เด่นโซเชียล

สาวป่วย 'มะเร็ง' จัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งก่อนตาย ญาติมาเพียบ ก่อนเกิดเรื่องช็อก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สตรองของแท้ สาวป่วย 'มะเร็ง' จัดปาร์ตี้เลี้ยงส่งก่อนตาย เพื่อนกับญาติมากันเพียบ ก่อนเกิดเรื่องสุดช็อก ทำคนใจหายทั้งงาน

กลายเป็นไวรัลสุดเศร้าในโลกออนไลน์ หลังมีสาวรายหนึ่งป่วยเป็น มะเร็ง และโพสต์ภาพวาระสุดท้ายในชีวิต โดยเธอได้จัดปาร์ตี้ส่งท้ายก่อนตาย และเชิญเพื่อนกับญาติให้มาร่วมงานเลี้ยงแสนเศร้าในครั้งนี้

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์เรื่องสาวรายหนึ่งที่เธอป่วยเป็นโรค มะเร็ง และได้จัดปาร์ตี้เพื่อฉลองเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต เรื่องราวเกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ มิเชลล์ หญิงวัย 29 ปี จัดงานศพให้ตัวเอง เชิญแขกญาติและเพื่อนสนิท 30 คน มาร่วมงาน เธอป่วย มะเร็ง ในรังไข่ระยะสุดท้าย

 

สาวป่วยมะเร็ง

 

มิเชลล์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น มะเร็ง รังไข่รูปแบบที่พบได้ยากในปี 2021 ขณะที่อาการของเธอแย่ลงในปลายปี 2022 เธอจึงตัดสินใจพักฟื้นที่บ้านโดยได้รับการสนับสนุนจาก HCA Hospice Care (เป็นหนึ่งในองค์กรการกุศล 8 แห่งในประเทศสิงคโปร์ ที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่บ้าน) โดยเธอได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่กับครอบครัว

 

สาวป่วยมะเร็ง

 

ก่อนป่วย มะเร็ง มิเชลล์ เป็นคนชอบวิ่ง และปั่นจักรยาน เธอเปิดบริษัทเกี่ยวกับ อุปกรณ์สวมใส่ และเปิดสาขาที่ 2 ขณะที่เธอกำลังเป็น มะเร็ง อยู่ เธอทำตามแรงบันดาลใจ มิเชลล์ กล่าวว่า การรู้จักตัวเองในฐานะมนุษย์เป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน และฉันต้องการเรียกงานนี้ว่า งานศพที่ยังมีชีวิต เพราะฉันคิดว่าความตาย เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว

 

สาวป่วยมะเร็ง

 

มิเชลล์ และทีม HCA ใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการวางแผนจัดงานศพ รวมถึงเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เชิญวงดนตรี วงโปรดของเธอมาแสดง และแบ่งปันหนังสือเล่มโปรดของเธอกับเพื่อนๆ บรรยากาศเหมือนกับงานวันเกิด ไม่มีความโศกเศร้า ทุกคนสนุกสนานคุยกัน มิเชลล์ แจ้งแขกและเพื่อนๆ ให้เขียนจดหมายลาครั้งสุดท้าย และให้นำหนังสือมาแลกกันกับคนอื่นๆ

 

มิเชลล์ กล่าวขอบคุณเพื่อนของเธอที่มาร่วมงานศพและกล่าวว่า "ขอบคุณที่ทำให้ฉันมีความสุขมาก ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ได้ยินทุกเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม" หลังจากนั้นอีก 10 วัน มิเชลล์ ได้เสียชีวิตอย่างสงบหลังจากที่ได้จัดปาร์ตี้งานศพให้กับตัวเอง

 

สาวป่วยมะเร็ง

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :  World Forum ข่าวสารต่างประเทศ 

 

 

 

 

 

 

logoline