เด่นโซเชียล

'หนุ่ม' พ่อค้า ชาวมาเลเซีย รีวิว 'สะตอ' ไทย ฟัน รายได้ สุดว้าว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'หนุ่ม' พ่อค้า ชาวมาเลเซีย รีวิว แนะวิธี สร้างรายได้ นำเข้า 'สะตอ' จาก ประเทศไทย ฟันกำไร สุดว้าว เห็นตัวเลขแล้ว อยากทำตาม

กำลังเป็นกระแสฮือฮาในประเทศมาเลเซีย เมื่อ “หนุ่ม” รายหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อค้า รีวิวแนะนำ การสร้างรายได้จาก “สะตอ” ที่นำเข้าจากประเทศไทย ที่เมื่อฟังตัวเลขแล้ว จะต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว เพราะเขาสามารถสร้างรายได้จากการขายสะตอ ตกเดือนละ 4.5 แสนบาทต่อเดือน

สะตอ

โมห์ด ไซนี “หนุ่ม” พ่อค้า ชาวมาเลเซีย ได้โพสต์คลิปรีวิว แนะนำวิธีสร้างรายได้จาก “สะตอ” หรือที่คนมาเลเซียเรียกว่า “เบไต” (ถั่วเหม็น) จนทำให้เขาร่ำรวย มีรายได้สูง โดยเขานำเข้าสะตอจำนวนมาก มาจากเบตง ประเทศไทย ซึ่งเคล็ดลับคือ เขาจะขายในราคา RM30 (แพ็คละ 30 บาท) ซึ่งถูกกว่าราคาในตลาดมาเลเซีย ที่ขายอยู่ที่ RM50-60/แพ็ค เพราะเขาจะสต็อกของไว้เยอะ เมื่อฤดูที่สะตอในมาเลเซียขาด เขาสามารถขายในราคา RM100/กิโลกรัม ซึ่งทำกำไรได้ 60 ริงกิตต่อแพ็ค/กิโลกรัม (สินค้ามีแพ็ค 1/2/5 กิโลกรัม)

 

 

 

พ่อค้าชาวมาเลเซีย บอกว่า เมื่อถึงฤดูสะตอขาดในมาเลเซีย ราคาจะอยู่ที่ RM100 หรือ 800 บาท/กิโลกรัม หากขาย 100 กิโลกรัม เขาจะทำกำไรได้ RM 6,000  ริงกิต หรือ 4.5 แสนบาท/เดือน แต่ก็ต้องมีปัจจัยอื่นๆ ในการขายด้วย คือ ต้องขายเก่ง รู้การทำตลาด โดยเขาได้รับคำสั่งจากผู้ประกอบการ และร้านอาหาร อีกทาง

         หนุ่มมาเลเซียรีวิวสะตอไทยสร้างรายได้

หนุ่ม พ่อค้ามาเลเซีย เล่าว่า เขาทำธุรกิจนี้มา 5 ปีแล้ว โดยมีตู้แช่เย็น 5 ตู้ ซึ่งปัจจุบันสะตอของเขาทั้งหมด สั่งมาจาก เบตง ประเทศไทย โดยจะซื้อครั้งละ 300 กิโลกรัม นำมาปอกเปลือก ล้างน้ำ เก็บในสต๊อกแช่เย็น เพราะหากแช่เย็นจะเก็บไว้ได้นาน สด และสภาพดี  ซึ่งในช่วงฤดูกาลสะตอล้นตลาด เขาซื้อสะตอเม็ดเล็ก ได้เพียง  RM12/กิโลกรัม เท่านั้น

 

 

 

ทั้งนี้ ชาวมาเลเซีย นิยมบริโภค สะตอ แต่พื้นที่ปลูกไม่มาก สะตอที่ขายในตลาดส่วนใหญ่มาจากเพื่อนบ้าน

        หนุ่มมาเลเซียรีวิวสร้างรายได้จากสะตอไทย

 

ภายหลังจากที่ โมห์ด ไซนี โพสต์คลิปวีดีโอ มีชาวเน็ตมาตอบความเห็นจำนวนมาก อาทิ ชายคนหนึ่งบอกว่า กำไรที่ได้ยังไม่หัก ค่าไฟ ค่าขนส่ง ต้นทุน หรือ ตัวเขาเองก็ตุนสะตอ 200 กิโลกรัมไว้เหมือนกัน รวมทั้ง ชายคนหนึ่งบอกว่า ไม่น่าเชื่อ ถั่วเหม็น (สะตอ) จะเป็นอาหารสร้างกำไรได้ขนาดนี้

 

 

 

 

 

ขอบคุณที่มาและภาพจาก : World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ