เด่นโซเชียล

ผวา "ฝีดาษลิง" แผลเป็นแบบไหนเท่ากับ ปลูกฝี สำคัญป้องกันติดเชื้อได้สูงมาก

ผวา "ฝีดาษลิง" แผลบนแขนแบบไหนเท่ากับ ปลูกฝี แล้ว หมอแล็บแพนด้า เผยข้อมูลสำคัญมากเพราะป้องกันการติดเชื้อได้สูง

จากสถานการณ์ "ฝีดาษลิง" ที่เริ่มมีการตรวจพบในประเทศไทย โดยชายชาวไนจีเรียตรวจพบรายแรกนั้น ส่งผลให้ประชาชนเกิดความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของ โรคฝีดาษลิง มากแม้ว่าจะมีข่าวออกมาว่าไทยมีวัคซีน "ฝีดาษลิง" ที่แช่แข็งไว้นานกว่า 40 ปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนเบาใจลง เพราะ ณ เวลานี้ สถานการณ์โควิดก็ยังไม่ได้คลี่คลายลง หากเกิดการระบาดของ โรคฝีดาษลิง ก็อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก 

ล่าสุด เฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาระบุข้อมูลเกี่ยวกับ "ฝีดาษลิง" การ ปลูกฝีดาษ ของคนไทยในยุคที่ผ่านมา โดระบุ ว่า ถกแขนเสื้อขึ้นมาดูยังครับ ปลูกฝีอะไรกันบ้าง

ตอนที่เราเป็นเด็ก เราจะได้รับวัคซีนหรือที่เรียกกันติดปากว่า ปลูกฝี  อยู่ 2 ชนิด ก็คือวัณโรค (BCG) กับฝีดาษ (Smallpox)  ทีนี้ก็ฉีดกันมาเรื่อยจนประเทศไทยเราควบคุมมันได้ ไม่มีโรคฝีดาษเลยตั้งกะปี 2517 พูดง่ายก็คือตั้งแต่ปี 2517 ก็เริ่มทยอยเลิกฉีดกันไป ฉีดมั่งไม่ฉีดมั่ง และในที่สุดทั่วโลกก็เลิกปลูกฝีป้องกันฝีดาษตั้งแต่ปี 2523 อย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้น เด็กวัยรุ่นทั่วโลกที่เกิดหลังปี 2523 พอถกแขนเสื้อขึ้นมา จะเจอแผลเป็นแค่อันเดียวก็คือ แผลที่ปลูกผีป้องกันวัณโรค(BCG)

หมอแล็บแพนด้า ยังระบุต่อว่า ทำไมต้องพูดเรื่องการ ปลูกฝี ก็เพราะว่าวัคซีนฝีดาษที่เราเคยฉีดในวัยเด็ก มันสามารถป้องกัน "ฝีดาษลิง" ได้สูงมากน่ะสิครับ ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่ามันเข้าไทยมาแล้วรายแรกที่ภูเก็ต จนตอนนี้มันย้ายไปทางสระแก้วแล้ว 5555  ใครเคยฉีดอะไรมา จะดูง่ายมากครับ ส่วนใหญ่นะ ไม่ใช่ทั้งหมดเสมอไป
- แผลปลูกฝีป้องกันฝีดาษมักจะแบนราบ หรือบุ๋มลงไปนิดหน่อย 
- แผลปลูกฝีป้องกันวัณโรค(BCG)มักจะนูนขึ้นมา

เรื่องฝีดาษลิงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว ลองสังเกตตัวเองซักนิดปลูกฝีอะไรบ้าง ให้ถกแขนเสื้อนะครับ ไม่ใช่ไปถกกางเกง อันนั้นอาจจะเจอฝีมะม่วงได้ 

ข่าวยอดนิยม