เด่นโซเชียล

เกือบตาย กิน 'อาหาร' ร้านดัง เจอ 'หมึกบลูริง' ร้านไม่รับผิดชอบ ยึดของกลางทิ้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกือบตาย ไปกิน 'อาหาร' ร้านดัง เจอ 'หมึกบลูริง' ผ่านไป 2 ชั่วโมง อาเจียนแน่นหน้าอก ร้านไม่รับผิดชอบ แถมยึดของกลางไม่ให้ไปตรวจ

"หมึกบลูริง" เป็นหมึกยักษ์ขนาดเล็ก แต่มีพิษแรงที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีจุดเด่นที่ต่างจากหมึกทั่วไป ตรงที่มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน กระจายตามลำตัวและหนวด มีพิษร้ายแรงมากผสมอยู่ในน้ำลาย ผู้ป่วยที่ได้รับพิษจาก "หมึกบลูริง" มีอัตราตายสูงถึงร้อยละ 50-60

 

 

 

 

 

พิษที่เกิดจาก "หมึกบลูริง" เกิดอย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที ผู้ป่วยที่ได้รับพิษปริมาณมาก ระบบประสาทส่วนกลางจะไม่ทำงาน หายใจไม่ออกเนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 4-6 ชั่วโมง ร้าน "อาหาร" จึงต้องระมัดระวังอย่างมากในการตรวจสอบ เพราะถ้าเมนูที่ใช้หมึก เกิดมี "หมึกบลูริง" ติดมาด้วยอาจะทำให้ลูกค้าได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

 

หมึกบลูริง

 

วันที่ 29 ส.ค. 2566 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ลงภาพเมนู "อาหาร" ในภาพมีหมึกเป็นส่วนประกอบในเมนู แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าลักษณะของมันคล้ายกับ "หมึกบลูริง" ด้วยความสงสัยจึงโพสต์ถามชาวเน็ต ว่าใช่ "หมึกบลูริง" หรือไม่

 

หมีกบลูริง

 

จากนั้นเจ้าของโพสต์ได้บอกเพิ่มเติมว่า ได้ทักไปสอบถามทางร้านไปพร้อม จะขอคุยกับพนักงานหรือผู้จัดการ ทางร้านกลับปฏิเสธและบอกว่า ถ้าเป็น "หมึกบลูริง" มันต้องมีสีฟ้า ซึ่งทำให้หลายคนงง เพราะจากสภาพมันสุกขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าสีของมันต้องเปลี่ยนไปจากเดิม

 

ร้านอาหาร

 

อีกทั้งร้านยังริบของกลางไม่ให้เอาไปตรวจสอบ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ต้องนำไปให้หมอวินิจฉัย เพื่อทำการรักษาให้ถูกต้องแม่นยำ ต่อมาร้าน "อาหาร" ก็เอาไปตรวจสอบเองด้านในครัว แล้วก็บอกว่ามีนักวิชาการมาตรวจสอบแล้ว เป็นหมึกที่ไม่มีพิษ จากสถานการณ์ทำเจ้าของโพสต์รู้สึกไม่พอใจมากๆ มองว่านี่เป็นการแก้ปัญหาแบบลวกๆ เพื่อให้ร้านไม่ต้องรับผิดชอบ

 

ร้านอาหาร


 

หลังจากเรื่อง "หมึกบลูริง" ดังกล่าวถูกแชร์ไป ชาวเน็ตต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือ "หมึกบลูริง" แน่นอน ซึ่งชาวเน็ตต่างเข้ามาต่อว่าร้านมากมาย มองว่าทำร้านทำเหมือนปัดความรับผิดชอบ แนะนำให้ร้องสื่อเพื่อเอาเรื่องให้หนัก

 

ซึ่งเจ้าของโพสต์บอกว่าเพื่อนเจ้าของโพสต์กินไปตัวหนึ่ง พอจะคีบตัวที่ 2 มากินกลับเห็นลายจึงส่งมาถามก่อน ชาวเน็ตจึงแนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ทั้งนี้เพื่อนเจ้าของโพสต์โทรหาหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นช่วงนอกเวลาทำการ

 

ร้านอาหาร

 

เมื่อเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงอาการเริ่มออก เพื่อนเจ้าของโพสต์เริ่มอาเจียน ส่วนแฟนเจ้าของโพสต์ที่ไปกินด้วยกันก็เริ่มแน่นหนาอก ขณะที่เพื่อนเจ้าของโพสต์รักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาล ครอบครัวก็ติดต่อทางร้าน "อาหาร" ซึ่งอยู่แถวกาญจนา เพื่อไปเอาเรื่องแทนผู้เสียหาย แต่ทางร้านกลับตอบว่าทิ้งหมึกไปแล้ว 

 

 

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ