คนไข้ทะลัก "รพ.นพรัตน" แจงคนไข้บัตรทองแห่ใช้สิทธิ หลัง สปสช.เลิกสัญญา

จากกรณีที่กลุ่มภาคีพยาบาล (Nurses Connect)  ได้มีการโพสต์ระบุว่าเกิดวิกฤตใน รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรอย่างหนัก หลังการประกาศยกเลิกและเปลี่ยนสิทธิบัตรทอง ทำให้มีผู้มารับบริการเป็นจำนวนมาก พบว่าผู้ป่วยต้องรอเตียงรักษากว่า 70 ราย ขอผู้มีอำนาจตรวจสอบสถานการณ์และแก้ไขด่วนนั้น

เรื่องนี้  นพ.เกรียงไกร นามไธสง  ผอ. "รพ.นพรัตน" ออกมายอมรับว่าเกิดปัญหาดังกล่าวจริง เนื่องจากโรงพยาบาลนพรัตนฯเป็น 1 ใน 3 รพ.ของรัฐสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็น รพ.เลิดสิน ,รพ.ราชวิถี ที่ต้องรองรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ถูก สปสช.ยกเลิกสัญญากับ รพ.เอกชน ที่มีประมาณ 7 แสนคนทั่วกรุงเทพฯ ทำให้คนไข้กลุ่มนี้จะไหลเข้ามารับบริการ รพ.ของรัฐทั้ง 3 แห่ง ซึ่งเชื่้อว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีสภาพไม่ต่างกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของ "รพ.นพรัตน" ต้องรองรับผู้ป่วยพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกทั้งหมด ซึ่งผู้ป่วยค่อนข้างเยอะเพิ่มขึ้นคิดเป็น 20-30% ของ 7แสนคน ก็ประมาณ 1.4 แสนคน  โดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินที่จำเป็นต้องแอดมิททำให้เตียงเริ่มไม่พอ ซึ่งทางรพ.เองก็พยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด แต่ด้วยสภาพของคนไข้ที่มารับบริบริการจำนวนมากก็อาจจะต้องรอนาน เพราะคนไข้เหล่านี้จะไปที่อื่นก็ไม่ได้ ด้วยจรรยาบรรณแพทย์เราไม่สามารถปฏิเสธคนไข้ได้ ก็ต้องรักษาตามศักยภาพที่มีให้ดีที่สุด

นพ.เกรียงไกร บอกว่าอีกหนึ่งปัญหาที่เราเจอขณะนี้คือ เจ้าหน้าที่พยาบาล "รพ.นพรัตน" เริ่มมีการสมองไหลมากขึ้น เนื่องจากภาระงานหนักเพิ่มขึ้น แต่เราก็พยามแก้ปัญหาด้วยการจ้างพาร์ทไทม์เข้ามาเพิ่ม บวกกับอัตรากำลังที่รับเข้ามาปกติปีละประมาณ 50-60 คน แต่ก็ยังไม่พอกับภาระงานที่เพิ่มขึ้นขณะนี้  อีกทั้งด้วยการเป็นรพ.ของรัฐ

การที่จะขยายกรอบอัตรากำลังในระบบราชการมันไม่ง่าย  ซึ่งก็น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่บุคลากรที่ทำงานหนักทุกคน ทางผู้บริหารก็พยายามแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลด้านสวัสดิการ และการจ้างพาร์ทไทม์เพิ่ม รวมถึงการเกลี่ยกำลังคนให้เหมาะสมในส่วนของงานคนไม่พอ แต่ต้องเข้าใจว่าทุกที่เป็นเหมือนกันหมดก็ต้องยอมรับสภาพตรงนี้

ผอ. "รพ.นพรัตน" ยังได้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการประชุมกับทาง สปสช.เพื่ออธิบายถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทางสปสช.บอกว่ามีความจำเป็นต้องยกเลิกสัญญา รพ.เอกชน เนื่องจากบอร์ดอนุมัติให้ยกเลิก ขอให้ทางรพ.ของรัฐรับคนไข้ไปก่อน แล้วหลังจากนี้ก็จะพยายามหา รพ.มารับช่วงต่อให้  แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีรพ.ที่จะมารับ เพราะ รพ.ที่พอจะรับได้ก็ถูกยกเลิกสัญญาหมดแล้ว แล้วจะทำยังงัยต่อ 

ขณะที่ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่บุคลากรในขณะนี้ ทางผู้บริหารก็พยายามดูแลให้กำลังใจเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจ่ายค่าโอทีก็ให้เต็มที่ อะไรที่สนับสนุนได้ก็จัดให้หมด แต่ด้วยสภาพงานที่มันหนักก็เข้าใจและเห็นใจ แต่ก็ขอให้ช่วยกันในสถานการณ์แบบนี้ หลังจากนี้ก็จะรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นไปยังกระทรวงช่วยหาทางออกเรื่องนี้ต่อไป