อาการล่าสุด ผู้โดยสาร 'การบินไทย' ถูกกาแฟหกใส่ ผิวเป็นตุ่มน้ำพอง

จากที่มีผู้โดยสารรายหนึ่ง เดินทางกับ "การบินไทย" ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเหตุการณ์ ที่โดยสารเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไป จ.เชียงใหม่ และแอร์โฮสเตสทำกาแฟร้อนหกใส่ตัวและแขนจนได้รับบาดเจ็บ แถมยังมาปฐมพยาบาลช้า แอร์โฮสเตสยังอ้างอีกว่าบนเครื่องบินไม่มีกล้องวงจรปิด ทางสายการบินไม่สามารถรับผิดชอบได้ หลังโพสต์ดังกลาวถูกแชร์ไป ทัวร์ก็ลงสนั่นทันที

 

ต่อมาวันที่ 10 ธ.ค. 2566 "การบินไทย" ได้ชี้แจงว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง โดยบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยู่ระหว่างประสานผู้โดยสารเพื่อรับทราบรายละเอียด ติดตามอาการบาดเจ็บและการรักษาพยาบาลของผู้โดยสารอย่างใกล้ชิด โดยบริษัทฯ ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมถึงนำเสนอมาตรการเยียวยาให้ผู้โดยสาร

 

 

ล่าสุดผู้โดยสารที่ใช้บริการ "การบินไทย" และถูกกาแฟหกใส่ ออกมาโพสต์อัปเดตอาการของตัวเองว่า ตรงหน้าอกรอยแดงลดลงครับ แต่ยังเป็นปื้นแดง ส่วนที่ข้อพับแขนค่อนข้างรุนแรงกว่า เนื่องจากเป็นส่วนที่สัมผัสโดนน้ำกาแฟร้อนโดยตรง 

 

วันแรกหลังมีตุ่มน้ำพองขึ้นมา ก็ระวังการขยับแขนเอามากๆ เพราะกลัวมันแตก ละในคืนนั้นหลังหมดฤทธิ์ยาแก้ปวด ขยับนิดก็ปวด ขยับอีกนิดก็กลัวจะทับตุ่มน้ำจนแตก คืนนั้นผมได้ยานอนหลับที่พกติดตัวมา เลยนอนได้ถึงเช้าครับ

 

 

วันต่อมามีอาการปวดทุเลาลงมากครับ (ตุ่มน้ำพองยังไม่แตก) ผมปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่ง เกี่ยวกับการทำแผลลักษณะนี้ ได้แนะนำอุปกรณ์ช่วยลดความปวดได้แม้ตุ่มน้ำจะแตกออก เป็นแผ่นซิลิโคนปิดแผล 

 

เย็นวันนั้นเอง ผมตัดสินใจไปที่ รพ.กรุงเทพเชียงใหม่ ได้พบคุณหมอศัลยกรรม และทำแผลให้ผมเป็นอย่างดี ได้เจาะเอาน้ำออกก่อนที่มันจะแตก แล้วแปะแผ่นซิลิโคนปิดแผลไว้ แต่ปัญหาตอนนี้คือ คันครับ แต่จะเกาไม่ได้เด็ดขาด กลัวแผลจะแย่ไปกันใหญ่ แผลต้องได้รับการระบายอากาศ แต่ห้ามเปียกน้ำ สิ่งที่กังวล คือ แผลเป็น 

 

 

ในส่วนความรับผิดชอบของ "การบินไทย" 2 วัน ต่อมาหลังเกิดเหตุ ทางการบินไทยได้มีการประสานงานกลับมา และนำช่อดอกไม้มาให้ เพื่อขอโทษ และสอบถามอาการเจ็บป่วย 
และในวันนี้เอง ทีมผู้บริหารสายการบินได้มาดูแลต้อนรับตั้งแต่ออกจากเครื่องบิน เพื่อสอบถามอาการ ความไม่สบายใจ ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว

 

ผมได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินตลอดจนปัญหาการประสานงานระหว่างทาง พบว่าปัญหามันมีจุดบกพร่องเยอะมากเลยครับ

• หัวหน้าลูกเรือไม่ทราบเรื่อง
• ลูกเรือไม่ประสาน หรือรายงานเหตุบนเครื่อง
• ไม่มีลูกเรือที่มีประสบการณ์เพียงพอในการควบคุมดูแลบนเครื่องบิน
• มีการพูดถึงคำว่า ไม่มีหลักฐาน ออกมาหลายครั้งจากสายการบิน 
• ไม่ได้ทำตามวิธีการเสิร์ฟของร้อนที่ควรจะเป็น
• มีการสอนปฐมพยาบาลจริง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ ไม่สามารถดูแล ควบคุมสถานการณ์ได้ (มีความรู้ แต่ไม่สามารถประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์จริงบนเครื่องบินได้)
• ไม่มีแนวทางสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่พบได้บ่อยๆ เช่น ของเหลวร้อนหกใส่ผู้โดยสาร
• ความห่วงใยเกิดขึ้น ภายหลังเรื่องเริ่มเป็นกระแส มีการติดต่อสอบถามจากสายการบินว่า ทำไมถึงถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลที่เชียงใหม่จากท่าอากาศยาน  (ภาคพื้นดินที่เชียงใหม่ไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยบนเครื่องบิน เพราะไม่ได้รับรายงานจากลูกเรือ)
• สิ่งสำคัญคือการปลูกฝังค่านิยมองค์กร service mind 

 

ผู้บริหารได้รับปากกับผมว่าจะทำให้ดีขึ้น และไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเช่นวันนั้นอีก ไม่ว่ากับใครก็ตาม เรื่องค่าเสียหายยังไม่ได้พูดถึง ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ได้ให้เบอร์ติดต่อผู้ประสานงานไว้แล้ว เบื้องต้นแจ้งว่าให้เก็บใบเสร็จ เพื่อทำการเคลมในภายหลังครับ ผมได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว