เด่นโซเชียล

'ย้อมผม' บ่อยเสี่ยงตาย ปิดหงอกทุกเดือนเสี่ยงโรคนี้ เผยวิธีย้อมให้ปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอเตือน 'ย้อมผม' บ่อยเสี่ยงตาย ปิดหงอกทุกเดือนเสี่ยงโรคนี้ เช็กด่วนส่วนผสมสารอันตรายเพียบ เผยวิธีย้อมให้ปลอดภัย

วันที่ 12 ก.พ. 2567 กรมการแพทย์ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เตือนคนที่ชอบ ย้อมผม ปิดหงอกทุกเดือน ต้องระวังให้ดีเพราะอาจส่งผลเสียต่อตับและไต สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เผยว่าผลิตภัณฑ์ปิดผมขาว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพงมากนัก นั่นก็คือยาย้อมผม เคมี หรือ Permanent hair dye

 

ย้อมผม ส่งผลเสียอย่างไร นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สีผมธรรมชาติโดยเฉพาะคนไทยและ คนเอเชียทั่วไปจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเกือบดำ สีดำในเส้นผมธรรมชาติมาจากเม็ดสีเมลานิน ที่สร้างจากเซลล์เมลาโนไซต์ในรากผม

 

ซึ่งผมจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวเนื่องจากการทำงานของเมลาโนไซต์ที่ลดลง และมีจำนวนน้อยลงตามอายุที่มากขึ้นและกรรมพันธุ์ สำหรับผู้ที่ต้องการปิดผมขาวอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ปิดผมขาว

 

ย้อมผล

 

 

ซึ่งการ ย้อมผม บ่อยๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังบริเวณศีรษะ และก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยอาการแพ้นั้นอาจเป็นผื่นเล็กน้อยบริเวณที่สัมผัส หรืออาจมีการแพ้ในระดับรุนแรง ผิวหนังมีอาการผื่นบวมคัน มีน้ำเหลืองซึม หน้าบวม ตาบวม ต่อมน้ำเหลืองบริเวณศีรษะและคอบวมโต โดยอาจมีไข้ร่วมด้วยได้ในบางราย

 

ย้อมผม

 

แพทย์หญิงนันท์นภัส โปวอนุสรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ย้อมผม  หรือ Permanent hair dye มีส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้

 

  1. Developer คือสารที่ใช้ล้างสีผมเดิม ส่วนประกอบหลักคือ hydrogen peroxide ทำหน้าที่กัดสีผมเดิมออก เพื่อให้ได้สีผมใหม่ที่มีความสดและสม่ำเสมอ และ hydrogen peroxide นี้นอกจากทำให้เส้นผมแห้งเสียและยังระคายเคืองหนังศีรษะด้วยความที่เป็นด่างสูง
  2. Alkaline agent คือสารที่ทำลายโปรตีนเส้นผม ทำให้เกล็ดผมเปิดออกเพื่อให้สีย้อมเข้าไปถึงแกนของเส้นผมได้ง่าย ส่วนประกอบหลักคือแอมโมเนีย เมื่อเส้นผมต้องสัมผัสกับแอมโมเนียบ่อยๆ จะทำให้ผมขาดร่วงง่าย
  3. Color คือสารย้อมหลักๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ PPD (para-phenylenediamine) และ PTDS (para-toluenediamine sulfate) ซึ่งเป็นสารย้อมทางเลือกสำหรับใครที่แพ้ PPD แต่สามารถแพ้ข้ามชนิดกันได้ สีย้อมที่ยิ่งเข้มดำยิ่งมีสารย้อมที่เข้มข้นกว่าสีอ่อน      
  4. ส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งแล้วแต่แบรนด์ต่างๆ จะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อจุดประสงค์การขาย เช่น สารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ น้ำหอม และสารกันเสีย

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ป่วยที่มีการสัมผัสกับสาร ย้อมผม ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง มีค่าเอนไซม์ตับที่เพิ่มขึ้น และมีผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมจากการสัมผัสสารย้อมเช่นกัน ดังนั้นหากเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำสีผม ควรยืดระยะเวลาระหว่างการทำสีแต่ละครั้งให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดการสัมผัสกับสารที่ก่ออันตรายต่อร่างกายให้น้อยที่สุด

 

ย้อมผม

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการแพทย์

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ