เด่นโซเชียล

"ติดเกม" หนัก จนเสีย "เงินเดือนเป็นแสน" รู้สาเหตุอาจถึงขั้นต้องพบ จิตแพทย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากคนบ้างาน ทำงาน 14 ชั่วโมงต่อวัน กลายเป็นคน "ติดเกม" จนเสีย "เงินเดือนเป็นแสน" หาสาเหตุอาจเป็นเพราะอาการป่วยจนถึงต้องพบ จิตแพทย์

"ติดเกม" ทำชีวิตเปลี่ยน จนทำให้ ชายคนหนึ่งที่มีเงินเดือนจากการทำงาน "เงินเดือนเป็นแสน" ต้องมีชีวิตการงานที่ผกผัน ทั้งจากปัญหาเรื่องการจัดเวลา ไปจนถึงอาจมีอาการป่วยทางจิต โดยชายคนนี้ ได้ตั้งกระทู้เล่าเรื่องราวของตนเองไว้  "มีเงินเดือนเป็นแสน ๆ แต่ผม "ติดเกม" จนไม่ได้ทำงานเลยครับ" 

 

สวัสดีครับ ผมทำอาชีพเป็นแรงงานนอกระบบครับ งานขึ้นอยู่กับโปรเจ็ก ๆ ไป แต่โดยรวมแล้วอยู่ที่การตกลงกันของนักลงทุน ผมอายุ 25ปี ก่อนหน้านี้ผมทำงานปกติครับตามเวลาปกติของคนทำงานทั่วไปคือ 12-14 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งผมทำงานที่ห้อง งานค่อนข้างใช้สายตาและออกแบบ และใช้หัวขั้นสูงจนถึงขีดสุดทุกวินาที 

 

ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าผมทำงานได้อย่างเต็มที่มาก ๆ ทุกวัน วันละ 14 ชั่วโมง แต่ต่อมาหลาย ๆเดือนรู้สึกว่าเหนื่อยและอยากพัก เลยไปเล่นเกมและ "ติดเกม" ครับ ไม่ค่อยอยากทำงาน เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่บ้างานมาก ๆ ถ้าได้ทำงานก็จะทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนครับ บางครั้งก็ทำงาน 24-36 ชั่วโมงแล้วค่อยนอนครับ.. ข้าวก็ไม่ได้กินเลย 

การ "ติดเกม" ครั้งนี้ ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ ต้องสูญเสียรายได้จากที่เคยได้ "เงินเดือนเป็นแสน" เนื่องจากเขาได้บอก  ต่อมางานผมก็ถูกยกเลิกและขาดรายได้ไปเดือนนั้น 2 แสนกว่าบาท เพียงเพราะงานผมไม่เสร็จตามเป้าเพราะเล่นเกม บวกกับนายจ้างมีการเปลี่ยนแปลงแผนธุรกิจด้วย เลยถูกยกเลิกเงินไปดื้อ ๆ ทุกวันนี้รู้สึกว่าตัวเองไม่อยากทำงานเลย มีใครเป็นบ้างครับ หลัก ๆ คือเครียดหลาย ๆ อย่างครับ เช่น แม่ของแฟนป่วย เดินไม่ได้ ค่าห้องต่าง ๆ เลี้ยงดูน้องสาวและแฟนและตัวเอง และงานก็ไม่ได้มั่นคง แต่ผมกลับทำตรงกันข้ามคือเล่นเกม แทนที่จะขยันครับ 

 

ผมแค่รู้สึกว่ามันเหนื่อยล้าจากการทำงานอะครับ เหมือนกับว่าทำงานคือการทำร้ายร่างกายตัวเอง เพราะผมพักไม่ได้ เหมือนติดลมอะครับจนไม่ได้กินข้าวกับนอนเลยครับ คือผมเป็นโรคอะไรหรือเปล่าครับ หรือผมแค่ขี้เกียจนิสัยไม่ดีครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

 

ความคิดเห็น คอมเมนต์จากชาวเน็ต จากกระทู้ของชายหนุ่มคนนี้ ทำให้เราได้รู้ว่าการ "ติดเกม" ของชายหนุ่มคนนี้ อาจเกิดจากอาการป่วยจนถึงต้องพบจิตเเพทย์ และยังมีดราม่า เรื่องการ "ติดเกม" ที่มีบางคนวิจารณ์ว่า เล่นทำไปทำไมโต ๆ กันแล้ว จนถูกชาวเน็ตโต้กลับว่าการเล่นเกมคือการพักผ่อนชนิดหนึ่ง เเต่ชายคนนี้ผิดที่จัดสรรเวลาไม่ได้

- ลองถามตัวเองก่อนดีกว่าครับ ว่าจะเล่นไปทำไม โต ๆ กันแล้วครับ กลับมาสู่โลกแห่งความจริง สร้างเนื้อสร้างตัว ทำชีวิตให้ดี มีประโยชน์ มีคุณค่า ใส่ใจครอบครัว และคนรอบข้าง จะดีกว่านะครับ ผมแต่ก่อนก็มีช่วงนึงที่ "ติดเกม" มาก จนไม่อยากทำงาน แต่สุดท้ายก็เลิกได้ครับ ไม่กลับไปเล่นอีกเลย ไม่ว่าจะเกมอะไรก็ตาม คิดย้อนกลับไปบอกได้เลยครับว่าเสียดายเวลามาก ๆ มันไม่ใช่โลกแห่งความจริงครับ ยกเว้นว่าคุณเล่นแล้วหาชื่อเสียงเงินทองจากมันได้

 


- ทำไมถึงเล่นเกมไม่ได้ครับ ถ้าแบ่งเวลาเป็น ผมเล่นเกมตั้งแต่เด็กปัจจุบัน 50 ก็ยังเล่นอยู่ กลางวันก็ทำงานปรกติ  เล่นเกมก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง อ่านหนังสือประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ไม่ได้เสียการเสียงานอะไรครับ การพักผ่อนของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน

 

 

- ผมคิดว่าการเล่นเกมเป็น "การพักผ่อน" รูปแบบหนึ่ง ถ้าการพักผ่อนเป็นการหนีโลกความจริง ถ้ายังงั้น คุณก็ต้องห้ามพักผ่อน ห้ามทำอะไรก็ตามที่ทำแล้วไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ไม่ได้เป็นการสร้างเนื้อสร้างตัว ทั้งหมดเลยนะ คุณทำได้จริงหรือเปล่า หรือแค่พูดสวยหรูบนโลกอินเทอร์เน็ต  ไม่ต้องกินกาแฟ ไม่ต้องชงชา ที่ชอบดื่ม เพราะมันไร้ประโยชน์ สิ้นเปลือง ดื่มแต่น้ำเปล่าพอ ถ้าดูทีวีต้องดูแต่ข่าว หรือสารคดี เพราะละคร, รายการวาไรตี้ หรือภาพยนตร์ ก็ไร้ประโยชน์เหมือนกัน มีลูกก็อย่าซื้อของเล่นให้ลูก มีแฟนก็อย่าซื้อของที่แฟนอยากได้ให้แฟนนะ เพราะ ซื้อไปก็ทำให้เงินในบัญชีลด กีฬาเล่นได้ แต่อย่าไปเสียเวลาเชียร์ทีมโปรดล่ะ เปลืองเวลา ไปเที่ยวก็ไม่จำเป็นหรอก เปลืองเงิน ไม่ต้องไปเปิดโลกทัศน์ หนังสือก็อ่านเฉพาะหนังสือเรียน หนังสือให้ความรู้ นิยาย การ์ตูนอย่าได้แตะ เรื่องตลกก้อย่าไปฟัง เสียเวลาไม่ได้อะไร ฯลฯ

 


- อันนี้ผมเข้าใจนะครับ เพราะผมเองก็เป็นประเภททำอะไรก็ทำจริงจัง เวลาเล่นเกมก็เลยจริงจังไปด้วย เคยติดเกมมาเป็นสิบปี เคยตั้งแต่ติดหนักมาก จนตอนหลังก็เริ่มเล่นเบาลง 
ฟังข้อแนะนำนะครับ  การเล่นเกมมันเป็นการกระตุ้นอะดรีนาลีน ทำให้เราตื่นเต้น มีความสนุก (ไม่ใช่ความสุข)  จึงติดอยากเอาชนะไปเรื่อย ๆ  วิธีแก้ไม่ยากครับ   ต้องหยุดเล่นสักพัก เช่น 2-3 อาทิตย์ แล้วอาการติดอะดรีนาลีนมันจะหายไป เล่นก็ได้ไม่เล่นก็ได้ จากนั้นค่อยมาบริหารจัดการเวลา งานต้องมาก่อน แล้วค่อยแบ่งเวลามาเล่นเกมถ้ายังอยากเล่น ผมเองค่อย ๆ ลดลงและหาสิ่งอื่น ๆ ทำ จนเดี๋ยวนี้แทบไม่ได้เล่นละ เพราะรู้สึกว่ามีสิ่งที่น่าสนใจกว่าเล่นเกมเยอะมากในชีวิต จำไว้นะครับว่าเล่นเกมมันสนุก   แต่มันไม่ใช่ความสุข

 


- มีสองวิธีเลิกได้ครับจากประสบการณ์คล้ายกัน
1. เล่นแบบสปีดรันมันทุกเกมเลย แต่ต้องเล่นแบบคนเดียวนะ เล่นมันทุกเกมที่อยากเล่น ประมาณ 5ปีคุณจะอิ่มตัวเอง
2. รอให้คุณเสียบางอย่างที่สำคัญมากในชีวิตก่อนครับ แล้วคุณจะเสียดายที่ไม่จัดเวลา
คำแนะนำส่วนตัวคือแบ่งเวลาเล่น ตั้งนาฬิกาไว้ไม่เกิน 3 ชม./วันครับ

 


- สิ่งที่คุณเป็น เรียกว่า เบรินเอาว์ เอฟเฟคครับ เป็นโรค และ รักษาได้เหมือนโรคซึมเศร้าครับ  ไปหาหมอจิตแพทย์ เพื่อรับคำปรึกษาได้เลยครับ อย่าทิ้งไว้นาน จะพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

 


- คุณ Burn out ค่ะ บางคนแวะมาอ่านอาจจะไม่เข้าใจ เหมือนเงินเยอะไม่ทำ ดันไปเล่นเกม แต่จริง ๆ คือ เหนื่อยมาก เลยพยายามหาที่ปลดปล่อย จนเริ่มกลายเป็น ปฏิเสธโลกแห่งความจริง  หนีชีวิตจริงที่ต้องทำงาน แน่นอนว่าต้องเริ่มแบ่งเวลาค่ะ  อย่าให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาก่อนจะยิ่งไปกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้ แวะไปปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ สมัยนี้มุมมองเปลี่ยน  ความเครียด , ภาวะ burn out , ก็สามารถไปปรึกษาได้ ปกติ  

เราก็เป็น .. ไม่ได้ติดเกมนะ  ที่พึ่งทางใจคน burn out มันมีหลายอย่างค่ะ บางคน ติดShopping ,ติด การเป็นติ่ง, ติด  ซีรี่ etc.

 

 

- เราก็เป็น Burn out รับ 3 งานพร้อมกัน คือมัน handle ไหวนะ แต่ไม่อย่ากทำแล้ว สมองมันล้า ตอนแรกเราเป็นแบบคุณเลย คือเล่นเกมส์มันทั้งวัน งานก็ทำเอาวินาทีสุดท้ายให้พอมีส่ง คุณภาพงานก็ออกมาห่วย ๆ พอถึงจุด ๆ นึง คุณก็จะไม่อยากเล่นเกมอีก แต่ก็จะไม่ได้อยากทำงานนะ อยากนั่งเฉย ๆ นั่งโง่ ๆ เครียดถึงแม้ไม่ได้ทำงานก็เครียด จบที่เราไปหาจิตแพทย์ค่ะ ก่อนจะเป็นซึมเศร้า ลดงานลงเหลือ 2 งาน เงินก็ลดแหละ แต่ก็ยังอยู่ได้อยู่

 


- ผมเป็นมาก่อนครับ พยายามปรับเวลาแต่เพราะเกมที่ผมเล่นมันมีกิจกรรมรายวัน กิจกรรมตามเวลา สุดท้ายก็กระทบกับงาน ผมก็คิดวางแผนงานแต่สุดท้ายเกมก็ดึงเวลา และเกมสมัยนี้ทำลายสมาธิ และทำให้ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน สุดท้ายผมตัดใจเลิกเล่นครับ ก็ยากและใช้เวลานานพอควรแต่ก็สำเร็จครับ พอเลิกได้นึกมองกลับไปรู้สึกเสียดายเวลาและโอหาสต่างๆมากเลยครับ แนะนำเลิกเล่นได้จะดีมากครับ มันมีกิจกรรมคลายเครียดอย่างอื่นครับ คุณไม่ได้เป็นโรคขี้เกียจแต่คุณขาดสมาธิครับ เลยทำงานไม่ได้ครับ

คลิกอ่านกระทู้

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ