ปัญหา เพื่อนบ้าน เข้าบุกยึด "บ้าน" เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 โดยเจ้าของบ้านคือ คุณอาย และคุณซัน ได้รับ ของขวัญแต่งงานจากอากู๋เป็น "บ้าน" หลังหนึ่ง ซึ่งไม่มีคนอยู่มา 30 ปี ใน ปี 2555 บ้านร้าง ยังคงอยู่ในสภาพเก่า มีการเก็บของไว้บริเวณหน้าบ้านจำนวนมาก รวมทั้งมีการล็อกกุญแจประตูเอาไว้อีกด้วย ส่วนซอยข้างบ้านก็ยังคงโล่ง ไม่ได้มีการเชื่อมต่อหรือยุ่งเกี่ยวกันระหว่างบ้าน 2 หลัง
แต่เมื่อปี 2566 เจ้าของบ้าน จะรีโนเวทเป็น "บ้าน" หลังใหม่ กลับเจอ เพื่อนบ้าน เอาของเข้าไปอยู่ ต่อเติมโครงเหล็ก เปลี่ยนรั้ว, หน้าต่าง เข้าไปอาศัยโดยไม่ได้แจ้งเจ้าของบ้าน ต่อมาเพื่อนบ้านรายนี้ชี้แจงว่าจำเป็นต้องทำ เพราะคนในบริษัทไม่มีที่กินข้าว โดยพร้อมจะถูกดำเนินคดี ยืนยันว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ในราคา 1.3 ล้าน แต่ถ้าเจ้าของบ้านไม่ตกลงก็ยืนดีย้ายออก
"บ้าน" หลังดังกล่าวอยู่ในซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 หลังจากที่เป็นข่าว เพื่อนบ้าน ที่มายึดบ้านก็ยอมย้ายออกไป และเจ้าของบ้านตัวจริงก็ล็อกบ้านเพื่อหวังจะกลับมาตกแต่งและทำเรือนหอ ส่วนในทางคดีนั้น ต่างฝ่ายต่างมีการฟ้องกัน โดยที่เจ้าของบ้านได้แจ้งข้อหาเพื่อนบ้านฐานบุกรุก แต่เพื่อนบ้านกลับไปยื่นฟ้องแพ่งเจ้าของบ้านว่าได้ครอบครองปรปักษ์
แต่ล่าสุด เจ้าของบ้าน ได้กลับเข้าไปดู "บ้าน" ของตัวเองอีกรอบ และพบว่า บ้านหลังนั้นโดนยึดอีกรอบ และรอบนี้หนักกว่าเดิม เพราะเพื่อนบ้านได้ตัดกุญแจบุกรุกบ้าน พร้อมกับการการทาสีบ้านเป็นสีฟ้า และเปิดบ้านเป็นร้านขายไก่ปิ้ง นอกจากนี้ พื่อนบ้าน ได้มีการติดป้ายหน้าบ้านว่า บ้านหลังนี้ตนได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย บุคคลใดเข้ามากระทำการใด ๆ ในบ้านและที่ดินถือว่ามีความผิดฐานบุกรุก จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ทั้งที่ศาลยังไม่ได้มีคำตัดสิน
เจ้าของบ้าน หลังดังกล่าวได้เข้าแจ้งความพร้อมกับทนายเดชา โดย ทางทนายเดชา โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ ว่า
“วันนี้หลานชายหลานสะใภ้ของอากู๋เจ้าของบ้านซึ่งถูกคนข้างบ้านบุกรุกเข้ามายึดบ้าน เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว และ เจ้าของบ้านได้ไปแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาบุกรุกต่อมา ผู้ต้องหา ไปยื่นคำร้องต่อศาลขอครอบครองปรปักษ์ และหลังจากนั้นผู้ต้องหาซึ่งขนของออกจากบ้านไปแล้วกลับเข้ามายึดบ้านของผู้เสียหายอีกครั้งหนึ่งและไม่ยอมให้เจ้าของบ้านเข้าบ้าน อ้างว่าเป็นบ้านของตัวเองจึงไปแจ้งความอีกครั้งที่สน. โคกคราม”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง