคลียร์ให้ยอมความกันให้ได้ พยายามหว่านล้อม เพื่อให้เรื่องไม่ต้องถึงโรงพัก

4-หลังจากมีการโพสต์เรื่องราวออกไป ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เกี่ยวกับพฤติกรรมของชายชาวต่างชาติ ที่มาอยู่บนแผ่นดินไทย ทัวร์ลงฉ่ำๆ ที่ส่วนใหญ่บอกว่า ไม่ควรมีใครที่จะมาโดนเรื่องแบบนี้ ไม่ควรจะมีคนไทยคนไหน มาเจอเรื่องแบบนี้

 

 

5-ด้านพ่อและตัวแพทย์หญิง ก็พร้อมเอาเรื่อง และจะต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ที่ถูกเหยียดหยามเรื่องเพศ ภาพหญิงไทย รวมทั้งไม่อยากให้คนไทยที่มาอยู่ภูเก็ต หรือคนภูเก็ต เจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเธอ โดยเฉพาะกับคำพูดที่ว่า “คนไทยขอโทษต่างชาติได้ แต่ฝรั่งจะไม่ขอโทษคนไทย” นั่นเป็นสาเหตุให้เธอ จะต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด

 

ไม่ได้เตะ แต่ล้มใส่?

 

 

6-ชายชาวต่างชาติ เจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างกับทนาย ออกโรงชี้แจงว่า ไม่ได้ถีบคุณหมอตามที่เป็นข่าวออกไป แต่ตัวเองสะดุดล้ม แล้วขาไปโดนคุณหมอ และตัวเองมีคลิปหลักฐานที่ถ่ายไว้ ส่วนพ่อของคุณหมอ ก็แย้งว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะฝรั่งน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม น่าจะไม่ใช่แค่จุก แต่น่าจะถึงขั้นล้มไปทั้งตัว

 

 

จากประเด็นทำร้ายร่างกาย สู่พิรุธธุรกิจปางช้าง-วิลล่าหรู

 

 

7-เพจดังเริ่มเปิดพิรุธ ธุรกิจปางช้างภูเก็ต ที่ชายชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ ที่ใช้คำว่าศูนย์อนุรักษ์ มีช้างที่ซื้อมาอนุรักษ์แค่ตัวเดียว ที่เหลือคือการเช่าช้างมาประกอบธุรกิจศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต เพื่อเรียกรับเงินบริจาค แถมสนนราคาเรียกเก็บเงินค่าเข้า สูงถึงหัวละ 1,900-2,500 บาท

 

 

8-ขณะที่ทัวร์บางส่วน ก็มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบพื้นที่ชายหาดที่ตั้งวิลล่าหรู ว่ามีที่มาอย่างไร บันไดที่ยื่นลงไปชายหาดนั้น รุกที่สาธารณะหรือไม่ รวมถึงต่อว่าการทำหน้าที่ของตำรวจที่เข้าไประงับเหตุด้วย

 

9-งานเข้าทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ อ.ถลาง และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบ บันไดวิลล่าหรู ริมชายหาด พบว่า บันไดเจ้าปัญหา รุกลงในที่สาธารณะ สั่งรื้อบันไดภายใน 3 วัน

 

 

10-งานเข้าซ้ำอีก เมื่อผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต ตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาในภูเก็ต ผ่านคณะกรรมการ โดยมีตรวจคนเข้าเมืองเป็นเลขาฯ ถ้าเข้าข่ายประพฤติตนไม่เหมาะสม สั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางทันที