เด่นโซเชียล

สรุปดราม่า 'ครูกายแก้ว' ชาวเน็ตเสียงแตก บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไหว้ผี

16 ส.ค. 2566

สรุปดราม่า 'ครูกายแก้ว' บรมครูเรื่องเวทย์ ชาวเน็ตเสียงแตก บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไหว้ผี ด้านผู้เชี่ยวชาญวิจารณ์สนั่น

กำลังเป็นกระแสที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้สำหรับ "ครูกายแก้ว" ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว โดยมีผู้ศรัทธาเข้าร่วมพิธีเบิกเนตร เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จนล่าสุดกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ 

 

 

 

 

 

ชาวเน็ตต่างสงสัยถึงที่มาของ "ครูกายแก้ว" ว่าเป็นเทพหรือมาร จนเกิดดราม่าถกเถียงว่าจริงๆ แล้วควรกราบไหว้บูชาหรือไม่ แถมยังมีดราม่าวิธีการไหว้ รวมถึงของไหว้ที่จะนำมาบูชา  ซึ่งสร้างความข้องใจให้กับชาวเน็ต จนกลายเป็นคำถามว่านี่เหรอเมืองพุทธ

 

"ครูกายแก้ว" ปรากฏครั้งแรกต่อสายตาคนกรุงเทพ จนกลายเป็นไวรัลทั่วโซเชียล

 

1. เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2566 การจราจรบริเวณ ถ.รัชดาภิเษก ติดขัดยาวสะสมถึงสะพานพระราม 7 เหตุจากรถพ่วง บรรทุกรูปปั้นขนาดใหญ่ ติดคานสะพานลอยคนข้าม จราจร สน.พหลโยธิน เข้าช่วยเหลือโดยปล่อยลมยางและเข้าจอดช่องทางซ้ายสุด

 

2. หลังจากนั้นก็มีการเผยแพร่ภาพรูปปั้นในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นรูปปั้นขนาดใหญ่อยู่บนรถบรรทุก ชาวเน็ตต่างสงสัยว่าคือรูปปั้นอะไร โดยคาดเดาวาเป็น เวตาล ตัวละครในวรรณคดี 

 

3. จนมีชาวเน็ตออกมาให้ข้อมูลว่า แท้จริงแล้วรูปปั้นนั้นคือ "ครูกายแก้ว" หลายคนอาจรู้จักในนาม "พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์" มีรูปร่างลักษณะเป็นมนุษย์กึ่งนก เล็บยาว ตาแดง มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวสีทองสื่อถึงนกการเวก รูปปั้นองค์ปฐม "ครูกายแก้ว" ถูกสร้างตามจินตนาการของ อ.สุชาติ รัตนสุข 

 

ครูกายแก้ว

 

4. มีความเชื่อว่า หากบูชา "ครูกายแก้ว" จะช่วยเรื่องความสำเร็จ การค้าขาย เพราะมีลักษณะคล้ายนกการเวก สัตว์จากป่าหิมพานต์ที่มีเสียงไพเราะ จะช่วยดึงดูดใจคนที่ได้ยินเสียง ช่วยโน้มน้าวใจ จึงเป็นที่นิยมในหมู่พ่อค้าแม่ขาย 

 

5. เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2566 ที่โรงแรมเดอะบาซาร์ รัชดาภเษก ตั้งอยู่บริเวณ 4 แยกรัชดา-ลาดพร้าว ได้จัดพิธีเปิดฤกษ์เบิกเนตร "ครูกายแก้ว" พร้อมกับมีพิธีบวงสรวงใหญ่ บรรยากาศในพิธีคึกคัก มีประชาชนผู้ศรัทธาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก จนการจราจรบริเวณนั้นติดขัด

 

ครูกายแก้ว

 

ดราม่าสนั่นชาวเน็ตสงสัย "ครูกายแก้ว" คือใคร มีที่มาจากไหน สมควรไหว้จริงหรือ?

 

1. "ครูกายแก้ว" ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล มีการขุดคุ้ยประวัติ ว่าไม่ใช่สายขาว แต่เป็นสายดำที่มาจากเขมร และคำกล่าวอ้างที่ว่าเป็นอาจารย์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณนั้นไม่จริง

 

2. ชาวเน็ตบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการบูชา "ครููกายแก้ว" มองว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้กราบไหว้บูชาไสยศาสตร์ 

 

3. ซึ่งมีชาวเน็ตอีกฝั่งเปิดเผยว่า "ครูกายแก้ว" นั้นมีมานานแล้ว ตนก็กราบไหว้บูชามานานกว่า 3 ปี แต่เพิ่งจะมาดังเป็นข่าวเมื่อไม่นานนี้ และในต่างประเทศนิยมกราบไหว้บูชากันมานานในหมู่นักธุรกิจ

 

ครูกายแก้ว

 


ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ออกมาพูดถึง "ครูกายแก้ว"  

 

1. ผู้เชี่ยวชาญด้านจารึกเขมรโบราณ ผศ.ดร.กังวล คัชชิมา อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออก มหาวิทยาลัยศิลปากร ออกมาเปิดเผยว่า "ครูกายแก้ว" แท้จริงแล้วไม่มีจารึกใดปรากฏชื่อดังกล่าว หรือบอกว่าเป็นบรมครูพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเขมรโบราณ

 

2. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี มองเรื่องนี้ว่า "ครูกายแก้ว" ไม่ใช่เทพแต่เป็นอสุรกาย ชี้นักการตลาดทำเพื่อต้องการหลอกคนจีน มาลงทุนในย่านนี้และหลอกขายรูปบูชาเท่านั้น

 

3. อาจารย์ เดชา ศิริภัทร เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ดึงสติชาวพุทธ ว่าปรากฎการณ์ "ครูกายแก้ว" ก็เหมือนจาตุคามรามเทพ น่าแปลกใจ ที่ครั้งนี้กลุ่มคนไทยที่เชื่อมั่น​ ศรัทธา​ "ครู​กายแก้ว​" ไม่ใช่กลุ่มผู้สูงวัย​หรืออนุรักษ์​นิยม แต่กลับเป็น​กลุ่มคนรุ่นใหม่​

 

 

โซเชียลเดือด ลูกศิษย์ลึกลับ เผยวิธี ฆ่าหมา-แมวบูชายัญ "ครูกายแก้ว"

 

1. ในเฟซบุ๊กกลุ่ม "ลูกศิษย์ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์" ซึ่งมีสมาชิกราว 1.3 พันคน มีโพสต์ที่สร้างความตกใจให้กับชาวเน็ต โดยระบุว่า "ระหว่างลูกหมากับลูกแมว เอาสัตว์ชนิดไหนมาบูชายัญครูกายแก้วดีครับ แถวบ้านผมมีหมากับแมวเพิ่งคลอดพอดี เลือกไม่ถูก" 

 

2. และอีกโพสต์ออกมาแนะนำวิธีบูชา ระบุว่า "เราหาตามเพจคนโพสต์หาบ้านของแมว ยิ่งเป็นลูกแมวดำยิ่งดี ลูกแมวดำ 9 ตัว ขออะไรได้หมด เอาใส่กระถางสดๆ เอาดินดำกลบ ปลูกดอกไม้ถวายครูท่าน" 

 

ครูกายแก้ว

 

 

3. ทำให้ "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์  Watchdog Thailand Foundation - WDT" ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า "กำลังเป็นประเด็นร้อนข่าวลัทธิกายแก้วใช้ลูกหมาลูกแมวมาบูชายัญ  WDT กำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ขอประชาชนคนรักสัตว์อย่าเพิ่งตระหนกตกใจ แต่ละโพสต์ล้วนใช้ชื่อเฟซฯ อวตารทั้งนั้น"

 

 

ครูกายแก้ว

 

4. แพรรี่ ไพรวัลย์ โพสต์ข้อความวิจารณ์กรณีดังกล่าวว่า "บ้ากันไปใหญ่ล่ะ เลอะเทอะเปรอะเปื้อน ยุคเสื่อมศีลธรรมที่แท้ทรู อย่าหาทำนะคะ การทำลายชีวิตสัตว์อื่น ถือเป็นบาปและไม่ก่อให้เกิดผลสำเร็จใดๆ ในสิ่งที่อ้อนวอนปรารถนาค่ะ การบูชายัญที่ถูกต้องในทางพระศาสนา คือการให้ชีวิต ไม่ใช่การทำลายชีวิต คือการเจริญเมตตา แบ่งปันสิ่งของแก่บุคคลที่ควรให้ ไม่ใช่การเซ่นสรวงบูชาอย่างที่ทำกันนะคะ

 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศลไว้ชัดเลยว่า ผู้ฆ่าย่อมได้รับการฆ่าตอบ ผู้ให้ชีวิตย่อมได้ชีวิต เมื่อให้อายุย่อมได้อายุ เพราะเป็นเหตุให้มีอายุขัยยืนยาว เมื่อให้อภัยและให้ความอิสระเสรีแก่สัตว์อื่น ย่อมมีอิสรภาพไปทุกภพทุกชาติ

 

ครูกายแก้ว

 

5. ล่าสุด นายณัฐวุฒิ รัตนสุข หลานของ อ.สุชาติ ผู้ก่อตั้งเทวาลัยพระพิฆเนศบางใหญ่ ซึ่งภายในเทวาลัยแห่งนี้มีรูปปั้น "ครูกายแก้ว" ขนาดเท่าคนจริง ซึ่งเป็นต้นสายของการบูชา "ครูกายแก้ว" กล่าวว่าที่มีคนในโซเซียลแนะนำว่าให้นำสุนัขหรือแมวไปบูชายัญ "ครูกายแก้ว" นั้น เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจากที่ตนศึกษากับ อ.สุชาติ มาไม่เคยทำพิธีบูชาด้วยของสดแม้แต่อย่างเดียว

 

6. นายณัฐวุฒิ รัตนสุข เปิดเผยว่าห้ามนำของสดไปไหว้บูชา "ครูกายแก้ว" ให้นำแต่ผลไม้ ดอกไม้ ขนมหวาน หรือทองคำไปไหว้สักการะเท่านั้นพอ ไม่มีของสดหรือของมึนเมาใดๆ "ครูกายแก้ว" ไม่ชอบของสด การตั้งโต๊ะทำพิธีจึงใช้วิธีจำลองขนมหรือถั่วต่างๆ ให้เป็นรูปของสดต่างๆ แทน ทั้งหัวหมู ไก่ เป็ด กุ้ง 

 

ครูกายแก้ว