'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' ตอบสัมพันธ์ 'มินนี่' เริ่มเมื่อไหร่ ชาวเน็ต เมนต์สนั่น

สะเทือนวงการสีกากี หลังจากที่มีการบุกค้นบ้านพักของ 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายหลังมีการพบว่า คนสนิท มีเอี่ยว เว็บพนันออนไลน์ จนกลายเป็นการออกหมายจับตำรวจ 8 นาย ก่อนที่จะมีการสั่งเด้งให้เข้าไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งภายหลังที่มีการออกหมายจับ บนโลกโซเชียลมีการค้นหาข้อมูลการเชื่อมโยง 1 ในนั้น คือ 'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' ที่มีภาพคู่กับ 'มินนี่' เจ้าแม่ เว็บพนันออนไลน์ ทำให้ใครหลายคนสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่ามีมากน้อยแค่ไหน

 

ล่าสุด 'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' ได้ออกมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับ 'มินนี่' เจ้าแม่ เว็บพนันออนไลน์ โดยยอมรับรู้จักกับ 'มินนี่' ตั้งแต่ปี 2563 ตอนที่ไปเป็นผู้กำกับที่จังหวัดเลย เจอกันที่งานเลี้ยงปลายปีก่อนจะย้ายไปที่ขอนแก่น 2-3 เดือนเจอกัน 2-3 ครั้ง แต่ตอนนั้นรู้จักแม่ของ 'มินนี่' ก่อน เพราะแม่ 'มินนี่' เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจที่ตนทำงานอยู่ ขณะไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์ หลังจากนั้นก็ย้ายมาขอนแก่น

 

 

ผ่านไป 2 ปี ก็ไม่เคยได้ติดต่ออะไรกันเลย จนมาเจอกันช่วงต้นปี 2566 ที่งานเลี้ยงบ้าง ที่ร้านอาหารบ้าง สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดต้องให้ 'มินนี่' ออกมาพูด เพราะได้รับความเสียหายเช่นกัน ส่วนตัวมินนี่เองชอบถ่ายรูปลงโซเชียล ก็ได้มีการเตือนบ่อยๆ เพราะกลัวภรรยาเห็นเช่นกัน ส่วนเว็บพนันนั้นยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง สำหรับบัญชีที่มีอยู่ตลอดชีวิตก็มีแค่บัญชีเดียวตั้งแต่รับราชการ

 

 

ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ชื่อเสียงวงค์ตระกูลเสียงหาย ทำให้ภรรยาลูกได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่ฝ่ายตน ฝ่ายครอบครัว 'มินนี่' เองก็เสียหาย รวมถึงผู้บังคับบัญชา ยืนยันต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากตัวเอง

 

 

 

โดยในคลิปที่บน โลกโซเชียล ได้ออกมาแชร์กันนั้น มีตอนหนึ่งที่ 'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' กล่าวยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไปว่า "ผมเป็นลูกผู้ชายต้องรับผิดชอบว่า ในสิ่งที่ผมรู้จักกันกับเขา มีความสัมพันธ์ แต่สัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน ให้ผู้หญิงตอบ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันกระทบต่อตัวภรรยาและลูก สิ่งที่มันเกิดขึ้น มันเกิดจากความมักง่ายไม่มีวินัย และความโลเลเลินเล่อ ทำให้เผลอไปมีการคบหากับผู้หญิงอีกคน"

 

 

ภายหลังที่ 'พ.ต.อ.ภาคภูมิ' ออกมากล่าวยอมรับ บน โลกโซเชียล ก็ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง ชาวเน็ต หลายแห่ออกมาคอมเมนต์ หลายคนไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเน้นไปทางเสียงเดียวกันว่าหากไม่มีหลักฐานออกมาก็คงไม่ออกมายอมรับแบบนี้แน่