ไหวไหม พนักงาน "ติดโควิด" รอบที่ 5 วัคซีน 5 เข็ม หัวอก นายจ้าง ต้องทำยังไงดี

เมื่อ โควิด สร้างความปวดหัวให้ เจ้านาย ไม่ใช่เพราะเจ้านาย "ติดโควิด" เเต่เป็นเพราะ พนักงาน ฝ่ายการตลาด ติดโควิดแล้วรอบที่ 5 คุณพระ! อ่านไม่ผิดรอบนี้ รอบที่ 5 ติดทุกซีซั่น ติดก่อนมีวัคซีน ติดหลังฉีดวัคซีนแล้ว โดย พนักงาน คนนี้ ฉีดวัคซีน แล้ว 5 เข็ม ติด โควิด หลังวัคซีนทุกเข็ม ยกเว้นเข็มที่ 4 เข็มเดียว ทำให้ถึงกับต้องมีการตั้งกระทู้กันเลยว่า "บริษัท มีสิทธิ์หักเงินเดือนพนักงาน ที่ติดโควิดประจำไหม" หลังเกิดกรณีแบบนี้

โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่า ตั้งแต่มีโควิดมา พนักงานคนแรก คนนี้ "ติดโควิด" ตั้งแต่ยังไม่มีวัคซีน แล้ว ลาพักรักษาตัว โอเค บริษัทอนุญาตให้ลาพัก ไม่มีการหักเงินเดือน

หลังจากมีวัคซีน เข็ม 1 เข็ม 2 เข็ม 3 พนักงาน มีการ "ติดโควิด" ทุกเข็มหลังฉีด ก็ ได้ลาพักตามใบรับรองแพทย์ เข็ม 4 ไม่มีปัญหา แต่ เข็ม 5 ฉีดแล้วก็ยังเจอ เอทีเค และ จะลากักตัวอีก

ตำแหน่งพนักงานคนนี้คือ ฝ่ายการตลาด ต้องไปพบลูกค้าเพื่อปิดงาน รับใบสั่งซื้อ รวมถึงจ่ายเงิน เซ็นชื่อ เช็ค คือพูดง่ายๆ จะได้ตังเขาต้องไป

 

แต่ทุกครั้งที่ "ติดโควิด" และ กักตัว เขาต้องลางาน และ หัวหน้างานคือคนจ่ายเงินเดือนเขา ต้องไปทำงานแทนเขาเองทุกครั้ง เหมือนกับว่า จ้างมาจ่ายเงินเดือน แต่ไม่ได้ทำงาน และ คนจ่ายเงินต้องไปทำงานเองบ่อยเกินไป

การระมัดระวัง รักษาเนื้อรักษาตัว ไม่ให้ "ติดโควิด" แม้จะฉีดวัคซีนกี่เข็มก็ตาม ควรเป็นหน้าที่ของ ลูกจ้าง ด้วยไหม ? ไม่ใช่ถือว่า ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ป่วยหนัก ก็ไม่ระวังตัว ปล่อยตัวให้ติดโควิด บ่อยครั้งจนแทบไม่ได้ทำงานเลย

เจ้าของกระทู้ยังได้นำไปเทียบกับพนักงานคนที่สอง คนนี้ฉีด 2 เข็ม แล้วไม่เคยติดเลยสักครั้งยังไม่ได้เลย เพราะเขาระมัดระวังตัว ทั้ง เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก และ การล้างมือ รวมถึง ทานอาหารผ่านความร้อนตลอด ( ในตำแหน่งงานเดียวกัน )

เมื่อเกิดกรณีแบบนี้ ตามกฎหมายบริษัทมีสิทธิ์ทำอย่างไร กับ พนักงานคนแรกที่ "ติดโควิด" ประจำได้บ้าง เพราะไม่ได้ทำงานเลย แต่รับเงินเดือนเท่าคนที่สอง แม้ว่าจะไม่ป่วยหนัก แต่หน้าที่การระมัดระวังตัว เพื่อไม่ให้ ติดโควิด และ มาทำงานตามปกติ เป็นหน้าที่พนักงานที่ควรปฏิบัติหรือไม่ หรือว่า กฎหมายคุ้มครอง พนักงานที่ติด โควิด ทุกกรณี ?

 

อ่านเรื่องราวของพนักงานรายนี้ ชาวเน็ตถึงกับปวดหัวว่า ดูแลตัวเองยังไงให้ "ติดโควิด" ถึง 5 รอบ เเม้เชื้อจะมีการกลายพันธุ์ติดง่ายขึ้นก็ตาม ถึงทำงานเป็นบุคลากรทางการเเพทย์ ยังไม่ติดบ่อยเท่านี้เลย หรือ บางคนก็มีคำถามว่า เอ๊ะ ติดจริงไหม เพราะเเสดงผลตรวจเเค่ ATK 

- ติดก่อนวัคซีน 1 ครั้ง หลังจากนั้น 5 เข็ม เข็มละครั้ง ยกเว้นเข็ม 4 แปลว่าติดไปแล้ว 5 ครั้ง

ช่วงแรก ๆ ต้องกักตัว 14 วัน แล้วมาเหลือ 10 วันตอนหลัง ผมให้ ครั้งที่ก่อนฉีด กับเข็ม 1 ถือเป็นช่วงแรกละกัน ก็คือ 14+14+10+10+10 หักเสาร์อาทิตย์ไป 14 วัน สรุปแล้วหยุดไป 44 วันแล้ว เกินสิทธิ์ 30 วัน/ปีไปไกล สมควรหัก เป็นผมจะจ้างออกด้วยซ้ำ

 

- ติดจริงหรือเปล่า? อันนี้ได้ไปตรวจ PCR เพื่อยืนยันผลไหม? ถ้าบ่อยขนาดนั้นเจอ ATK False Positive หรือเปล่า? หรือมีการสร้างผล ATK ปลอมไหม?

 

- ใช้ชีวิตยังไงให้ติดได้ทุกซีซั่น สงสัยมาก ตั้งใจปลอมผลตรวจรึเปล่า เพื่อไม่เข้าทำงาน มีใบรับรองแพทย์มั้ย

 

- ต้องแน่ใจก่อนว่าเป็นการติดเชื้อจริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นการติดเชื้อจริง​  มันอาจมาจากสาเหตุสภาพร่างกายแต่ละคนมีความไวต่อเชื่อโรคต่างกัน​ สภาพแวดล้อมอาศัยต่างกัน​  การที่พนักงานไปฉีดมา​5-6 เข็ม​ เขาคงไม่ได้อยากเป็นโรค

 

- ตามกฎหมายลาป่วยได้รับค่าจ้างไม่เกิน 30 วัน ระยะกักตัวโควิดค่อนข้างนาน โดยเฉพาะรอบแรก ๆ ติดมา 4 รอบนี่คิดว่าน่าจะลาเกิน 30 วันแล้วนะ ถ้าเกินก็ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างในส่วนที่ลาได้แล้ว ส่วนการป้องกันปัญหาในระยะยาวต่อไป ควรเพิ่มระบบจูงใจพนักงาน เช่น มีเบี้ยขยันสำหรับคนไม่ขาดลามาสาย การลามีผลต่อการประเมินขึ้นเงินเดือนและจ่ายโบนัส "อย่างมีนัยยะสำคัญ" ฯลฯ

 

- ทุกครั้งที่ลามีใบรับรองแพทย์ออกด้วยคลินิกหรือ รพ. ผมว่า พนง.คนนี้ดูน่าสงสัย พูดถึงเรื่องลาป่วยก็ลาได้ 30 วันตาม กม. กำหนด มากกว่านั้นก็หักค่าแรงไป

 

- ถ้าเกิน 30 วันแล้วบริษัทจะหักเงิน แต่เค้าไม่อยากให้หัก โดยติดโควิดครั้งต่อไปแล้วไม่บอกแต่ยังมาทำงานละครับ?

 

- หลายที่มีกรณีไล่พนักงานออก เพราะปลอมผลตรวจโควิด

 

- ในกรณีที่ลูกจ้างใช้สิทธิลาป่วยในรอบปีครบ 30 วันแล้ว รวมทั้งลาหยุดพักผ่อนประจำปีครบแล้ว หากทางราชการมีคำสั่งให้หยุดเพื่อดูอาการ 14 วัน หรือบริษัทมีคำสั่งให้หยุดดูอาการถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ลูกจ้างมีสิทธิ์ลาป่วยได้ "โดยนายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างได้" แต่จะถือว่าขาดงานไม่ได้ ให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเงินทดแทนจากประกันสังคมตามสิทธิที่พึงได้ตามหลักเกณฑ์ที่ สปส. กำหนด

 

- เป็นไปไม่ได้ป่าวคะ ที่จะติดถี่ขนาดนั้น เพราะ จากที่เราเคยติด หมอบอกว่าถ้าติดแล้ว เราจะไม่สามรถติดได้อีก 3-4 เดือน เพราะภูมิจะสูงมาก ยิ่งถ้าติดแล้วก็ฉีดวัคซีนหลังติดด้วยภูมิก็นะสูงมากๆๆๆๆ

- ติดเยอะขนาดนี้ผิดปกติจริงๆนะ พยาบาลทำงานหน้างาน เห็นติด 3 รอบยังว่าเยอะเลย
เราว่าก็คงทำได้สองอย่าง
1. ลาป่วยเกิน 30 วัน ส่วนที่เกินก็ต้องลาไม่รับค่าจ้าง
2. คะแนนประเมินงานปลายปี ก็ตามผลงาน

 

- ไม่ใช่กับ Omicron ครับ เพราะมันหลบเลี่ยงภูมิเก่งมาก ไม่ว่าจะภูมิจากวัคซีน หรือภูมิจากการติดเชิ้อ แถมมีหลาย variants ที่โครงสร้างต่างกัน คุณติด Original Omicron BA.1 หายแล้ว มีภูมิ แต่ถ้าคุณไปเจอ BA.2 BA.4 BA.5 ก็สามารถติดซ้ำได้ทันที เพราะมันต่างกันค่อนข้างเยอะ เคยอ่านเจอที่อังกฤษ คนหายจาก Omicron แค่อาทิตย์เดียวก็ติดใหม่ เชื่อคนละ variants
 

 

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลประกันสังคม พบว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับสิทธิการลาหยุดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ซึ่งก็คือ สิทธิลาป่วย 30 วันแรกจะได้รับค่าจ้างจากนายจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากต้องหยุดพักรักษาตัวนานกว่า 30 วัน สามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วย

 

ส่วนของสิทธิประโยชน์ ผู้ประกันตนมาตรา 39 ได้รับเงินทดแทนร้อยละ 50 คำนวณจากฐานค่าจ้างอยู่ที่จำนวน 4,800 บาท ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน ยกเว้นได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคเรื้อรัง จะได้เงินทดแทนไม่เกิน 365 วัน 

 

คลิกอ่านกระทู้ 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek