ไม่ไหวบอกไหว "หนุ่ม" สิงคโปร์ นักกินจุ ซัด แฮมเบอร์เกอร์ 3.2 กิโลกรัม รวดเดียวหมด ในเวลา 30 นาที เกิดอะไรขึ้นกับเขา เอ็กซเรย์ แล้วอึ้ง
หลายคนน่าจะพอคุ้นหูกับคำว่า "นักกินจุ" กันมาบ้าง หรือผู้ที่ชอบในการลิ้มลองอาหารรสเลิศ มีความใฝ่ฝันที่ท้าทายว่า อยากแจ้งเกิดในฐานะ "นักกินจุ" และลงสนามแข่งขันมาหลากหลายรายการ จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ซึ่งหลายคนก็ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติและอิสระ แต่นอกจากชื่อเสียงและเงินทองแล้ว ยังได้ของแถมมาด้วย คือ ปัญหาทางด้านสุขภาพ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ส่งผลโดยตรงกับร่างกาย เช่นเดียวกับหนุ่มรายนี้ ที่เค้าเข้าร่วมการแข่งขันกินเร็ว ด้วยการกินแฮมเบอร์เกอร์ จำนวนมาก ไปดูผลลัพธ์ว่า เกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มรายนี้
โดยเพจเฟซบุ๊ค Health online by หมอเฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ โพสต์ข้อความชวนอึ้ง เมื่อ "นักกินจุ" ชายหนุ่ม อายุ 30 ปี ชาวสิงคโปร์ เข้าร่วมการแข่งขันการกินเร็ว กินจุ โดยเค้ากิน แฮมเบอร์เกอร์ไป 3.2 กิโลกรัม ภายในเวลา 30 นาที หลังจากนั้น ชายคนนี้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่ากระเพาะขยายอย่างมาก มีอาหารที่ไม่ย่อยคั่งอยู่เต็มกระเพาะ อวัยวะข้างเคียงถูกกระเพาะกดเบียด ร่วมกับพบภาวะเลือดเป็นกรด คุณหมอเตรียมพิจารณาผ่าตัดเปิดหน้าท้อง แต่โชคดีหลังใส่สายทางจมูกเพื่อสวนล้าง และดูดเศษอาหารออก คนไข้อาการดีขึ้น จึงไม่ต้องผ่าตัด
นักกินจุ ขึ้นชื่อเรื่องสามารถกินอาหารปริมาณมากลงกระเพาะ โดยท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ ในทางการแพทย์การกินจุและกินเร็ว มีความเสี่ยงหลายอย่าง
- การกินเร็วโดยไม่เคี้ยว ทำให้มีอาหารชิ้นใหญ่คั่งในกระเพาะ ย่อยยากและอุดตันง่าย
- กระเพาะอาหารขยายทำให้ระยะยาวนำไปสู่ภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า
- กระเพาะขาดเลือด
- หูรูดหลอดอาหารฉีกหรือกระเพาะทะลุ ในต่างประเทศมีคนไข้ที่ต้องผ่าตัดหลายราย
- สำลักอาหารลงปอด (สาเหตุหลักของการเสียชีวิตระหว่างแข่งขันคือสำลักอาหาร)
แล้วคนทั่วไปทานบุฟเฟ่ต์บ่อย ๆ เป็นอะไรไหม
คำตอบ ทานได้ แต่อย่าทานจุ ทานเร็ว เกินลิมิตของตัวเอง ถ้าทานอาหารจนกระเพาะขยายถึงจุดหนึ่งแล้ว ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการจุกแน่น คลื่นไส้ ทำให้เรารู้สึกไม่อยากทานอาหารต่อ พยายามอย่าฝืนกินต่อจนเกินลิมิตตัวเอง
และนอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว การเป็น นักกินจุ ยังพบปัญหาสุขภาพอีก 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1. น้ำหนักตัวมากขึ้น
น้ำหนักตัวตามปกติของมนุษย์ จะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามโครงสร้างของร่างกาย และนอกเหนือจากนั้นก็จะมาจากอาหาร และการออกกำลังกาย แต่สำหรับนักกินจุ ต้องเผาผลาญมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า จึงจะสามารถย่อยสลายพลังงานส่วนเกิน และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จนหมด ถ้าไม่เช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อระบบภายในร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านน้ำหนักตัว
2. ระบบกระเพาะอาหารและลำไส้แปรปรวน
การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง หลายคนก็คงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "กินพอดี" แล้วจะดีต่อสุขภาพ นั่นก็อาจจะเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าคุณเป็นนักกินจุ กระเพาะอาหาร และลำไส้ มันจะทำงานหนักจนกลายเป็นเรื่องที่ผิดปกติ คุณเคยลองนึกถึงอาหารน้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม ยัดเข้าไปในกระเพาะของคุณ แน่นอนว่ามันย่อยได้ยาก เพราะฉะนั้นแล้วคนที่เป็นนักกินจุ จะมีปัญหาทางด้านระบบกระเพาะอาหารและลำไส้
3. โรคภัยไข้เจ็บอยู่ใกล้มือมากกว่าเดิม
การรับประทานอาหารมาก ถ้าเป็นตอนเด็กก็บอกได้เลยว่าน่ารัก แต่ถ้าเป็นนักกินจุ ควรจะต้องอยู่ในช่วงวัยรุ่น หรือวัยกลางคน เพราะระบบเผาผลาญในช่วงนั้นจะดีเยี่ยมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเป็นช่วงอื่น หรือมีความผิดปกติของร่างกาย อาหารที่รับประทานเข้าไป จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นไขมันและน้ำตาล ซึ่งจะอยู่ในร่างกายและกระแสเลือดของเราโดยตรง ข้อนี้ควรระวังไว้ เพราะอาจจะเกิดปัญหาทางด้านสุขภาพได้ในอนาคต
เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote
ข่าวที่เกี่ยวข้อง